เมื่อ ‘การหลอกลวง’ สวมเครื่องแบบ และใช้กฎหมายเป็นอาวุธ
ในโลกยุคดิจิทัลที่ “ความเชื่อถือ” เดินทางเร็วกว่า “ความจริง”
มิจฉาชีพไม่จำเป็นต้องใช้ปืน ใช้มีด หรือบุกรุกบ้าน
แต่พวกเขาเลือกที่จะใช้อาวุธที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น คือ “คำพูด + โลโก้ของรัฐ + ข้อมูลจริงบางส่วน”
กรณีล่าสุดที่ปรากฏในหลายสื่อ คือการที่มิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน โดยเฉพาะผู้มีความรู้ทางกฎหมายจำกัด และอ้างว่าเกี่ยวข้องกับ “คดีฟอกเงิน” ที่เชื่อมโยงกับบุคคลจริงที่เคยเป็นอดีตข้าราชการ — นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช
คดีนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความซับซ้อนของอาชญากรรมยุคใหม่
แต่ยังเผยให้เห็น “ช่องโหว่” ที่กฎหมายไทยอาจยังตามไม่ทันความเจ้าเล่ห์ของโลกไซเบอร์
กลลวงที่ถูกออกแบบเหมือน “ระบบยุติธรรม”
1.1 รูปแบบการหลอกลวง
-
โทรศัพท์ผ่านแอป LINE ด้วยโปรไฟล์ราชการ
(ใช้ชื่อ-ภาพ DSI หรือสัญลักษณ์ทางราชการ) -
กล่าวอ้างถึงคดีจริง-ชื่อจริง ที่มีอยู่ในระบบข่าว
-
แจ้งชื่อ-นามสกุลของผู้เสียหาย พร้อมเลขคดีปลอม
-
ส่งภาพ/เอกสารปลอมของนายสามารถฯ หรือหนังสือ DSI ปลอม
-
กล่าวหาว่าผู้เสียหาย ‘ขายบัญชี’ ให้เครือข่ายฟอกเงิน
-
ข่มขู่ให้โอนเงินมา “ตรวจสอบ” มิฉะนั้นจะถูกจับ
-
ระบุให้โอนเงินทั้งหมด (แม้กระทั่งเงินพ่อแม่)
-
จบลงด้วยการสูญเงินหลักแสนถึงหลักล้าน
1.2 จุดอันตรายของกลลวงนี้
-
มีการ ใช้ชื่อบุคคลจริงที่เคยเป็นบุคคลสาธารณะ
-
ใช้ ข้อมูลบางส่วนที่ตรวจสอบได้จริง ทำให้ดูน่าเชื่อถือ
-
กระบวนการหลอกลวงเลียนแบบขั้นตอนของราชการ เช่น การสอบสวน, เรียกสอบ, การแจ้งหมายจับ
-
เล่นกับความกลัวของประชาชน ที่ไม่เข้าใจกฎหมาย และกลัวถูกคุมขัง
วิเคราะห์จิตวิทยาของการตกเป็นเหยื่อ
2.1 ทำไมคนจึงเชื่อ?
-
ความกลัวต่ออำนาจรัฐ: ผู้คนถูกปลูกฝังว่า DSI คือ “ตำรวจเหนือระดับ” ถ้ามีหมายเรียกมา อาจหมายถึง “ติดคุก”
-
ข้อมูลจริงปะปนกับเรื่องเท็จ: การใช้ชื่อคนจริง เลขคดีจริง สร้าง “ความจริงปลอม” ที่น่าเชื่อถือ
-
ภาวะตกใจ-กดดันให้ตัดสินใจทันที: มิจฉาชีพจะเร่งเร้า ไม่ให้เหยื่อปรึกษาคนอื่น
-
ใช้วาทกรรมว่า ‘เงินที่โอนคือการตรวจสอบ ไม่ใช่การยอมรับผิด’
(ซึ่งเป็นตรรกะปลอม แต่คนทั่วไปมักหลงเชื่อเพราะไม่เข้าใจกฎหมาย)
2.2 ปรากฏการณ์ ‘โอนเงินเพื่อไม่ติดคุก’
นี่คือ “รูปแบบใหม่ของการรีดไถ” โดยอาศัยความกลัวแทนการข่มขู่แบบเดิม
แทนที่จะบุกบ้านผู้เสียหายแล้วเรียกค่าไถ่ มิจฉาชีพกลับใช้วิธีโทรศัพท์ + เอกสารปลอม
ผลลัพธ์เหมือนเดิม: เหยื่อโอนเงินให้คนร้ายด้วยมือตนเอง
ระบบรัฐต้องตื่นรู้ - และทำมากกว่าประชาสัมพันธ์
3.1 จุดอ่อนของภาครัฐที่ถูกใช้เป็นช่องโหว่
-
ข้อมูลคดีและชื่อบุคคลที่อยู่ในสื่อ สามารถถูกนำมาใช้ปะติดปะต่อในการหลอกลวง
-
ไม่มีระบบตรวจสอบ หมายเรียกปลอม หรือชื่อเจ้าหน้าที่ปลอม ผ่านเว็บราชการที่ง่ายและเร็ว
-
การทำงานข้ามหน่วยงานระหว่าง DSI – ตำรวจ – ธนาคาร ยัง ขาดระบบอัตโนมัติที่ลิงก์กันได้แบบเรียลไทม์
3.2 ข้อเสนอเชิงระบบ
-
จัดตั้ง ระบบตรวจสอบเจ้าหน้าที่ DSI แบบเรียลไทม์ (ผ่านเบอร์โทร / หมายเลขบัตรเจ้าหน้าที่)
-
สร้าง แอปหรือเว็บเช็กหมายเรียกปลอม โดยประชาชนสามารถกรอกเลขคดี หรือเลขหนังสือ แล้วตรวจสอบสถานะได้ทันที
-
