พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรียกร้องนายกรัฐมนตรีลาออก – ชี้ขาดประสบการณ์ในการเจรจาไทย-กัมพูชา เสี่ยงกระทบความมั่นคงของชาติ
วันที่ 18 มิถุนายน 2568 เวลา 23.00 น. พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงของประเทศ ภายหลังเหตุการณ์ข้อพิพาททางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา โดยพุ่งเป้าไปยังการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งนำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ในแถลงการณ์ดังกล่าว พรรคพลังประชารัฐระบุว่า
"รัฐบาลชุดปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ ขาดประสบการณ์ และขาดชั้นเชิงในการเจรจาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ อันเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นในสายตาประชาชน รวมถึงเสี่ยงต่อการบั่นทอนศักดิ์ศรีของประเทศในเวทีระหว่างประเทศ"
พรรคฯ ได้แสดงจุดยืนว่า การใช้ “ความสัมพันธ์ส่วนตัว” เป็นช่องทางหลักในการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศนั้น ถือเป็นแนวทางที่สุ่มเสี่ยงและขาดความรอบคอบทางยุทธศาสตร์ นำไปสู่ความเสียเปรียบในเชิงอธิปไตยและความรู้สึกของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ พร้อมทั้งมีถ้อยคำบางประการที่ถูกมองว่าเป็นการดูแคลนกองกำลังความมั่นคง ซึ่งได้เสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวเสริมว่า
“ในฐานะที่ข้าพเจ้าทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดชีวิต การบริหารด้านความมั่นคงไม่ใช่เวทีให้ ‘มือสมัครเล่น’ มาทดลองฝีมือ เพราะอาจนำไปสู่ความเสียหายระดับประเทศ และสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า ประเทศไทยอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบจากต่างชาติ ภายใต้การนำที่ขาดความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง”
พร้อมกันนี้ พลเอกประวิตรยังแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า
“ผมขอยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องชาวไทยทุกคน ทหารไทยทุกนาย บนผืนแผ่นดินไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข แผ่นดินไทยต้องเป็นของคนไทย และจะต้องไม่ยอมให้ผู้ใดมารุกรานเป็นอันขาด”
ในท้ายที่สุด พรรคพลังประชารัฐเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเปิดทางให้ผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญในด้านความมั่นคงและการทูต ได้เข้ามารับหน้าที่ในการนำพาประเทศไทยให้พ้นจากความเสี่ยงในสถานการณ์ระหว่างประเทศที่อ่อนไหวในขณะนี้






