ภาวะอยู่ก็ได้ ‘Pleasanteeism’ ด้านมืดที่ทำให้เราสบายดีทั้งที่ในใจพังไปหมดแล้ว กับ ศิลปะของการ ‘ไม่ต้องเก่งตลอดเวลา’ เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องฝืน “อ่อนแอบ้างก็ได้ ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องหรอก”
Pleasanteeism คือ ภาวะของคนที่พยายามแสดงพลังบวก ทำตัวเป็นมิตร ฝืนยิ้มเหมือนกับว่า สบายดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมรับทุกปัญหาที่เข้ามา แต่ในใจกลับรู้สึกเหนื่อยล้ากับการต้องแสดงพลังบวก โดยคนที่มีอาการแบบนี้ มักเลือกซุกปัญหา และกดความกดดัน ความเครียดเอาไว้ใต้พรม
งานวิจัยเรื่อง ‘Keeping Up Appearances: How ‘Pleasanteeism’ is Eroding Resilience’ ของ Lime Insurance กล่าวว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะแยกออกจากบรรทัดฐานสังคม หลาย ๆ คนมองว่า การประสบกับอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ และการเล่าถึงอาการป่วยเป็นความอ่อนแออย่างหนึ่ง มันคือ ความกดดันที่ต้องแสดงออกว่า ‘โอเค’ อยู่ตลอด ผลการทดลองระบุ ว่า
- 51 เปอร์เซ็นต์ของมนุษย์ออฟฟิศในสหราชอาณาจักร ยอมรับว่า ตนรู้สึกถูกกดดันให้ปั้นหน้า แสดงท่าทีว่ามีความสุขกับเพื่อนร่วมงาน
- 25 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า เมื่อต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศอีกครั้ง ตนจะเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
- 34 เปอร์เซ็นต์บอกว่า กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดในพาร์ตชีวิตที่ไม่เกี่ยวกับงาน
- 19 เปอร์เซ็นต์บอกว่า เมื่อต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ อยู่ท่ามกลางสายตาผู้คน ตนรู้สึกกังวล และเครียด
- 44 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า ความเครียดส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพของการทำงาน
- 28 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า ตนไม่โปรดักทีฟ
- 17 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า ไม่ค่อยมีสมาธิ ทำงานพลาดอยู่บ่อย ๆ
- และอีก 17 เปอร์เซ็นต์ บอกเช่นกันว่า มักลืมทำสิ่งสำคัญ
ผลการศึกษาของเลียก์ ไวสส์ (Leah Weiss) ศาสตราจารย์โรงเรียนสอนธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) และผู้แต่งหนังสือ ‘How We Work: Live Your Purpose, Reclaim Your Sanity, and Embrace the Daily Grind’ กับชาวนา ชาพิโร (Shauna Shapiro) ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยซานตาคลารา (Santa Clara University) และนักจิตวิทยาคลินิก ชี้ให้เห็นว่า บางทีการยอมรับให้ตัวเองอ่อนแอบ้าง หรือการใจดีกับตัวเองก็เป็นการสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้กับชีวิตด้วย
Self-kindness และ Self-compassion เป็นสิ่งสำคัญ ชาวนา ชาพิโร แนะนำว่า ให้ใช้ ‘สูตร 15 เปอร์เซ็นต์’ คือ เมตตากับตัวเองเพิ่มสัก 5 เปอร์เซ็นต์ เห็นอกเห็นใจ ใจดีกับตัวเอง 5 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อมั่นในตัวเอง 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะคนเราอ่อนแอบ้างก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดเวลาหรอก It’s okay to not be okay.
ศิลปะของการยอมรับความธรรมดา และ การพักอย่างมีพลัง
- กล้าที่จะบอกว่า “วันนี้ทำไม่ไหว” คือ ความสามารถในการรับรู้ขีดจำกัดของตัวเอง และกล้าที่จะพูดว่า “พอแล้ว” เมื่อร่างกายและจิตใจต้องการการพักผ่อน การฟังเสียงเตือนจากร่างกายเป็นสัญญาณของความเข้าใจตัวเองที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ความอ่อนแอ
- ให้นิยามใหม่กับคำว่า ‘เก่ง’ คนที่เก่งอย่างแท้จริง คือ คนที่รู้จักดูแลตัวเอง เข้าใจว่าเมื่อไรควรเดิน เมื่อไรควรวิ่ง และเมื่อไรควรหยุดพัก
- ฟังเสียงของตัวเอง ไม่ใช่เสียงของสังคม ลองถามตัวเองว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เราทำเพราะอยากทำจริง ๆ? เรากำลังวิ่งไล่ตามอะไร และสิ่งนั้นมีความหมายกับเราจริงหรือไม่? บางครั้งเราอาจพบว่า เราใช้พลังงานมากมายไปกับความคาดหวังที่ไม่ใช่ของเราเอง
วิธีพักอย่างมีพลัง มีคุณภาพที่ทำได้ง่าย ๆ
- การเดินเล่นในที่มีธรรมชาติแม้เพียง 20 นาที ช่วยลดฮอร์โมนความเครียดได้ถึง 30%
- ปิดการแจ้งเตือนและโซเชียลมีเดียอย่างน้อยวันละ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้สมองได้พัก
- ทำกิจกรรมที่ไม่ต้องคิดมากอย่างเช่น วาดรูป ระบายสี ทำอาหาร ฟังเพลง หรือทำงานฝีมือ
- นั่งนิ่ง ๆ ไม่ทำอะไรแค่ 10 นาที ลองสังเกตลมหายใจและความรู้สึกที่เกิดขึ้น
- นอนหลับให้เพียงพอการพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
การยอมรับว่าเราไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดเวลาไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการเลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น เมื่อรู้จักพัก เราจะพบว่า เรามีพลังมากพอที่จะเดินต่อไปได้อีกไกล และมีความสุขมากขึ้น










