เกสตาโป องค์กรตำรวจลับนาซี ผู้สร้างความหวาดกลัว
เกสตาโป (Gestapo) คือตำรวจลับทางการเมืองของนาซีเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นในปี 1933 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวาดกลัวภายใต้การปกครองของรัฐ พวกเจ้าหน้าที่เกสตาโปมีอำนาจแทบไร้ขีดจำกัดในการจับกุม สอบสวน ทรมาน กักขัง และประหารชีวิตผู้คนหลายแสนคนทั่วทวีปยุโรป ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ชาวยิว หรือเชลยศึกของฝ่ายสัมพันธมิตร
การก่อตั้งและวิวัฒนาการ
เกสตาโปถูกก่อตั้งโดย แฮร์มันน์ เกอริง ในปี 1933 เพื่อแทนที่ตำรวจการเมืองเดิม แม้เกอริงจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย แต่ รูดอล์ฟ ดิลส์ ข้าราชการพลเรือนคือผู้บริหารงานจริงในช่วงแรก ต่อมาในปี 1934 ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ หัวหน้าหน่วย SS เข้ามาดูแลเกสตาโปแทน และในปี 1936 ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช รองของฮิมเลอร์ ได้รวมเกสตาโปเข้ากับซิโพ (Sipo) ซึ่งเป็นองค์กรตำรวจความมั่นคงที่ใหญ่ขึ้น กระทั่งเดือนกันยายน 1939 มีการจัดตั้ง RSHA (สำนักงานหลักความมั่นคงแห่งไรช์) โดยมีไฮดริชเป็นหัวหน้า ซึ่งรวมหน่วยสอบสวนอาชญากรรม (Kripo) เกสตาโป และหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (SD) เข้าไว้ด้วยกัน การรวม RSHA เข้ากับหน่วย SS ทำให้ไฮดริชกลายเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากเป็นอันดับสามของนาซี รองจากฮิตเลอร์และฮิมเลอร์
อำนาจไร้ขีดจำกัดและการล่าศัตรูรัฐ
ภายใต้นโยบายของฮิตเลอร์ที่ต้องการให้ประชาชนจับตาดูซึ่งกันและกัน เกสตาโป ซึ่งเป็นแผนกที่ 4 ของหน่วย SS และเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่หลักในการตามล่าศัตรูของนาซี ทั้งชาวยิว (ตามกฎหมายนูเรมเบิร์ก 1935) ชาวโรมานี คอมมิวนิสต์ อาชญากร ผู้มีความหลากหลายทางเพศ และผู้พิการ รวมถึงนักบวชและนักวิชาการที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ขยายวงกว้าง ศัตรูของรัฐก็เพิ่มขึ้นครอบคลุมถึงเชลยศึกและผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเก่าในพื้นที่ยึดครอง พลเรือนที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่ออำนาจนาซีสามารถถูกจับกุม ขังคุก ส่งค่ายกักกัน หรือแม้แต่ประหารชีวิตได้ทันทีโดยไม่ต้องมีเหตุผลทางกฎหมาย การโฆษณาชวนเชื่อของนาซีทำให้ประชาชนหวาดกลัวเกสตาโปอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถถูกจับกุมได้จากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เช่น การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล การฟังวิทยุต่างประเทศ หรือแม้แต่การไม่แสดงความเคารพต่อฮิตเลอร์ ข้อมูลการกระทำผิดส่วนใหญ่มาจากรายงานของพลเรือนทั่วไปที่อาจได้รับรางวัลหรือต้องการกำจัดคู่แข่ง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเกสตาโป ซึ่งมีสมาชิกเพียงประมาณ 30,000 คนในช่วงปลายสงคราม ต้องพึ่งพาความร่วมมือจากประชาชนอย่างมากเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
จุดจบและมรดกความโหดร้าย
เกสตาโปมีบทบาทสำคัญในการเนรเทศและสังหารหมู่ชาวยิวในค่ายมรณะ เช่น เอาช์วิทซ์ รวมถึงการประหารชีวิตเชลยศึกจำนวนมาก หลังความพยายามลอบสังหารฮิตเลอร์ในปี 1944 ที่ล้มเหลว เกสตาโปก็ปฏิบัติการตามล่าผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างเต็มกำลังโดยไม่จำกัดขอบเขต องค์กรนี้ล่มสลายลงพร้อมกับการสิ้นสุดของนาซีเยอรมนีในปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ในศาลนูเรมเบิร์กหลังสงคราม เกสตาโปถูกประกาศว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมอย่างเป็นทางการ แอนสท์ คาลเทินบรุนเนอร์ หัวหน้า RSHA ถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ขณะที่ ไฮน์ริช มึลเลอร์ มีรายงานว่าเสียชีวิตในปี 1945 แต่ไม่เคยพบศพของเขา ซึ่งสะท้อนชะตากรรมของเหยื่อนับไม่ถ้วนขององค์กรที่โหดเหี้ยมนี้
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทย
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทย
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
เรื่องของผู้ชายที่ควรรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงหรือไม่
เฉลยแล้ว! 2 จุดอับใน "เครื่องซักผ้า" ที่หลายคนมองข้าม จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว
“แอ่งดานาคิล” ราวกับอยู่บนต่างดาว สถานที่สุดโหดร้ายแห่งหนึ่งของโลก
ภาพของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือทีมทำความสะอาด ที่กำลังปฏิบัติงานบริเวณ "ดวงตา" ขององค์พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุตสึ




