ซูสแปลงร่างเป็นแมลงวันเพื่อหนีเมีย
ซูสแปลงร่างเป็นแมลงวันเพื่อหนีเมีย
ตอนที่ 1: กะพริบตาผิด ชีวิตเปลี่ยน
ในวันที่โอลิมปัสแดดแรงปานหม้ออบลมร้อน เทพเจ้าทั้งปวงกำลังประชุมเรื่องสำคัญ เช่น การบริหารฤดูฝน การงดเว้นพายุในช่วงเก็บเกี่ยว และการควบคุมฝูงมนุษย์ที่เอาแต่ขอหวย ซุสนั่งหัวโต๊ะ แต่ตาเขามองไม่ตรงกับหัวข้อเลย เพราะเขาเห็นเธอ—อิโอ นางไม้ประจำหุบเขาผู้ถือขันน้ำศักดิ์สิทธิ์ มองไปทางไหนก็เปล่งแสงพอๆ กับดาวฤกษ์บนฟ้า ผมยาวสีดำขลับ สะท้อนแสงอาทิตย์ราวกับคลื่นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แห่งเอเธนส์ และที่สำคัญ…เธอกะพริบตาให้เขา กะพริบแบบเร็วๆ หนึ่งที นิดเดียว แต่สำหรับซุสมันเหมือนเสียงฟ้าผ่าในหัวใจ ตูม! เหมือนมีอะไรบางอย่างถูกเปิดประตูออกมา พร้อมความคิดอันไม่บริสุทธิ์ของเขาที่เริ่มลอยละลิ่ว “เธอใช่มั้ย? สัญญาณจากจักรวาล…” เขาพึมพำพลางหลุดยิ้มในมุมปาก จนเฮร่าภรรยาสายตาดีแห่งโอลิมปัสที่นั่งข้างๆ หันมาถาม “ยิ้มอะไร?”
“เอ่อ…นึกถึงฟ้าผ่าที่ข้าเคยปล่อยเมื่อวาน มันสวยดี” ซุสกลบเกลื่อน พร้อมดึงสายฟ้าในมือขึ้นมาหมุนเล่นแบบเนียนๆ แต่ในใจคิดแล้วคิดอีกว่า จะทำยังไงถึงจะได้อยู่กับอิโอโดยไม่โดนเฮร่าจับได้ เพราะการแอบเจอสาวอื่นในประวัติซุสไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ “รอดโดยไม่โดนฟาด” นั่นแหละที่เป็นเรื่องยาก
เมื่อประชุมจบ ซุสเดินอ้อมไปหลังวิหาร เจอกับอิโอที่กำลังรดน้ำดอกไม้อย่างอ่อนโยน เขาแปลงร่างเป็นมนุษย์ธรรมดาแบบรูปหล่อหุ่นดีประมาณนายแบบเทพเจ้า แล้วเข้าไปทัก “น้ำที่เจ้ารดนั่นยังไม่ชุ่มเท่ารอยยิ้มของเจ้าเลย…” อิโอสะดุ้งนิดๆ แล้วหัวเราะ “ท่านเป็นใครหรือ?”
“ข้า? ข้าคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมสภาพอากาศแห่งโอลิมปัส ตรวจสอบการรั่วไหลของแสงอาทิตย์…และหัวใจ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งกวี กึ่งกรุบกริบ
อิโอยิ้ม “ท่านพูดเก่งนะ...แต่ฟังเหมือนคนไม่ใช่เจ้าหน้าที่เท่าไหร่”
“ก็ใช่” ซุสถอนหายใจแล้วแปลงร่างกลับเป็นตัวเองแบบฟ้าแลบ “ข้าคือซุส เจ้าแห่งสายฟ้า เทพเจ้าผู้ครองโอลิมปัส และตอนนี้ข้าอยากรู้จักเจ้าให้มากขึ้นกว่าแค่ในบันทึกพระราชบัญญัติธรรมชาติ”
เงียบ
อิโอทำหน้าเหวอ...แต่มองหน้าเขาแบบครึ่งตลกครึ่งจริงจัง “แล้วภรรยาของท่านล่ะ?”
“เธอไม่อยู่ตอนนี้ เธอ...ไปประชุมเรื่องการอนุรักษ์นกยูง” ซุสตอบเร็วมาก
แต่โชคร้าย—เฮรามีความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ “สัญชาตญาณเมียระดับโอลิมปัส” ซึ่งตอนนี้เตือนดังปี๊ดในหัวทันทีว่า “ซุสกำลังทำอะไรไม่ดีแน่ๆ” เธอเรียกเมฆส่วนตัวแล้วขี่ลงมาเร็วราวกับขนมครกร้อนๆ
ซุสรู้ว่าเธอกำลังมา เขารีบหันไปหาอิโอ แล้วพูดว่า “ฟังข้า! เดี๋ยวเธอก็มาแล้ว อย่าบอกว่าเราคุยกันนะ!” แล้วก็ ปิ๊ง ความคิดบรรเจิดเกิดขึ้นในหัวทันที “ข้าจะซ่อนเจ้า...แบบถาวรแป๊บนึง!” พูดจบเขาเสกแสงขึ้นมารอบตัวอิโอ แล้วเธอก็กลายเป็นวัวขาวตัวงาม งงๆ ยืนเคี้ยวหญ้าแบบไม่มีบท
เฮร่ามาถึงพอดี “เจ้าอยู่กับใคร?” เธอถามด้วยรอยยิ้มแต่ดวงตาเหมือนมีฟ้าผ่าในนั้น
“ใครอะไร? ก็ข้ายืนอยู่กับวัวนี่ไง!” ซุสบอก พร้อมลูบวัวด้วยท่าทางแบบ ‘กูรักสัตว์โลกจริงๆ นะเมีย’
“งั้นก็ดี” เฮร่าตอบสั้นๆ แล้วเปลี่ยนหน้าเป็นเยือกเย็น “ข้าขอวัวนี่ไปเลี้ยงเองแล้วกัน มันดูเฉลียวฉลาดดี...เหมือนเคยกะพริบตาใส่ใครมาก่อน”
ซุสเหงื่อซึมแต่ตอบ “เอ่อ…ได้เลย”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ความปั่นป่วน เมื่อเทพเจ้าสายฟ้าต้องตามวัวที่เขาแอบรัก โดยที่ภรรยาเอาวัวไปเลี้ยงด้วยมือเอง แถมยังเอาไปให้ยักษ์ร้อยตาเฝ้าอีกต่างหาก ซุสได้แต่นั่งเงียบๆ บนเมฆ แต่ในใจนั้นปั่นป่วนยิ่งกว่าทะเลโดนฟ้าผ่า “นี่ข้าทำอะไรลงไป…”
และในวินาทีนั้นเอง เสียงแมลงวันตัวหนึ่งบินผ่านหูเขา...
เขาหันไปมอง
แล้วคิดได้ว่า “ข้าจะต้องทำทุกอย่าง...แม้ต้องแปลงร่างเป็นแมลงวัน...ข้าก็ยอม!”
