“ตะลิงปลิง” ผลไม้พื้นบ้านรสแซ่บ กินเป็นก็ดี กินไม่พอดีอาจมีภัย
สวัสดีค่ะพี่น้องวัยทอง วัยเกษียณ หรือวัยไหนๆ ที่ชอบรสเปรี้ยวซี้ดซ้าดโดยเฉพาะ “ตะลิงปลิง” ที่หลายบ้านปลูกไว้ข้างรั้ว เอาไว้ทำกับข้าว แกงส้ม ตำน้ำพริก หรือจะจิ้มเกลือกินเล่นก็แซ่บเหลือหลาย แต่รู้ไหมคะ...เจ้า “ตะลิงปลิง” เนี่ย ถึงจะดูเหมือนผลไม้พื้นบ้านธรรมดา แต่จริงๆ แล้วมีทั้งคุณและโทษ!
รู้จักตะลิงปลิงกันก่อน
ตะลิงปลิง เป็นญาติใกล้ชิดกับมะเฟืองค่ะ ผลจะเรียวยาว สีเขียวอมเหลือง รสเปรี้ยวมากถึงมากที่สุด บางบ้านเรียก “มะเฟืองเปรี้ยว” ก็มี ช่วงหน้าฝนนี่ออกลูกกันพรึ่บเลยทีเดียว
ประโยชน์ก็เยอะ ถ้ากินให้พอดี
- มีวิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยลดน้ำตาลในเลือด (แต่ยังไม่ควรใช้แทนยา)
- ใบและผลมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปวดฟัน ร้อนใน
- ในบางพื้นที่นิยมต้มดื่มลดไข้ แก้ร้อนในตามภูมิปัญญาชาวบ้าน
แต่อย่าลืมว่า…ทุกอย่างมีสองด้าน
- ตะลิงปลิงมีกรดออกซาลิกสูงมาก หากกินมากๆ โดยเฉพาะแบบคั้นน้ำดื่ม อาจทำให้ ไตวายเฉียบพลัน ได้เลยค่ะ มีรายงานจากหลายประเทศว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ
- กรดแรงขนาดนี้ ถ้าเคี้ยวบ่อยๆ เคลือบฟันเราก็อาจจะกร่อนเอาได้
- คนเป็นโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ควรเลี่ยงเลย เพราะจะทำให้แสบแน่นท้อง
- ที่สำคัญ คนเป็นโรคไต โรคนิ่ว หรือโรคเกาต์ ห้ามเด็ดขาดนะคะ เพราะแค่ปริมาณเล็กน้อยก็อาจกระตุ้นอาการได้แล้ว
สรุป: กินได้แต่ต้องรู้ลิมิต
สำหรับคนสุขภาพปกติ กินสดวันละ 2–3 ลูกก็พอแล้วค่ะ อย่าปั่นดื่ม หรือกินต่อเนื่องหลายวัน เพราะจะได้รับกรดออกซาลิกเยอะเกิน
เห็นไหมคะพี่น้อง ตะลิงปลิงผลเล็กๆ แต่มีเรื่องใหญ่ซ่อนอยู่ กินให้เป็นก็ดีต่อร่างกาย แต่ถ้ากินแบบไม่ระวัง กินเพราะแซ่บอย่างเดียว อาจต้องเข้าโรงพยาบาลโดยไม่รู้ตัว
ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ กินอะไรต้องคิดก่อนนิดหนึ่ง โดยเฉพาะวัยเราที่ต้องถนอมไตไว้ให้ดี เพราะเปลี่ยนอะไหล่ไม่ได้เหมือนรถค่ะ!






















