กระจ่างศาสต์!! "ชาไทย" ใส่สี??
มีชาวเน็ตแชร์กันในโลฃกออนไลน์ ว่า“ชาเย็น” หรือ “ชาไทย” "ไม่ใช่สีส้ม แต่เป็นการใส่สีส้มลงไป" เรื่องนี้จริงหรือ
ชาเย็น ชาไทย ถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่รู้หรือมั้ยว่า จริง ๆ แล้วชาไทยดั้งเดิมไม่ได้สีส้มอย่างที่เราเห็น
โดยชาไทยเป็นการนำชาซีลอนมาดัดแปลงปรับแต่งสี กลิ่น และรสชาติให้หอมหวานถูกปากคนไทย เพราะชาซีลอนมีสีคล้ายสีเบจ ส่วนใหญ่จึงนิยมเติมสีผสมอาหารที่ชื่อว่า “Sunset yellow FCF” ลงในตัวชาเพื่อให้เครื่องดื่มมีสีส้มน่าทานมากขึ้น
ชาซีลอน (Ceylon Tea) มีต้นกำเนิดจากประเทศศรีลังกา เริ่มมีบทบาทในอุตสาหกรรมชาของโลกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อชาวอังกฤษได้นำต้นชาจากจีนเข้ามาปลูกในศรีลังกา และต่อมาได้กลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องความสดชื่นและความโปร่งใสของรสชาติ นอกจากนี้ชาซีลอนยังมีกลิ่นหอมที่นุ่มนวล ทำให้เป็นที่นิยมในการนำไปชงเป็นชาดำหรือน้ำชากับน้ำมะนาว
ชาไทยใส่สีจริงหรือไม่ คำตอบคือ “จริง” ในหลายกรณี
ชาไทยที่เรารู้จักกันดี โดยเฉพาะ “ชาเย็น” หรือ “ชาไทยสีส้ม” ที่มักพบตามร้านน้ำทั่วไป มักจะมี การเติมสีผสมอาหาร เพื่อให้ได้สีส้มจัดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในชาไทยสำเร็จรูปหรือผงชาที่ขายตามท้องตลาด
ทำไมถึงใส่สี
1. เพื่อให้ดูน่ากิน: สีส้มจัดเป็นภาพจำของชาไทย ช่วยดึงดูดสายตา
2. คุณภาพใบชาไม่คงที่ ใบชาบางแหล่งสีไม่เข้ม เมื่อชงแล้วอาจออกสีน้ำตาลจาง การใส่สีจึงช่วยให้ชาดูเข้มข้น
3. มาตรฐานการผลิตในเชิงพาณิชย์: ผู้ผลิตต้องการความสม่ำเสมอของสีทุกแก้ว
ใส่สีอะไร
โดยทั่วไปใช้ สีผสมอาหารสังเคราะห์ เช่น Sunset Yellow FCF (E110) ซึ่งให้สีส้ม
บางยี่ห้ออาจผสม สีแดง (E129) เพื่อปรับโทน
อันตรายการใส่สี
ในไทย อย. ยังอนุญาตให้ใช้ Sunset Yellow FCF ในอาหารและเครื่องดื่มได้ โดยระบุว่าชาที่ใส่สีจะถูกนับเป็นประเภทชาปรุงสำเร็จที่ปรุงแต่งสีกลิ่นรส ซึ่งกฎหมายอนุญาตให้ใส่สีผสมอาหารนี้ได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สอดคล้องตามมาตรฐานสากล
Sunset Yellow FCF
เนื่องจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ถือว่าสีดังกล่าวยังปลอดภัยสำหรับการใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งต้องควบคุมการใช้และการบริโภคอย่างเหมาะสม นั่นคือกำหนดให้ใช้ในปริมาณ 0-4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (น้ำหนักตัว) ต่อวัน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถดื่มได้โดยไม่จำกัด ความเสี่ยงและอันตรายจากการดื่มชาผสมสีมากจนเกินไป หากดื่มชาไทยเกิน 2 แก้วต่อวัน จะได้รับเจ้าสารสีส้มตัวนี้มากกว่าปริมาณที่มาตรฐานสากลกำหนดไว้ เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น กระตุ้นให้เกิดอาการสมาธิสั้นในเด็ก รวมไปถึงความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหรือผลเสียต่อไต
ตามแนวทางของทั้งสหภาพยุโรปและ WHO/FAO Sunset yellow FCF ไม่มีคุณสมบัติก่อมะเร็ง ความเป็นพิษต่อพันธุกรรม หรือความเป็นพิษต่อพัฒนาการในปริมาณที่ใช้
ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษปี 1970 เป็นต้นมา มีการอ้างว่าสีผสมอาหาร Sunset yellow FCF นี้ทำให้เกิดอาการแพ้อาหารและ มีพฤติกรรมคล้าย สมาธิ สั้นในเด็ก ตามการสนับสนุนของ Benjamin Feingoldแต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียงเล็กน้อยที่สนับสนุนข้ออ้างกว้างๆ เหล่านี้ มีความเป็นไปได้ที่สีผสมอาหารบางชนิดอาจกระตุ้นผู้ที่มีแนวโน้มทางพันธุกรรมได้