ตอนที่ 2: ยุทธวิธี “แมลงวันสายฟ้า”
นับตั้งแต่นางไม้อิโอถูกซุสแปลงร่างให้กลายเป็นวัวเพื่อหลบซ่อนจากเฮร่า เธอก็กลายเป็นวัวเงียบๆ ที่ถูกนำไปเลี้ยงไว้ในคอกกลางทุ่งหญ้าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ปล่อยไว้เฉยๆ เพราะเฮร่ารู้ทัน เธอจัดยักษ์ร้อยตานามว่าแอร์กอส ผู้มีดวงตาอยู่ทั่วทั้งตัว ไม่มีหนังตา ไม่มีง่วง ไม่มีบ่น และไม่มีวันเผลอ มาคอยเฝ้าแบบ 24/7 นัยน์ตาทุกดวงจ้องมองวัวอย่างไม่คลาดเคลื่อน ถึงขั้นนับรอบเคี้ยวหญ้าได้ครบทุกคำ ซุสที่เฝ้ามองเหตุการณ์จากโอลิมปัสถึงกับถอนหายใจ “ข้าจะเข้าไปหาเธอยังไงฟะ…” แน่นอนว่าในสมองของเทพเจ้าสายฟ้ามีทางเลือกมากมาย เช่น เสกแสงพรางตัว แปลงเป็นต้นไม้ แปลงเป็นเมฆ หรือแกล้งเป็นพ่อค้าขายหญ้า แต่ทุกอย่างมีจุดอ่อนเดียวคือ...เฮร่า และยักษ์ร้อยตาที่ “จ้องทุกอย่างแม้กระทั่งความตั้งใจในใจคนอื่น” นั่นแหละ
แล้วจู่ๆ ซุสก็เห็นแมลงวันบินผ่านหน้าขณะกำลังคิด เขาสะบัดมือไล่ แต่มันบินหลบอย่างว่องไว บินไปวนรอบโถน้ำไวน์ของดีโอนิซุส แล้วกลับมาวนรอบหัวซุสอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง—แสงแห่งความคิดฟ้าผ่าก็เกิดขึ้นในหัวเขา “ใช่แล้ว... แมลงวัน! สิ่งเดียวในโลกที่ไม่มีใครอยากจ้องดูนาน และไม่มีใครคาดว่าคือเทพ!” เขารีบเปิดตำราเวทเล่มเก่าที่เขาเคยยืมจากฮาเดส (โดยไม่คืนมาสิบศตวรรษ) ค้นบท “แปลงร่างเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากสังเกต” แล้วเลือกบทที่ 3: แมลงปีกใส ไม่เป็นที่ต้องการในงานแต่ง จากนั้น...ฟึ่บ! แสงสายฟ้าพุ่งรอบตัว และร่างของซุสก็กลายเป็นแมลงวันตัวเล็กป้อม มีตากลมโตสีทอง ขาสั่นปริบ และยังมีหนวดเล็กๆ ทองคำที่ดูยังไงก็ยังเทพอยู่เล็กน้อย
“เรียบร้อย…ข้าคือซุสน้อยจอมปีก” เขาพึมพำในใจ ขณะกระพือปีกไปยังทุ่งหญ้าศักดิ์สิทธิ์
บินยังไม่ถึงสามวินาทีดี เขาก็รู้สึกถึงพลังใหม่ของการเป็นแมลงวัน—1) สามารถเลี้ยวได้ 90 องศาโดยไม่ชะลอ, 2) ไม่มีใครจับได้ถ้าไม่ตั้งใจ, และ 3) มีสิทธิ์เกาะตรงไหนก็ได้แบบไม่มีใครกล้าไล่ถ้าไม่รำคาญมากพอ เขาบินตรงไปที่วัว (อิโอ) ซึ่งนั่งหงอยอยู่ใต้ต้นไม้ ท่ามกลางแอร์กอสที่กำลังจ้องแบบ “ถ้าเจ้าหายใจผิดจังหวะ ข้าก็รู้”
ซุสในร่างแมลงวันเกาะอยู่บนเขาของวัว หายใจหอบ (แมลงวันก็เหนื่อยได้!) แล้วพูดเสียงเบา “อิโอ…ได้ยินข้าไหม?”
วัวสะดุ้งนิดๆ ตาเบิกกว้าง พลางสะบัดหู ซุสรีบบินหลบไปเกาะที่หูซ้ายแล้วกระซิบ “ข้าคือซุส…ข้าแปลงร่างมาเอง อย่าตกใจนะ!”
อิโอ (ในร่างวัว) ทำหน้าเหวอระดับ ‘วัวงง’ แล้วพยายามสื่อสารโดยใช้หางปัดพื้นเป็นสัญญาณ โชคดีที่ซุสมีสกิลอ่านหางสัตว์ขั้นเทพ (เพราะเคยเดตกับสัตว์ป่าแปดชนิดมาแล้ว) จึงตีความได้ว่า “ท่านบ้าไปแล้วหรือ?”
“อาจจะ” ซุสตอบพลางเกาะที่หน้าผากวัว “แต่ข้าไม่ทนอีกต่อไป ข้าจะหาทางปล่อยเจ้าออกจากที่นี่ให้ได้”
เสียงนั้นไม่ดังพอจะเข้าหูยักษ์ร้อยตา แต่แอร์กอสก็เริ่มขมวดคิ้ว ดวงตาดวงหนึ่งของเขาสะดุดกับแมลงวันทองคำที่ดูวิบวับผิดปกติ เขายื่นไม้ตีแมลงอันใหญ่เท่าเสาไฟฟ้าออกมา แล้วพูดว่า “แมลงวันนี่…มันดูมีสง่าราศีกว่าปกติแฮะ…”
ซุสสะดุ้ง รีบบินหลบแบบติดสปีด วนไปรอบหัวแอร์กอสสี่รอบแบบไม่มีใครจับทิศทัน แล้วแอบกลับมาเกาะบนหางวัวใหม่อีกครั้ง “เกือบแล้ว…”
อิโอสะบัดหางเหมือนจะพูดว่า “เจ้าแค่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง” ซุสบินกลับขึ้นไปบนกิ่งไม้ แล้วมองท้องฟ้ากว้างอย่างเงียบๆ
“บางทีเจ้าก็พูดถูก…”
แต่ในวินาทีนั้นเอง ใบมะกอกใบหนึ่งหล่นลงบนหัวของซุส (หรือหัวแมลง) แล้วเขาก็นึกถึงคนคนหนึ่ง…คนที่อาจจะช่วยเขาได้ในภารกิจหลบเมียนี้
“เฮอร์มีส…”
เทพนักส่งของ ผู้มีความสามารถในการพูดโกหกหน้าตายระดับเทพ และสามารถกล่อมยักษ์ร้อยตาให้หลับด้วยเพลงพิณเพียงห้าบาร์
ซุสบินออกไปจากทุ่งหญ้า พร้อมภารกิจใหม่ในใจ
“ข้าจะกลับมา…พร้อมพันธมิตร…พร้อมกลยุทธ์…และพร้อมปลาทูน่าถุงเล็กให้เธอด้วย…”
อิโอหาวแบบวัวๆ และกลับไปนอนตาปรือ
เธอไม่รู้ว่าเรื่องบ้าที่ยังไม่จบ กำลังจะเริ่มขึ้นอีกในไม่กี่ชั่วโมง
และในฟากฟ้า…
แมลงวันหนึ่งตัว…กำลังบินอย่างมีเป้าหมาย
ตอนที่ 3: เฮอร์มีสผู้ส่งของ…และงานลับ
