ศิลปะแห่งการ “ช่างแม่ง” วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ ในการช่างแม่ง “ช่างแม่ง” ยังไงให้ชีวิตแฮปปี้กว่าเดิม
ศิลปะแห่งการช่างแม่ง
การช่างแม่งไม่ใช่การไม่รู้สึกกับทุกสิ่ง แต่เป็นการรู้สึกเฉพาะกับสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ซึ่งเราต้องตัดสินใจเอาเองว่า เรื่องไหนสำคัญหรือไม่สำคัญกับตัวเราบ้าง เราต้องระลึกเสมอว่าเรื่องที่แคร์ในชีวิตนั้นจำกัด อะไรที่เราไม่ได้สนใจมาก ก็ช่างแม่งไปเถอะ
3 วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ ในการช่างแม่ง
1.เบี่ยงเบนความสนใจ วิธีการเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การนั่งเขียนบทความ ดูหนังสนุก ๆ หรือออกไป Hangout กับเพื่อนเก่าไม่ก็เพื่อนใหม่ ให้ได้พบเจอบรรยากาศใหม่ ๆ บ้าง ยิ่งเราว่างเท่าไหร่ สมองของเรายิ่งมีพื้นที่ให้ความคิดเครียด ๆ วิ่งเล่นมากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นต้องทำให้พื้นที่เหลือน้อย ๆ ด้วยการให้สิ่งอื่น ๆ มาวิ่งเล่นในหัวบ้าง
2.เลิกรับสื่อผ่าน Social Media ช่วงเวลาที่มีความเครียดจนอยากที่จะช่างแม่ง แนะนำให้ทำตัวเองให้ห่างจาก Social Media มีผลการวิจัยมากมาย บอกว่า Social Media เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คนเครียดขึ้น
3.นั่งสมาธิ คือ การหาความสงบจากภายใน อาจแค่ 10-15 นาที เพื่อดึงสติตัวเองกลับมาโลกปัจจุบัน เมื่อจิตใจสงบขึ้น ความเครียดต่าง ๆ ก็จะหายไป
“ช่างแม่ง” ยังไงให้ชีวิตแฮปปี้กว่าเดิม
1.เลือกแคร์เฉพาะสิ่งที่สำคัญและเป็นปัจจุบันเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องแคร์ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ เราเป็นผู้กำหนดและให้ค่าของความสำคัญในการดำเนินชีวิตของเราเอง อะไรไม่สำคัญก็ “ช่างแม่ง” เหอะ
2.การเป็นคนธรรมดานี่แหละมีความสุข การเป็นคนธรรมดาที่ยอมรับต่อเรื่องแย่ ๆ ของตัวเองได้ แล้วรู้จักพัฒนาอยู่เสมอ มีโอกาสประสบความสำเร็จ และมีความสุขได้มากกว่า อะไรที่ฝืนตัวเองเกินไปก็ “ช่างแม่ง” ไปดีกว่า
3.รู้จักการปฏิเสธและยอมรับการถูกปฏิเสธ ฝึกฝนตัวเองให้รู้จักการปฏิเสธ และยอมรับการถูกปฏิเสธจากคนอื่นได้ด้วยเหตุผล และคำพูดที่เหมาะสม ความขัดแย้งก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าคน ๆ นั้น หรือสังคมนั้น ไม่ได้สำคัญกับชีวิตเราก็ต้องรู้จัก “ช่างแม่ง” บ้าง
4.ปล่อยวางกับเรื่องที่เหนือการควบคุม ถ้าทุกอย่างต้อง Perfect 100% ตลอดเวลา นอกจากจะเป็นไปไม่ได้แล้ว จะยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกกดดันมากเกินไป จนความกังวลนั้นอาจย้อนมาทำร้าย และกลายเป็นจุดบอดของสถานการณ์นั้นก็ได้ เรื่องที่มันเหนือการควบคุมจริง ๆ ก็ควรปล่อยวางและ “ช่างแม่ง” ให้เป็น
5.คนที่ทำให้เราเจ็บปวดก็ช่างแม่งไปก็ได้นะ ถ้าเค้าไม่แคร์เราจะแคร์ทำไม เสียเวลาเสียพลังงาน เพราะฉะนั้นใครที่ทำให้เราเจ็บปวด ก็ไม่มีค่าพอให้เรามานั่งกังวล หรือปวดใจ ดังนั้นเราก็ “ช่างแม่ง” ไปก็ได้นะ
การ “ช่างแม่ง” ให้เป็นก็เหมือนกับการทำใจยอมรับและปล่อยวางในชีวิต “พอช่างแม่งได้ เราจะรู้สึกสบายและเข้าใจทุกอย่างเอง” หวังว่าทุกคนจะแฮปปี้ มีความสุขกับศิลปะแห่งการ “ช่างแม่ง”





















