Pride Month กับมุมมองทางจิตใจ การเปิดเผยตัวตน การรับมือกับความเกลียดชัง
รูปจาก PIXABAY
สวัสดีค่ะ ได้อ่านเรื่องงาน Pride Month ซึ่งเดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองของกลุ่ม LBGTQ ดูข่างสารได้รับรู้และอยากแชร์เรื่องราวที่น่าสะดุดใจ
แม้ว่าเมืองไทยจะเป็นประเทศที่ยอมรับ LGBTQ มีซีรี่ย์วายที่โด่งดัง แต่ปรากฎว่า คนไทยเรายอมรับคนเป็น LGBTQ นอกครอบครัวมากกว่าในครอบครัว
การเปิดเผยตัวตนของคนกลุ่มนี้ก็จัดว่า ปานกลาง ทั้งที่ดารเปิดเผยตัวตนสำคัญมากในการดำรงอยู่ในสังคมของคนเรา
จากการสำรวจมูลินิธิ APCOM พบว่า กลุ่ม LGBTQ ร้อยละ 53 เปิดเผยตนเองอย่างตรงไปตรงมา ร้อยละ 21 ลังเลที่จะเปิดเผย และร้อยละ 5 เลือกที่จะไม่เปิดเผยเลย
ส่วนใหญ่กลุ่มคนเหล่านี้ ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต และเกิดความเศร้า
ส่วนสาเหตุที่ไม่อยากเปิดเผยตัวตน ก็เป็นสาเหตที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่เข้าใจได้ เพราะคนเหล่านี้กลัวถูกกีดกันออกจากสังคม
ส่วนเด็กๆ ที่โตแล้วรับรู้ว่าตนเองมีจิตใจไม่ตรงเพศภาพ ก็ได้รับผลกระทบในด้านสุขภาพจิตเช่นกัน เด็กทุดคนจะบอกว่า เหงา โดดเดี่ยวสาเพราะเด็กไม่ได้เชื่อมต่อตัวตนกับสังคมภายนอกอย่างแท้จริง
การเปิดเผยตัวตน กับการยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ถูกประเมินและตัดสิน เด็กๆ ยังเป็นที่รักเหมือนเดิม เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องของเราตามปกติ สำคัญมากๆ ค่ะ ไปหาดูว่า การเปิดเผยตัวตนิเราก็ไม่จำเป็นต้องตะโกนก็ได้นะคะ ขอให้มีใครสักคนที่เข้าใจในโลกใบนี้
วิธีการเปิดดผยตัวตนที่ปลอดภัย
ตระหนักว่า ความเกลียดชังเป็นสิ่งที่แพร่หลาย เรื่องที่เกิดขึ้นในสังคม
เลือกบอกกับเพื่อนหรือคนที่คุณไว้ใจว่าเขาจะเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่ทำร้ายเรา แค่หนึางคนก็ถือเป็นการที่เราได้ปลดปล่อยเอง
และเดือนนี้ กิจกรรมที่เกิดขึ้นก็สามารถกระตุ้นคนที่มีความเกลียดชังได้ค่ะ การอยู่กับคนที่รักเราจึงปลอดภัยที่สุด เราก็จำเป็นต้องดูแลและปกป้องตัวเราอยู่เสมอนะคะ
อย่างไรก็ตามก็ยังคิดว่า กิจกรรม Pride Month ช่วยให้เราได้รู้จักรับรู้เพื่อนร่วมโลกของเราที่มีความหลากหลาย และเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าทางจิตใจ แม้คนที่ยังไม่พร้อมเปิดเผยตัวเอง ก็รู้สึกได้เชื่อมต่อกับคนอื่นที่เป็นเหมือนเรา
ใดๆ แล้วความเข้าอกเข้าใจก็เป็นพื้นฐานสำคัญของความรักและปรารถนาดีที่มนุษย์สามารถมีต่อกันได้นะคะ ทุกคนเกิดมาเพื่อแตกต่างสมกับสโลแกนของงานปีนี้คือ Born This Way ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยเลย
และเราอาจไม่ต้องรอแค่ Pride Month เราก็สามารถรักและยอมรับคนอื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ตัดสิน ไม่ประเมินค่าดีไม่ดีได้ทุกวันเลยค่ะ ส่วนตัวในปีนี้ก็คงมองงานนี้เปลี่ยนไปเหมือนกันค่ะ
อ้างอิงจาก:Pride Month (2024,November,17) in Wikipedia
How the Stonewall Riots Sparked a Movement/History (2018,June 1)
https://www.psychologytoday.com/us/blog/talking-sex-and relatioships/202405/what-is-pride-month-for.
https://www.psy.chula.ac.th/en/feature-articles/psy-talk-2023-pride-month/
อภินัน อินฟาง https://www.facebook.com/share/p/1AzWnDbWB5