เมื่อซุสในร่างแมลงวันบินออกจากทุ่งหญ้าแห่งเฮร่า ท้องฟ้าก็เริ่มครึ้ม ฝูงนกบินกลับรัง ต้นไม้ลู่ลม และกลิ่นความอลหม่านก็ลอยฟุ้งเต็มชั้นบรรยากาศเทพ ความวุ่นวายที่ใกล้จะเกิดนี้ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้าน “ป่วนเนียน” โดยไม่ให้ใครจับได้ และมีเพียงคนเดียวในจักรวาลที่ซุสไว้ใจพอจะมอบหมายงานลับระดับหลบเมียให้ได้ เขาคือ…เฮอร์มีส เทพแห่งการสื่อสาร การขนส่ง และการ ‘พูดจนคนหลับ’ ซุสบินตรงดิ่งไปที่วิหารแห่งปีกทอง ซึ่งตอนนี้เฮอร์มีสกำลังทำในสิ่งที่เทพคนอื่นไม่ทำกัน นั่นคือ นั่งฝนขนนกเพื่อส่งจดหมายด่วนให้มนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เผลออธิษฐานผิดว่า “อยากได้แฟนเป็นเทพ” ซุสบินไปวนรอบหัวเขาสามรอบแล้วแปลงร่างกลับเป็นร่างปกติแบบไม่ให้กระเบื้องหลังคาพัง เฮอร์มีสหันมาทำหน้าเรียบๆ แล้วพูดก่อนแม้ซุสจะยังไม่ทันเอ่ยปาก “เฮร่าสงสัยอะไรอีกล่ะ?” ซุสถอนหายใจแบบลึกมาก “มากกว่าแค่สงสัย…ตอนนี้เธอเอาอิโอไปขังไว้ในทุ่งหญ้า แถมให้ยักษ์ร้อยตาเฝ้าเต็มระบบ” เฮอร์มีสยักไหล่ “ฟังดูเหมือนระบบรักษาความปลอดภัยที่เจ้าสร้างเองตอนแต่งงานนั่นแหละ” ซุสทำหน้าไม่ขำ “ข้าต้องการให้เจ้าช่วย…ทำให้อิโอหลุดออกมา” เฮอร์มีสเลิกคิ้ว “อย่างงี้เจ้าจะโดนเฮร่าหักสายฟ้าทิ้งนะ”
“เจ้าจะช่วยข้าไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” เฮอร์มีสยิ้มกว้าง “ข้าไม่ใช่คนรักความสงบ...แต่ข้ารักความอลเวง”
ซุสสรุปแผนสั้นๆ ด้วยพลังเทพแบบไม่ต้องใช้ PowerPoint “เจ้าไปกล่อมแอร์กอสให้หลับ แล้วข้าจะปล่อยอิโอออกมา ตอนนั้นเราค่อยคิดอีกทีว่าเฮร่าจะไล่ฆ่าใครก่อน” เฮอร์มีสพยักหน้าแบบไม่กลัว แล้วหยิบพิณทองคำขึ้นมา สะพายหลัง หยิบขวดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์เทพติดตัว และพ่นน้ำหอมกล่อมยักษ์สูตรโบราณไว้ในกระเป๋าเสื้อ เขากระพือปีกด้วยรองเท้าปีกทอง แล้วบินลงมาทางทุ่งหญ้าศักดิ์สิทธิ์ ทิ้งซุสไว้ข้างหลังด้วยคำพูดสุดท้าย “ข้าขอเวลาแค่ 10 นาที...ถ้าเกิน 15 นาที ถือว่าแอร์กอสนอนหลับลึกแล้วจริงๆ” จากนั้นเสียงพิณก็เริ่มดังขึ้นเบาๆ ทั่วทุ่ง เสียงกล่อมโลกที่ผสมเสียงสายลม สายพิณไหวราวกับคลื่นในชามซุป แอร์กอสเริ่มหรี่ตา ดวงตาหลายดวงกระพริบพร้อมกัน เขาขยับตัวเล็กน้อย พึมพำในลำคอว่า “ข้าไม่ได้หลับ ข้าแค่พักตา...” เฮอร์มีสยิ้มอย่างผู้ชนะ ก้าวเข้าใกล้ทีละก้าว พร้อมร้องเพลงกล่อมร้อยตาแบบพิเศษเนื้อว่า “ตาปิดลงนะยักษ์ใหญ่ อย่าได้จ้องฟ้าหรือใคร เสียงนี้เป็นเพื่อนของเจ้า ให้เจ้าฝันดีไปกับเพลงไก่…” อิโอในร่างวัวนั่งฟังเงียบๆ แล้วคิดในใจว่า ‘เพลงอะไรวะเนี่ย’
แอร์กอสเริ่มโงนเงน หัวพับไปข้างหนึ่ง แล้วหัวที่สองก็พับตาม จากนั้นตาทั้งร้อย…ปิดพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์
เฮอร์มีสหันไปทางอิโอ “ไปเถอะ ก่อนเขาจะฝันว่าเจ้าหนี” แล้วใช้ไม้เวทสะกิดห่วงคอวัว ห่วงก็หลุดออกอย่างง่ายดาย ซุสที่แอบอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ๆ กลายร่างกลับจากแมลงวัน วิ่งเข้าไปหาอิโอทันที “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อิโอ (ยังเป็นวัว) มองหน้าเขา แล้วใช้หางสะบัดแรงใส่เขาหนึ่งทีแบบ ‘ให้จำไว้ว่าใครทำข้าเป็นวัว’
“โอเค ข้าสมควรโดน” ซุสพึมพำแล้วหันไปพูดกับเฮอร์มีส “ตอนนี้ต้องหาทางหนีให้เธอกลับเป็นมนุษย์...ก่อนที่เฮร่าจะรู้”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ฟ้าเหนือทุ่งหญ้าก็มืดครึ้มลง
เสียงสายฟ้าสาดวาบลงพื้นดิน
เฮราปรากฏตัวพร้อมคำพูดเยือกเย็น
“เจ้าแปลงร่างเป็นแมลงวันเพื่อหนีข้า? ซุส...นั่นคือสิ่งที่เจ้าคิดว่าวิธีหลบเมียดีที่สุดใช่ไหม?”
ซุสหันไปมองเฮอร์มีส “ข้าไม่ควรให้เจ้าเขียนแผนด้วยกลอนเลยจริงๆ”
เฮอร์มีสยิ้มแบบรับกรรม “ข้าเตือนแล้วนะ ว่าหลบได้แค่ช่วงเพลงแรก…”
เฮร่าหันมามองวัว มองพิณ มองยักษ์ที่หลับไม่ตื่น และมองสามีของเธอที่หน้าเจื่อนยิ่งกว่าเมฆไม่มีฝน
เธอยิ้มเย็น แล้วพูดเสียงเบาแต่ทรงพลังว่า
“เอาล่ะ…ถ้าอยากเล่นแมลง วันพรุ่งนี้ข้าจะเลี้ยงเจ้าในกรงยุง”
ตอนที่ 4: วิ่งสิวัว วิ่งสิแมลง!
ลมพายุคำรามพร้อมสายฟ้าฟาดลงกลางคอกหญ้า เฮร่าก้าวเท้าลงมาจากเมฆด้วยสีหน้าเยือกเย็นแต่ตาเปล่งรังสีของความเป็น “ภรรยาเจ้าโทษ” ที่เทพทุกองค์ต่างกลัวขนหัวลุก ซุสหันไปมองอิโออย่างรวดเร็ว “วิ่ง!” และนั่นแหละ...วัวขาวนางไม้อิโอ ก็วิ่งสุดชีวิตขากวางโดยไม่รอแม้แต่เสียงพิณซาวด์แทร็ก เสียงเท้าเหยียบพื้นหญ้าดังสนั่นป่า เฮอร์มีสกระโดดขึ้นหลังวัวพร้อมถือพิณไว้แน่น “ขอเพลงประกอบหน่อยไหม?” ซุสตะโกน “เอาที่เฮร่าไม่ชอบ!” เฮอร์มีสหัวเราะฮา แล้วเริ่มดีดพิณเป็นเพลงกล่อมเด็กฉบับเร่งจังหวะ ส่วนซุสไม่พูดพร่ำ รีบแปลงร่างกลับเป็นแมลงวันอีกครั้งแล้วบินติดตามไปโดยเกาะหลังวัวไว้แน่น อิโอไม่ได้บ่นอะไรแต่ในใจคงอยากพูดว่า “ข้าเคยเป็นนางไม้ที่สง่างามมาก่อนนะเฟ้ย!” ขณะเดียวกัน เฮร่าก็ไม่ได้ปล่อยให้สามีตัวดีหนีได้ง่ายๆ เธอเหวี่ยงผ้าคลุมทองของเทพีขึ้นฟ้า สายลมหมุนวนกลายเป็นพายุระดับโอลิมปัส ดอกไม้ทั่วทุ่งหญ้าถูกพัดกระจาย ลมแรงถึงขั้นปัดยักษ์ร้อยตาให้ล้มตึงแม้จะยังหลับไม่รู้เรื่อง และเป้าหมายหนึ่งเดียวในใจนางคือ “แมลงวันที่เป็นผัวข้า!”