บังคับให้ LINE และแพลตฟอร์มสื่อสารออนไลน์ ระบุคำเตือนเมื่อมีการสนทนาในชื่อองค์กรรัฐ (เช่นบัญชีปลอมที่ใช้โลโก้หน่วยงาน)
-
ธนาคารต้อง บล็อกบัญชีที่รับเงินผิดปกติทันทีใน 5 นาทีแรก ด้วยระบบ AI
-
ผลักดันให้มีกฎหมาย คุ้มครองเหยื่อที่โอนเงินเพราะถูกหลอกในบริบทคล้ายรัฐ
วิธีเอาตัวรอดของประชาชนในยุค “ราชการปลอม”
✅ ข้อควรจำเมื่อมีการโทรแอบอ้าง
-
ไม่มีหน่วยงานใดโทรมาขู่คุณแล้วให้ “โอนเงิน” ได้
-
เจ้าหน้าที่ DSI หรือหน่วยสอบสวนใด ๆ จะมีหนังสือราชการเป็นลายลักษณ์อักษร
-
อย่าคุยคนเดียว ให้ขอเวลาตั้งหลัก และปรึกษาคนใกล้ชิด
-
อย่าแชร์ข้อมูลบัตรประชาชน-เลขบัญชีผ่านโทรศัพท์
-
โทรตรวจสอบทันทีที่ สายด่วน DSI: 1202 หรือ เว็บไซต์ www.dsi.go.th
หากหลงเชื่อและโอนเงินไปแล้ว ต้องทำทันที
-
แจ้งธนาคารเจ้าของบัญชีของคุณให้ อายัดการโอนทันที
-
ติดต่อ ธนาคารปลายทาง เพื่อขอระงับบัญชีรับเงิน
-
แจ้งความที่ สถานีตำรวจท้องที่ โดยนำข้อมูลทั้งหมด
-
รวบรวมหลักฐาน Line / เสียงสนทนา / รูปภาพ / เลขบัญชีคนร้าย
-
แจ้งเบาะแสเพิ่มเติมกับ DSI ทางเว็บหรือสายด่วน
เมื่อความยุติธรรมกลายเป็น ‘เครื่องมือของคนร้าย’
อาชญากรรมยุคนี้ไม่ได้อยู่ในตรอกซอยมืดหรือใต้สะพานลับ
แต่มันอยู่ในโทรศัพท์ – แฝงตัวในแอปไลน์ – พูดด้วยสำเนียงราชการ – และหลอกลวงด้วยรูปตราครุฑ
การต่อสู้กับภัยแบบนี้ไม่ใช่เรื่องของเหยื่อคนใดคนหนึ่ง
แต่เป็นเรื่องของ รัฐที่ต้องทันเกม
ของ สื่อที่ต้องเตือนสติประชาชนอย่างมีชั้นเชิง
และของ พลเมืองยุคใหม่ที่ต้องรู้ทันมากกว่าหวังพึ่งคนอื่น
เพราะในโลกที่แม้แต่ “หมายจับ” ยังปลอมได้
สิ่งเดียวที่คุณต้องมีตลอดเวลา...คือ “สติ”
ที่มา https://shorturl.asia/RKdSL
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
คุก 2 ปี "แอน จักรวาล" ไม่รอลงอาญา
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เปิดโผ 60 อันดับสาวเอเชียสาย Amateur ที่มียอดวิวสูงสุดใน Pornhub ปี 2025: ใครคือแชมป์ตัวจริงแห่งปี
เขาพระวิหารในวันที่เหลือแต่ซาก หลังถูก BM-21 ถล่มย่อยยับ โซเชียลไทยตั้งคำถาม “ถ้ารักจริง ทำไมใช้เป็นฐานรบ”
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เกาหลีเหนือ..จับหญิงศัลย์ฯหน้าอก ลั่นไม่เป็นสังคมนิยม
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
"ภูมิรพี"เด็กไทยฟุตบอล U17 สู่ตัวหลักมือกาวมัธยมปลายในญี่ปุ่น
“ฆๅตกรเด็กวัด ลากศwใส่กระเป๋าเผากลางดึก ลบชีวิตปลิดชีพกะlทย
สรุปเผยข้อมูลกลโกงใหม่ๆที่ต้องระวัง!!!
ราชินีลำภูไท มลฤดี พรหมจักร์ ผู้สร้างตำนานกลอนลำ สาวนักเรียนตำตอ
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
เปิดโผ 60 อันดับสาวเอเชียสาย Amateur ที่มียอดวิวสูงสุดใน Pornhub ปี 2025: ใครคือแชมป์ตัวจริงแห่งปี
วันนี้!! ทหารไทยเหยียบระเบิดขาขาดอีกแล้ว!!
ประเทศเดียวในโลกที่ประชากรทั้งหมดนับถือศาสนาคริสต์
"ภูมิรพี"เด็กไทยฟุตบอล U17 สู่ตัวหลักมือกาวมัธยมปลายในญี่ปุ่น
ทึ่งทั่วโลก : "เดโกโทระ" รถสิบล้อแต่งศิลป์ งานศิลปะสไตล์ญี่ปุ่น อลังการงานสร้างเหมือนกันนะเนี่ย
พืชพรรณไม้น่าสนใจ : จินโจโรยักษ์ "ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต" หนึ่งในพืชที่ดูแปลกตาและน่าทึ่งที่สุดในโลก
ทึ่งทั่วไทย : "วัดช้างรอบ" วัดเก่าแก่มีความสำคัญแห่ง จ.กําแพงเพชร
เรื่องของผู้ชายที่ควรรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงหรือไม่