รีวิวหนังดัง EXIT WOUNDS ยุทธการล้างบางเดนคน

ตำรวจเลือดร้อนลุยเดี่ยวระห่ำปรอทแตกแบบสะใจประเภท One Army Person พบกับ Steven Siegal ในบท Orin Boyd กับการเป็นตำรวจที่ทนเห็นอาชญากรไม่ได้ เป็นต้องเข้าไปจับกุม ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง บ่อยครั้งทำให้ตำรวจถูกแฝงตัวอยู่ถูกจับได้ ภารกิจเสียหาย และเขาถูกลดขั้น

ผลงานการกำกับโดย Andrzej Bartkowiak ที่ฝากผลงานมาแล้วใน ROMEO MUST DIE (2000) และการันตีความมันจากทีมผู้สร้าง THE MATRIX

เรื่องย่อ

Orin Boyd ถูกย้ายไปยัง สน.15 เนื่องจากทำงานก้าวก่ายตำรวจคนอื่นจนทำให้ภารกิจเสียหาย เขาต้องปรับตัว แต่ใจยังจดจ่อกับการตามล่าคนร้ายผิวสีอย่าง Latrell Walker ชายที่พยายามหาเงินจากการค้ายาเพื่อจ้างทนายว่าความช่วยเหลือน้องชายออกจากคุก

เขาได้ George Clark มาเป็นตำรวจคู่หู โดยมีสารวัตรหญิงอย่าง Annette Mulcahy เป็นผู้บังคับบัญชา เขาสืบจนพบว่าแท้จริงแล้ว Latrell Walker เป็นคนพยายามแฉตำรวจชั่วที่พยายามหาเครือข่ายค้ายา และน้องชายของตนเป็นแพะในเรื่องนี้ นั่นทำให้ Walker ยอมเข้ามาเสี่ยงในสังคมแบบนี้

Boyd และ Walker จับมือกันและร่วมงานกับคนในแก๊งของ Walker จัดหนักล้างบางเดนคน

นักแสดงนำ

• Steven Seagal รับบทเป็น Orin Boyd
• DMX รับบทเป็น Latrell Walker
• Isaiah Washington รับบทเป็น Clark
• Anthony Anderson รับบทเป็น K. Johnson
• Michael Jai White รับบทเป็น Lewis Strutt
• Bill Duke รับบทเป็น Chief Hinges
• Jill Hennessy รับบทเป็น Annette Mulcahy
• Tom Arnold รับบทเป็น Henry Wayne

ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์

1.ความระห่ำของหนังนับว่าสะใจเข้าขั้น มันเป็นการนำเสนอในรูปแบบธรรมดา ไม่ถึงกับเป็น Blockbuster เกรด A แต่ก็เป็นหนังที่ดูสนุกแบบที่ไม่อยากคอหนัง Action ต้องพลาดไป

2.นี่คือหนังยุคส่งท้ายของพระเอกชื่อดังอย่าง Steven Siegal ในยุค 2001 ด้วยเทคนิคการถ่ายทำที่ร่วมสมัย ไม่เหมือนหนังในยุค 80-90 ที่ค่อนข้างล้าสมัย ทำให้หนังเรื่องนี้ส่งผลให้ Siegal มีดีมากกว่าเรื่องอื่นๆพอสมควร แต่อย่าลืมว่าเขาไม่ยอมเสียฟอร์ม หนังทุกเรื่องที่เขานำแสดงไม่มีทางที่เขาจะล้มคว่ำคะมำหงาย แม้คนที่ตัวใหญ่กว่ามากยังพ่ายแก่เขา

3.จัดเต็มด้วยฉาก action แบบ non-stop และการเล่าเรื่องที่ไม่ซับซ้อน แม้จะเป็นฉากต่อสู้ที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักก็ตาม แต่ก็สนุกและสะใจไม่น้อย จุดอ่อนคือคิวบู๊บางฉากดูโม้มากไปหน่อย เหมือนหนังกังฟูของ Jet Li แล้วลอกสูตรออกมาแบบเดียวกันเป๊ะ

4.หนังพยายามใช้ตัวละครเบาสมองอย่าง T.K. เจ้าของผับบาร์ Static แต่เป็นฉากหน้าเพื่อวางกำลังคนสืบถึงตำรวจทุจริตกินสินบนผ่านธุรกิจเถื่อน แม้ตามเนื้อเรื่องจะดูเหมือนตึงเครียด แต่ความจริงแล้วฝ่ายพระเอกจะดูค่อนข้างชิวมากๆเลย มันเป็น Comedy แฝงเล็กๆตามสไตล์ของผู้กำกับ Andrzej Bartkowiak

5.สิ่งที่น่าเสียดายอีกอย่างคือตัวร้ายของเรื่อง ไม่ใช่ Latrell Walker ตั้งแต่แรก ซึ่งกว่าหนังจะเฉลยความจริงก็มาถึงองค์ที่สามของเรื่องเข้าไปแล้ว ทำให้สิ่งที่เราติดตามกลับไม่เป็นไปตามคาดหวัง เหมือนจะเป็นการหักมุม แต่กลับรู้สึกเฉยๆ ขณะเดียวกันฝ่ายพระเอกก็จัดการกับตำรวจฉ้อฉลได้สบายๆ ไม่ค่อยลำบากหรือกดดันมากนัก โดยมีลีลาคิวบู๊เป็นสีสันหลักของเรื่อง