“หลบซ้าย!” ซุสตะโกนจากหลังวัว
“ซ้ายข้าหรือซ้ายเจ้าล่ะ?” เฮอร์มีสเถียง
“ซ้ายข้า!”
“งั้นก็คือขวาข้า!”
“งั้นเลี้ยวขวาเลย!”
อิโอเบรกหัวทิ่มแต่เลี้ยวได้แบบโค้งโอลิมปิก แล้วพุ่งเข้าป่าซีดาร์ทันที เฮร่ายกมือขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นฝนเม็ดกลมๆ หนักๆ ที่ไม่ใช่น้ำ แต่เป็นฝูงผึ้งอารมณ์เสีย! “ข้าเรียกพวกนี้มาจากหุบเขาแห่งเสียงพึมพำ! จงไปกัดแมลงวันทุกตัวที่เห็น!” เฮร่าประกาศกร้าว ฝูงผึ้งบินเข้าหาอย่างเป็นระเบียบเหมือนกองทัพมดติดปีก เฮอร์มีสรีบควักขวดน้ำมันหอมระเหยกลิ่น “ตดหมูป่าหลงฤดู” ขึ้นมาเปิดฝาแล้วโยนใส่กลางอากาศ กลิ่นเหม็นบรมราชาจนผึ้งแตกฮือทั้งขบวน แต่เฮร่ากลับยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “คิดว่ากลิ่นนั้นจะช่วยเจ้าได้? ข้าเลี้ยงผึ้งจากนรกมาแล้ว!”
ในขณะเดียวกัน ซุสที่เกาะหลังวัวเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ “นี่ข้าคือเทพผู้ยิ่งใหญ่…แต่ตอนนี้ข้าคือแมลงวันขี่วัวหนีเมีย” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วตัดสินใจบินล่วงหน้าไปเปิดเส้นทางหนี เฮอร์มีสเริ่มชี้ทาง “เลี้ยวผ่านถ้ำแห่งกลิ่นเท้าเฮเฟสตัส แล้ววิ่งตรงไปจนถึงบึงแห่งนางไม้หิวโหย!”
“อะไรนะ? บึงนั่นมีปลาชอบกินวัวนะ!”
“แต่ก็ยังดีกว่าเมียเจ้าฟาดสายฟ้าใส่!”
อิโอตัดสินใจวิ่งต่อทันทีด้วยเสียงใจที่กู่ร้อง “ขอเป็นปลาย่างยังดีซะกว่า!” พอถึงปากบึง นางไม้น้ำที่นอนรออยู่ก็มองมาแบบหิวๆ แต่เฮอร์มีสรีบหยิบแอปเปิลทองคำลวงตาโยนไปอีกฝั่งหนึ่ง “ไปสิจ๊ะ สาวๆ ไปกินแอปเปิลนู่น!” และมันก็ได้ผล…เทพีทั้งห้ากระโดดตูมลงน้ำตามแอปเปิลปลอมทันที “ทางสะอาดแล้ว!” เฮอร์มีสตะโกน
“ต่อไปคืออะไร?” อิโอถาม
“ต่อไปคือข้ามแม่น้ำลืมชื่อ!”
“ชื่อแม่น้ำอะไรนะ?”
“ก็ลืมชื่อไง!”
“งั้นเจ้าพายข้าด้วย!”
ทั้งสามพุ่งกระโจนเข้าสู่แม่น้ำลืมชื่อที่ไหลย้อนเวลา ความทรงจำเริ่มเบลอ เฮอร์มีสเริ่มลืมคอร์ดเพลง ซุสเกือบลืมว่าเป็นเทพ แต่อิโอเตะน้ำขึ้นมากระเซ็นใส่หน้าทุกคน “ข้าจำได้ว่าเจ้าเป็นต้นเหตุ!” แล้วเธอก็ว่ายน้ำเหมือนวัวแข่งโอลิมปิก ซุสบินตามติด เฮอร์มีสพ่นคำกลอน “เราจะรอด ถ้าเราไม่จำได้ว่าหนีจากอะไร!”
แต่แล้ว…เสียงฟ้าร้องดังเปรี้ยง! เฮราปรากฏตัวอีกครั้งบนผิวน้ำ
คราวนี้นางยืนบนผืนน้ำเรียบเหมือนเทพีแห่งการเคลื่อนไหวช้าๆ แต่เต็มไปด้วยอำนาจ
“พอกันที!” นางพูดเสียงนิ่งๆ แต่สายตานั้นราวกับพายุหมื่นลูก “ซุส…แมลงวัน…วัว…นักดนตรี…ทั้งหมดจงหยุด!”
และแล้ว…แม่น้ำก็หยุดไหล อิโอหยุดว่าย เฮอร์มีสหยุดเล่นพิณ ซุสหยุดบิน ทุกสิ่งหยุดตามคำสั่งแห่งเทพีโอลิมปัส
ความเงียบปกคลุมราวกับโลกทั้งใบกลั้นหายใจ
เฮร่าค่อยๆ ย่างเท้าเข้ามาใกล้ พร้อมรอยยิ้มที่ใครๆ ก็รู้ว่า…มันไม่ใช่รอยยิ้มของการให้อภัย
ตอนที่ 5: ศึกกลางแม่น้ำ และคำขอโทษที่ไม่เนียน
เฮร่าก้าวลงบนผืนน้ำเหมือนเทพีผู้ปกครองจักรวาล อากาศรอบๆ เหมือนจะหยุดไหล ท้องฟ้าสีครามกลายเป็นสีเทาน่าเกรงขาม ซุสในร่างแมลงวันบินหนีไม่ออก เฮอร์มีสหยุดเล่นพิณกลางสาย น้ำอิโอก็หยุดกระเพื่อม เหลือเพียงเฮราที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามาช้าๆ พร้อมคำพูดเรียบๆ ว่า “เจ้าแปลงเมียน้อยเป็นวัว แปลงตัวเองเป็นแมลงวัน แล้วคิดว่าจะไม่มีใครรู้?” ซุสในร่างแมลงวันค่อยๆ บินลงบนโขดหินแล้วแปลงกลับเป็นมนุษย์อย่างเงียบๆ “ข้า…คือข้า…” เขาพูดอ้ำอึ้งกว่าเดิม
“ใช่ ข้าคือข้า ข้าก็รู้ว่าเจ้าเป็นเจ้า!” เฮร่าตะโกนขัด “และข้าก็รู้ว่าเจ้าคือเทพเจ้าแห่งฟ้าผ่า แต่ตอนนี้ข้าอยากเป็นเทพีแห่งการปล่อยฟ้าผ่าลงหัวแมลง!”
