ชะตากรรมของหญิงหม้ายในอินเดีย ชีวิตที่ไร้ค่าในสังคมปิตาธิปไตย
ในอินเดีย สังคมที่ยึดถือขนบธรรมเนียมโบราณอย่างเคร่งครัด การเสียชีวิตของสามีคือหายนะสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงหม้าย ต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายสามทางเลือก: พลีชีพตามสามีด้วยการกระโดดเข้ากองไฟ (ซึ่งปัจจุบันผิดกฎหมาย), แต่งงานกับพี่ชายหรือน้องชายของสามี, หรือใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ภายใต้การถูกกีดกันและรังเกียจจากครอบครัวและสังคม สำหรับชาวอินเดียส่วนใหญ่ ชีวิตของผู้หญิงถูกผูกติดอยู่กับสามี และเมื่อปราศจากเขา ชีวิตของพวกเธอก็ไร้ซึ่งคุณค่า
หญิงหม้ายส่วนใหญ่ในอินเดียมักถูกขับไล่ออกจากบ้านทันทีหลังสามีเสียชีวิต เพราะความเชื่อที่ว่าพวกเธอคือ "กาลกิณี" หรือผู้ที่นำพาความโชคร้ายมาสู่บ้าน การถูกขับไล่นี้ทำให้พวกเธอต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างแสนสาหัส พวกเธอไม่มีการศึกษา ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ชีวิตจึงเหมือนเรือรั่วกลางทะเลที่พร้อมจะอับปางได้ทุกเมื่อ
"เมืองแม่หม้าย": ที่พึ่งสุดท้ายของผู้ไร้ที่พึ่ง
เมื่อไร้ที่พึ่ง อาศรม ในเมืองนาบาวีป และเมืองอื่นๆ จึงกลายเป็นเหมือนเกาะเล็กๆ ที่หญิงหม้ายเหล่านี้ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด นาบาวีป ซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ ได้รับฉายาว่า "เมืองแม่หม้าย" มานานกว่า 300 ปี ที่นี่เป็นแหล่งพักพิงสุดท้ายสำหรับหญิงหม้ายจากอินเดีย บังคลาเทศ และเนปาล พวกเธอหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างทำงานเล็กน้อย ขอทาน หรือแม้กระทั่งขายบริการทางเพศ โดยอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง อาศรม หรือห้องเช่าเล็กๆ
ทุกเช้า หญิงหม้ายเหล่านี้จะมารวมตัวกันที่อาศรมเพื่อสวดมนต์สรรเสริญพระกฤษณะ เพื่อแลกกับอาหารประทังชีวิตหนึ่งมื้อต่อวัน อาศรมเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่แจกจ่ายอาหาร แต่ยังมีบทบาทในการเยียวยาจิตใจด้วยหลักธรรมทางศาสนา
ชีวิตที่ตายทั้งเป็น
แม้พิธีสตีจะถูกยกเลิกไปเกือบ 200 ปีแล้ว แต่ทัศนคติของสังคมอินเดียต่อหญิงหม้ายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง พวกเธอต้องสวมส่าหรีสีขาว ห้ามสวมเครื่องประดับ ห้ามกินเนื้อสัตว์ และถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองใดๆ เพราะเชื่อว่า แม้เงาของพวกเธอก็เป็นเสนียดจัญไร พวกเธอสูญเสียไม่เพียงแค่สามี แต่ยังสูญเสียสถานะทางสังคมไปตลอดกาล
ความเชื่อเก่าแก่ที่วางผู้ชายไว้สูงส่งดุจเทพเจ้า และมองผู้หญิงเป็นเพียงสมบัติ ทำให้ชีวิตของหญิงหม้ายเต็มไปด้วยการกดขี่และถูกกีดกัน อาศรมจึงเป็นเหมือนสถานที่ที่หญิงหม้ายมารวมตัวกันเพื่อรอคอยความตายอย่างเงียบงัน เพราะเมื่อสามีเสียชีวิต สังคมก็ไม่ยอมให้พวกเธอหลุดพ้นจากพันธะจนกว่าจะตายเช่นกัน ทำให้ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเธอก็อยู่ในสภาวะ "ตายทั้งเป็น"
