เฮอร์มีสรีบยกมือขึ้น “เดี๋ยวก่อนนะ นี่ไม่เกี่ยวกับข้านะ ข้าแค่เล่นพิณเฉยๆ”
“แล้วเจ้าไปเล่นพิณให้วัวฟังทำไม?”
“มันขอฟัง!”
อิโอในร่างวัวถอนหายใจแรงจนหญ้าแถวนั้นลู่ไปสามเมตร เฮราหันไปมองนางไม้อย่างสงบ “อิโอ…เจ้าเต็มใจหรือไม่ที่กลายเป็นวัวแล้วหนีไปกับแมลง?” อิโอส่งเสียง “มอ~” แล้วใช้หางปัดแมลงวันในอากาศ เหมือนจะบอกว่า “ไม่มีใครถามความเห็นข้าเลยเฟ้ย!”
ซุสพยายามจะกู้สถานการณ์ “เฮร่าที่รัก ข้าแค่…เอ่อ…ลองบทบาทใหม่ในชีวิต”
“บทบาทแมลงวัน?”
“ไม่ใช่ทุกวันหรอกที่สามีจะบินไปรักเมียน้อยแบบ Buzz Buzz ได้ไงล่ะ?”
“เจ้าจะโดน Buzz Buzz จากข้าบ้างเดี๋ยวนี้แหละ!”
ทันใดนั้นเอง เสียง “ปึ้ง!” ก็ดังมาจากเบื้องหลัง เทพีอะธีนาโผล่มาพร้อมหนังสือ ‘การสื่อสารเพื่อความรอดในชีวิตสมรส’ พร้อมพูดเสียงนิ่งว่า “แม่…พ่อ…ได้โปรด”
เฮราหันขวับไปมองลูกสาวสุดคม
อะธีนาไม่หลบตา “การลงโทษต้องใช้เหตุผล…ไม่ใช่อารมณ์”
“แต่เขาโกหกข้า!”
“แม่เป็นเทพีแห่งการแต่งงาน…ไม่ใช่เทพีแห่งการปาไฟใส่ผัว”
ซุสพยักหน้าแรงจนผมหงอก
“และพ่อก็เป็นผู้นำโอลิมปัส…ไม่ใช่ผู้นำวงแมลงวันคณะลับ”
ซุสยิ้มค้าง
เฮอร์มีสแอบขำในใจ
อะธีนาเดินมาหาอิโอแล้วพูดอย่างเห็นใจ “ข้าขอโทษแทนพวกเขาทั้งสอง”
วัวอิโอหลับตาแล้วร้องมอเบาๆ อย่างนุ่มนวล
เฮรามองภาพนี้แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ถ้าข้าปล่อยเจ้าไป เจ้าจะทำอีกไหม?”
ซุสยกมือสองข้าง “ข้าไม่เคยคิดจะทำเลยด้วยซ้ำ นี่มัน…บังเอิญล้วนๆ!”
“บังเอิญ?”
“บังเอิญมาก!”
เฮรากัดฟันแน่น ก่อนจะพูดเบาๆ “งั้นให้เจ้าแปลงร่างเป็นแมลงวันอยู่ 3 วันเต็ม เพื่อจะจำไว้ว่าการโกหกมีขนาดเล็กแค่ไหน!”
“3 วัน…โอเค ข้ายอม!”
“และให้เจ้ากินอาหารแมลงเท่านั้น”
“…ยังไงก็ดีกว่าฟ้าผ่าหัว!”
อะธีนาเดินเข้ามาตบมือเปาะ “จบศึกสมรสครั้งนี้แล้ว เยี่ยมมาก คราวหน้าอย่าใช้สัตว์เลี้ยงมาอำกันอีก”
เฮอร์มีสเดินไปสะพายพิณแล้วหันมาพูดปิดท้ายแบบนักข่าว “และนี่คือบทเรียนว่า อย่าประมาทเทพีแห่งการแต่งงาน โดยเฉพาะเมื่อเจ้าใช้แมลงวันเป็นพาหนะรัก!”
ตอนที่ 6: สามวันแห่งการเป็นแมลงวัน...ที่แม้แต่หมาก็ไม่แยแส
วันแรกของการเป็นแมลงวันเริ่มต้นขึ้นพร้อมเสียง “แพร่บ!” จากมือของเฮเฟสตัสที่ฟาดมือลงบนโต๊ะไม้ในโรงตีเหล็ก “มีแมลงอะไรบินผ่านหน้า! ใครปล่อยเข้ามา!” ไม่มีใครตอบ นอกจากซุสในร่างแมลงวันที่รีบหักหลบวิถีมือฟาดอย่างบ้าคลั่ง ขณะบินวนอยู่กลางโรงงานที่ร้อนระดับซุปต้มตีนในหม้อทองคำ “โอ้ โอลิมปัส…นี่ข้าคือผู้นำของพวกเจ้า แต่ตอนนี้ข้ากำลังหลบฝ่ามือช่างตีเหล็กอย่างกับมดในกระทะ!” เขาพึมพำในใจ แล้วรีบบินหลบเข้าไปหลังเตาหลอม ขณะที่ขี้เถ้าและเปลวไฟเกือบแผดปีกเขาเป็นผงเถ้าเทพ “อือ...บางทีการขอโทษเฮร่าตั้งแต่แรกอาจง่ายกว่านี้นะ” วันแรกผ่านไปโดยไม่มีใครฟังเขาพูด ร่างกายก็หิวจนต้องไปตอมกล้วยเน่าข้างวิหารเฮอร์มีส มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ซุสรู้สึกว่า “กล้วยเน่า...ก็มีค่าในยามสิ้นหวัง” วันรุ่งขึ้น ซุสบินไปแถวสวนสาธารณะบนเขาโอลิมปัสเพื่อหาอะไรเจริญปีกบ้าง แต่โดนไล่ตบจากหมาเทพสามหัวของฮาเดส “กรร! กรร! ปึ้ง! แพร่บ!” เสียงดังลั่นทุกทิศ เขาบินหลบหัวหมาที่หนึ่ง หูหมาที่สอง และหางหมาที่สาม ก่อนจะไปพักเหนื่อยบนขอบแจกันที่มีรูปปั้นเขาเองในท่าถือสายฟ้าเต็มสง่า “นี่สินะ ชีวิตที่กลับไม่ได้...แม้แต่รูปปั้นข้าก็ยังสง่างามกว่าร่างจริงในตอนนี้!” ซุสพึมพำ สายตาเลื่อนลอยขณะปีกสั่นเพราะลมบนยอดเขา เขานึกถึงอิโอ คิดถึงหญ้าที่เธอชอบกิน คิดถึงแววตาโกรธปนน้อยใจของเธอที่พูดไม่ได้เพราะกลายเป็นวัว “ข้าทำให้เจ้ากลายเป็นวัว…ยังไม่พอ ยังพาตัวเองมาเป็นแมลงอีก…นี่มันซิทคอมโอลิมปัสชัดๆ” คืนวันที่สอง เขานอนใต้ใบไม้ ใช่...เทพเจ้าสายฟ้านอนใต้ใบไม้จริงๆ ไม่มีใครมองเขา ไม่มีใครกลัว ไม่มีใครเชื่อว่าแมลงเล็กๆ นี้คือเทพผู้ยิ่งใหญ่ วันสุดท้ายมาถึง ซุสในร่างแมลงวันตัดสินใจบินไปหาอิโอที่ตอนนี้ยังคงเป็นวัวอยู่ใต้การคุ้มกันของเฮร่า “อิโอ…” เขากระซิบขณะบินวนหน้าเธอ วัวสาวหันมามอง สายตาเหมือนอยากจะร้องเพลง “สมน้ำหน้าเธอ!” แต่เธอไม่พูดได้ ขณะซุสบินวนอย่างไร้ทิศ เฮร่าก็เดินเข้ามาพร้อมถ้วยน้ำผึ้งและบอกกับอิโอว่า “อีกหนึ่งวันเจ้าอาจได้กลับร่าง...หากแมลงวันนั่นยอมกลับตัวจริงๆ” ซุสได้ยินแล้วอยากจะร้องไห้ แต่แมลงไม่มีน้ำตา...เขาเลยได้แค่สั่นปีกแรงๆ เหมือนคนสะอื้นแบบบินๆ จนถึงเย็นวันนั้น อะธีนาและเฮอร์มีสเดินมาเยี่ยมซุสด้วยสีหน้าเอือมๆ พร้อมพูดว่า “ครบกำหนดแล้ว...จะเอายังไง?” เฮอร์มีสบอกต่อ “เจ้ายอมรับผิดหรือจะบินไปตอมหัวเมดูซ่าแทน?” ซุสแปลงร่างกลับมาเป็นมนุษย์ทันที (เพราะไม่มีใครอยากไปใกล้เมดูซ่า) เขาทรุดตัวนั่งกลางสนาม แล้วเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมตะโกน “ข้ายอม! ข้าผิด! ข้าคือซุสที่ดันคิดว่าแปลงร่างจะรอดเมีย ข้าสำนึกแล้ว!” เสียงเงียบกริบ...ก่อนจะมีเมฆทองปรากฏขึ้น พร้อมเสียงของเฮร่าที่ลอยมา “ดี…ในเมื่อเจ้าสำนึกเช่นนั้น ข้าจะคืนร่างให้อิโอ” วัวขาวเปล่งแสง แล้วกลายเป็นอิโออีกครั้งในทันที นางไม้นางเดิมยืนตรงหน้าซุสด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายแต่โล่งใจเล็กๆ ซุสยิ้มทั้งน้ำตา “ยินดีต้อนรับกลับ…นางวัวของข้า”
“ข้าคืออิโอ ไม่ใช่นางวัวของใครทั้งนั้น!”
“เอ่อ...ใช่ ข้าแค่...พูดเล่น…”
เธอถอนหายใจแรง แล้วหันหลังเดินจากไป
ซุสนั่งคอตก แต่ก็รู้สึกโล่งเหมือนยกโอลิมปัสออกจากอก
ตอนที่ 7: แผนง้อวัว...ที่อาจไม่ใช่วัวอีกต่อไป
ซุสนั่งอยู่ตรงลานกว้างเบื้องหน้าวิหารของตัวเอง ท่ามกลางสายลมที่พัดเบาๆ พร้อมกลิ่นหญ้าแห้งจากฝั่งทิศตะวันตก ทุกอย่างดูเงียบสงบแต่ในหัวของเขาไม่มีอะไรสงบเลย “ข้าเคยหลบฟ้าผ่าของไททัน เคยดวลคำสาปจากไฮดรา เคยยืนกลางสนามรบของเทพ แต่ข้าไม่เคย…ต้องง้อผู้หญิงที่เคยเป็นวัวมาก่อน” เขาพึมพำพลางมองแหวนทองคำที่หล่อขึ้นใหม่ด้วยมือของเฮเฟสตัสเอง ขัดจนขึ้นเงาจนสามารถส่องเห็นรอยย่นกลางหน้าผากตัวเองได้ ซุสลุกขึ้นพร้อมสูดหายใจลึก “ถึงเวลาแล้ว!” เขาเดินตรงไปที่สวนของเทพีดีมิเตอร์ ที่อิโอ—อดีตวัว—กำลังช่วยรดน้ำผักและเรียงข้าวโพดพันธุ์ทองคำแบบไม่สนใจใคร ซุสเดินเข้าไปเงียบๆ หยุดอยู่หลังต้นข้าวโพด แล้วพูดเสียงหล่อที่สุดที่ตัวเองมี “อิโอ…” อิโอหันมาช้าๆ มือยังถือบัวรดน้ำ “ถ้ามาเรื่องแปลงร่าง ข้าไม่คุย”
“ไม่…ไม่เลย ข้ามาด้วยใจจริง…”
“ใจจริงของเจ้าคือแมลงวันหรือวัว?”
“วันนี้ข้าเป็นมนุษย์จริงๆ สาบานด้วยฟ้าผ่าหน้าเฮอร์มีส!”
เสียง “เปรี้ยง!” ฟ้าผ่าลงไกลๆ เหมือนคอนเฟิร์ม ซุสยื่นแหวนออกมา
“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องผ่านเรื่องบ้าๆ ข้าแค่กลัวเมีย…แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีเลย…แต่ถ้าเจ้าจะให้โอกาส ข้าจะไม่เป็นแมลงวันอีกตลอดกาล!”
อิโอยืนเงียบมองแหวนสีทองสะท้อนแดดอยู่พักหนึ่ง แล้วตอบว่า “เจ้าจะไม่เป็นแมลงวัน…แต่เจ้ายังเป็นสามีคนอื่นอยู่ไหม?” ซุสอ้าปากจะตอบ แต่พูดไม่ออก…เขาอ้ำอึ้งอยู่สิบวินาทีที่นับว่ายาวนานที่สุดในชีวิต จากนั้นจึงพูดว่า “ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเป็นแค่ตัวเลือกอีก”
“แล้วข้าคืออะไร?”
“ข้าจะเริ่มต้นใหม่…กับเจ้า…แต่ถ้าเจ้าจะไม่เชื่อ ข้าก็จะไม่โทษเจ้าเลย”
อิโอถอนหายใจ เดินไปวางบัวรดน้ำไว้ที่ข้างต้นฟักทอง แล้วหันกลับมา “เจ้ารู้ไหมว่าเป็นวัวมันลำบากแค่ไหน?”
“รู้แล้ว! ข้าเป็นแมลงวันมาแล้ว!”
ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่งก่อนที่อิโอจะยื่นมือมาหยิบแหวน “ข้าจะไม่สัญญาว่าให้อภัย…แต่ข้าให้โอกาสเจ้าหนึ่งครั้ง”
“หนึ่งครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าฟ้าผ่าใดๆ ข้าสัญญา!”
ซุสยิ้มกว้าง แสงแดดเริ่มอบอุ่นขึ้นนิดหนึ่งเหมือนโอลิมปัสยิ้มตาม ทั้งคู่เดินออกจากสวนพร้อมกัน
และตรงมุมหนึ่งของสวรรค์…เฮร่ากำลังจิบชากับอะธีนาอย่างเงียบๆ
“ดูท่าซุสจะกลัวเจ้าแล้วจริงๆ แม่”
“หึ…เขาไม่เคยกลัวข้าหรอก เขาแค่เรียนรู้ว่า...ใครที่สามารถทำให้ผัวตัวเองต้องไปกินกล้วยเน่าได้ ไม่ควรประมาท”
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นในสวนของเทพี แสงอาทิตย์ทาบลงอย่างอ่อนโยน ทุกอย่างดูสงบ...ก่อนที่เสียง “บึ้ม!” จากฟ้าจะดังขึ้น
“เอ๊ะ! นั่นเสียงเฮอร์มีสทำวิทยุระเบิดอีกแล้ว!”
“วันของโอลิมปัส ไม่มีวันน่าเบื่อหรอก”
ตอนที่ 8: งานเลี้ยงง้อใจ กับขนมที่ไม่ควรเสิร์ฟ
ซุสใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเตรียมงานเลี้ยง “ง้อวัวคืนใจ” หรือชื่อทางการว่า “งานเลี้ยงอภิเษกซ่อมใจฉบับเทพ” แน่นอน เขาไม่ได้เตรียมเองทั้งหมด เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็ยังเป็นเทพสูงสุดบนโอลิมปัส เขาเรียกเทพีฮีบีมาช่วยจัดตกแต่ง เรียกเฮอร์มีสมาทำระบบแสงสีเสียง และที่สำคัญ เขาสั่งดีมิเตอร์ให้ดูแลอาหารโดยเฉพาะ “อย่าให้มีอะไรเกี่ยวกับวัวเด็ดขาดนะ” ซุสย้ำ “ข้าไม่อยากให้อิโอนึกถึงอดีตอันเจ็บปวดเวลาเคี้ยวอะไรอยู่” ดีมิเตอร์ถอนหายใจ “เข้าใจแล้ว ข้าจะเลี่ยงทุกอย่างที่มาจากวัว” ซุสยิ้มพอใจ แล้วเดินตรวจความพร้อม เหล่าเทพหลายองค์ได้รับเชิญ มีทั้งอะพอลโลที่มาพร้อมพิณทองคำ อาร์ทิมิสที่มองด้วยสายตาเย็นๆ แบบ “นี่อีกแล้วเหรอ?” และฮาเดสที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องจัดงานเลี้ยงทุกครั้งที่ซุสทำเรื่องผิดพลาด “ข้าควรเปิดร้านจัดงานง้อเมียไหม?” ฮาเดสบ่นเบาๆ แต่โดนเพอร์เซโฟนีตีหัวเบาๆ ว่า “อย่าปากเสีย” เมื่อทุกอย่างพร้อม อิโอก็ถูกเชิญมาอย่างเป็นทางการ นางมาในชุดขาวสะอาดตา ผมยาวสลวย กลิ่นหญ้ายังติดอยู่นิดๆ เหมือนเธอยังแอบคิดถึงชีวิตวัวอยู่น้อยๆ ซุสยืนรออยู่กลางงาน ดอกไม้บินวนรอบหัวเหมือนจะต้อนรับความรักใหม่อีกครั้ง อิโอเดินเข้ามาเงียบๆ มองทุกอย่างรอบตัว สีหน้าไม่ได้ประทับใจอะไรนัก ซุสยิ้มพยายามเปิดบทสนทนา “งานนี้...เพื่อเจ้าคนเดียวเลยนะ”
“ข้าเห็น...”
“มีทุกอย่างที่เจ้าชอบ”
“แล้วอะไรที่ข้าไม่ชอบล่ะ?”
“ไม่มีแน่นอน!”
แต่ทันใดนั้นเอง เฮอร์มีสก็เดินมาพร้อมถาดขนม แล้วตะโกนว่า “ขนมพุดดิ้งนมวัวมาแล้วจ้าาา!”
เงียบ...ทั้งงานเงียบ
ดีมิเตอร์หันไปจ้องเฮอร์มีสตาแทบลุกเป็นไฟ
ซุสแทบจะกลืนลิ้น
อิโอยืนเงียบ...แล้วยกมือขึ้นหนึ่งข้าง “นมวัวเหรอ?”
เฮอร์มีสหน้าเหวอ “อ้าว…ไม่ใช่เมนูหลักเหรอ? นี่ของโปรดซุสไม่ใช่เรอะ?”
ซุสรีบปัดมือ “ไม่ใช่ตอนนี้เฟ้ย!!”
อิโอยิ้มมุมปากแบบเย็นยะเยือก “ยังจำเรื่องข้าเป็นวัวได้ไม่พอสินะ”
“ไม่ๆๆ ข้าไม่ตั้งใจเลย ข้าสั่งว่าอย่าให้มีของที่เกี่ยวกับวัวไง!”
เฮอร์มีสพึมพำ “ก็ข้านึกว่านมจากพืชนี่มันไม่พอ…”
ฮาเดสหัวเราะคิกข้างหลังอะธีนา
“ซุส...เจ้าพลาดอีกแล้ว” อาร์ทิมิสพูดพลางจิบไวน์
“เจ้าเตรียมงานเลี้ยงใหญ่โตเพื่อข้า แต่ยังลืมคิดถึงสิ่งเล็กๆ ที่เจ็บปวดที่สุดของข้า” อิโอพูดเสียงเรียบ แต่เจ็บ
ซุสรีบคุกเข่าทันที “ข้าขอโทษ...ข้าไม่ควรลืม...ไม่ควรละเลย...ไม่ควรให้ใครถือพุดดิ้งนมวัวเข้ามาในงานนี้เลยสักหยด!”
ดีมิเตอร์ถอนหายใจแล้วสั่งให้เก็บของ
เฮอร์มีสกระซิบ “คราวหน้าใช้ซอยนมถั่วเหลืองไปเลย”
อิโอหันมาเดินจากไป
แต่ก่อนจะพ้นประตูนางหยุด แล้วพูดว่า “ข้าจะไม่จากไปเพราะพุดดิ้งหนึ่งถ้วย...แต่ถ้าข้ายังเห็นเจ้าละเลยความรู้สึกข้าอีก ข้าจะไม่กลับมา”
ซุสนิ่ง เหงื่อแตกมากกว่าโดนฟ้าผ่า เขาพยักหน้า “เข้าใจ...ไม่มีนมวัวอีกแล้ว...ข้าจะอ่านฉลากทุกอย่างก่อนเสิร์ฟ”
เสียงฮาเดสดังแว่วมา “ควรเปลี่ยนชื่อเมนูเป็น ‘พุดดิ้งน้ำตาแห่งการแต่งงาน’”
อะธีนาเอาหนังสือตีหัวเขาทันที
งานเลี้ยงจบลงด้วยบทเรียนล้ำค่า ว่าการง้อใครบางคน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่หรูหรา แต่อยู่ในรายละเอียดเล็กๆ ที่ไม่ควรพลาด
ตอนที่ 9: บันทึกความรักฉบับเทพ...เขียนด้วยสายฟ้า
หลังเหตุการณ์พุดดิ้งนมวัวที่เกือบทำให้โอลิมปัสแตก ซุสก็หายหน้าไปสองวันเต็ม ไม่มีใครเห็นเขาแม้แต่ในห้องฟ้าผ่า มีเพียงเสียงสายฟ้าซ่าๆ เบาๆ บนยอดเขา และข่าวลือว่าเทพเจ้าสายฟ้ากำลังนั่งแต่งกลอนง้อเมีย…โดยไม่ใช้ ChatGPT ซุสนั่งอยู่บนยอดหอคอยเมฆ พิงสายรุ้งของไอริส ด้านหน้าคือกระดาษทองคำแผ่นใหญ่ขนาดเท่าประตูวิหาร มือข้างหนึ่งถือปากกาที่ทำจากขนนกฟินิกซ์ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ร่ายคำด้วยหัวใจที่บีบแน่นทุกวินาที “เจ้าอิโอ…เจ้าผู้เคยเป็นวัว และข้าผู้เคยเป็นแมลงวัน แม้ชะตาเราจะวนเวียนแปลกประหลาด แต่หัวใจข้า…มุ่งหน้าแค่ทางเดียว” เขาเขียนไปลบไป จนกระดาษแผ่นแรกไหม้ไปแล้วสามใบด้วยความเครียดเกินร้อย ซุสถอนหายใจ ลุกขึ้นมองท้องฟ้า แล้วปิ๊งไอเดีย “การเขียนกลอนบนกระดาษมันเชยไปแล้ว!” ซุสยกมือขึ้นฟ้า เรียกพลังสายฟ้า แล้วปล่อยฟ้าผ่าตัวเองดังเปรี้ยง! แต่แทนที่จะหายตัว เขากลายเป็นพลังสายฟ้าทั้งร่าง วิ่งวนรอบโอลิมปัส พร้อมลากแสงเป็นลายเส้นบนท้องฟ้าเหมือนศิลปินยุคดิจิทัลที่กำลังวาดด้วยแสงเลเซอร์ “อิโอ ข้ารักเจ้า ข้าสำนึก ข้าไม่อยากเป็นแมลงวันอีก!” ตัวอักษรสีฟ้าสว่างคมชัดลอยอยู่เหนือเขาโอลิมปัสเป็นเวลาห้านาทีเต็ม ก่อนจะตกลงมาเป็นละอองเรืองแสงให้ทุกคนรู้ว่าเทพเจ้าสายฟ้ากำลังทำอะไรบ้าๆ อีกแล้วอิโอที่กำลังนั่งดื่มน้ำผลไม้ในสวนเงยหน้าขึ้น เธออ่านตัวอักษรในฟ้าแล้วหลุดหัวเราะเบาๆ “นี่หรือวิธีสารภาพผิดของเทพเจ้าสูงสุด” ฮีบีที่อยู่ข้างๆ กระซิบ “เอาน่ะ อย่างน้อยเขาก็ไม่แปลงเป็นแมลงวันมาอีก” อิโอมองขึ้นไปแล้วพูดว่า “เขาน่ารักขึ้น…ตอนหยุดแปลงร่าง” และในเย็นวันนั้นเอง ซุสก็กลับมาในสภาพไหม้เกรียมเหมือนขนมปังปิ้งแบบพลังสูง พร้อมของขวัญชิ้นพิเศษที่เขาเรียกว่า “กล่องเสียงวัว” “อะไรอีกล่ะ?” อิโอถามอย่างระแวง “มันคือกล่องดนตรีที่บันทึกเสียงร้องวัวของเจ้าไว้สมัยเป็นวัวน่ะ ข้าคิดถึงเสียงเจ้ามาก…เสียง ‘มอ~’ นั่นมันน่ารักมากเลยรู้ไหม” อิโอหลุดหัวเราะพรืด “เจ้าบ้า! ข้าจะเก็บกล่องนี้ไว้เตือนใจ ว่าข้าเคยเป็นวัว…แต่ไม่ยอมเป็นควายอีกแล้วนะ!” ซุสหัวเราะตาม หัวเราะแบบเทพที่เกือบเสียทุกอย่างไป และได้เรียนรู้ว่ารักไม่ใช่การแอบ แปลง หรือโกหก แต่คือการยอมรับ…แม้กระทั่งเสียงมอของคนที่เรารัก
ตอนที่ 10: มอ…สุดท้ายของความรัก
ซุสยืนอยู่กลางลานวิหารโอลิมปัสอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีดอกไม้ ไม่มีสายฟ้าประดับ ไม่มีนักดนตรีจากอะพอลโลหรือพุดดิ้งจากเฮอร์มีส มีเพียงเขา...กับแหวนวงเล็กๆ ที่เขาหล่อขึ้นใหม่จากเศษทองคำแห่งโครนอสที่ตกค้างอยู่ในก้นหลุมเวลา (เขาแอบไปเอามาจากคลังของโครนอส แล้วโดนตบหัวเบาๆ หนึ่งที) ซุสไม่ได้เตรียมอะไรหรูหราในวันนี้ เพราะเขาเข้าใจแล้วว่าอิโอไม่ต้องการความอลังการ...แต่ต้องการความตั้งใจที่ไม่ซ่อนอยู่หลังการแปลงร่าง หรือคำแก้ตัวที่อ้อมไปไกลจนต้องใช้เข็มทิศเทพช่วยตีความ อิโอเดินมาถึงกลางลาน ท่าทางเรียบง่ายเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ดวงตาของเธอมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่เพราะซุสแสดงออกดีขึ้น แต่เพราะเธอเริ่มเห็นว่าเทพเจ้าผู้ทรงพลังที่สุด...ก็เติบโตได้ ซุสยิ้มให้เธอแบบที่เขาไม่เคยยิ้มให้ใครมาก่อน มันไม่ใช่รอยยิ้มของเทพเจ้าผู้ชนะ ไม่ใช่ยิ้มของชายเจ้าชู้ที่แปลงเป็นห่าน วัว เมฆ หรือแมลงวัน แต่มันคือรอยยิ้มของคนที่ยอมถอดเกราะแห่งอำนาจ เพื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอในฐานะ...แค่เขา “อิโอ...” ซุสพูดเสียงเบา “ถ้าเจ้าจะยังเกลียดข้า...ข้าก็จะยอม ถ้าเจ้าจะจากข้า...ข้าก็จะไม่รั้งไว้ แต่ข้าขอเพียงหนึ่งอย่าง...คือโอกาสที่เจ้าจะไม่ปิดประตูหัวใจตลอดไป” อิโอมองหน้าเขานิ่งๆ ก่อนพูด “ข้าจะไม่เกลียดเจ้า เพราะข้าเคยรักเจ้า และข้าจะไม่จากเจ้า...เพราะข้ายังอยากรู้ว่าเทพเจ้าสามารถรักใครโดยไม่แปลงร่างได้จริงไหม” ซุสหัวเราะทั้งน้ำตา “ข้าขอสาบานว่าจะไม่เป็นแมลงวันอีกตลอดกาล” “ดี” อิโอตอบ “เพราะข้ามีแมลงวันไล่ยุงอยู่แล้ว ไม่อยากได้เพิ่ม” ซุสคุกเข่าลงแล้วสวมแหวนให้เธอ ไม่มีพิธี ไม่มีเสียงสวรรค์ร้องเพลง มีแค่เสียงลมเบาๆ และเสียงหัวใจที่เต้นพร้อมกัน อิโอเอื้อมมือมาจับมือเขา แล้วพูดว่า “ไปเดินเล่นกัน...ไม่ต้องบิน ไม่ต้องแปลง ไม่ต้องหนีใคร” และทั้งสองเดินเคียงกันบนทางหินสีทองของโอลิมปัส ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ดูเหมือนจะยิ้มด้วยเล็กน้อย ณ ตรงมุมหนึ่งของวิหาร เฮรากำลังนั่งจิบชา มองภาพทั้งหมดนี้อยู่เงียบๆ “ให้ตายสิ เขาทำสำเร็จจริงๆ” อะธีนาเดินมาเคียง “บางครั้ง แม้แต่เทพเจ้าก็ต้องใช้ความพยายาม...หลายชาติภพกว่าจะเข้าใจคำว่า ‘ภรรยา’” เฮราหัวเราะเบาๆ “ข้ารอเขารู้ตัวมาตั้งแต่สมัยเขาแปลงร่างเป็นต้นไม้” “แต่ครั้งนี้เขาแปลงใจ ไม่ใช่ร่าง” อะธีนาพูดพลางยิ้มจางๆ ในขณะเดียวกัน แมลงวันหนึ่งตัวก็บินวนอยู่ใกล้ๆ ขนมที่เฮอร์มีสเผลอวางไว้ มันเกือบจะเกาะขนม...แต่แล้วก็เปลี่ยนใจบินออกไป “เจ้าดูสิ” อะธีนาชี้ “เขารักษาสัญญาจริงๆ” เฮราส่งเสียง “อืม...เกือบจะน่ารักแล้วล่ะ” เรื่องราวป่วนๆ ที่เริ่มต้นด้วยแมลงวันและวัว จบลงด้วยคนสองคนที่เลือกจะไม่แปลงอีกต่อไป เพราะความรักแท้...ไม่ต้องหลอกลวง ไม่ต้องแปลงร่าง และไม่ต้องหนี






















