ทิ้งดีกว่ากิน น้ำมันพืช 3 แบบ เสี่ยงสารก่อมะเร็ง เข้าครัวควรเลิกใช้ ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยง
วันนี้ดิฉันมีเรื่องใกล้ตัวมาเล่าให้ฟังค่ะ เชื่อว่าเกือบทุกบ้านต้องใช้น้ำมันพืชทำอาหารกันทุกวัน ไม่ว่าจะผัด จะทอด ก็ขาดไม่ได้ แต่รู้ไหมคะว่า...น้ำมันบางประเภทนั้น แทนที่จะดีต่อสุขภาพ กลับแอบซ่อนสารอันตรายที่อาจนำไปสู่ “มะเร็ง” ได้เลยทีเดียว
วันนี้ดิฉันเลยอยากมาเตือนกันไว้ล่วงหน้า กับ 3 ประเภทน้ำมันพืชที่ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลค่ะ
1. น้ำมันที่เปิดใช้เกิน 3 เดือน
บางบ้านเปิดขวดน้ำมันไว้แล้วก็ใช้เรื่อย ๆ จนหมด โดยไม่รู้เลยว่าพอเกิน 2-3 เดือน มันเริ่มเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันค่ะ ทำให้เกิดสารพวก “เปอร์ออกไซด์” และ “แอลดีไฮด์” ที่ทำร้ายระบบทางเดินอาหาร ตับ ไต แบบเงียบ ๆ โดยเราไม่รู้ตัวเลยนะคะ
2. น้ำมันที่ผ่านการทอดซ้ำหลายครั้ง
อันนี้ดิฉันเห็นบ่อยมาก โดยเฉพาะเวลาไปตลาด บางร้านใช้น้ำมันเดิมทอดซ้ำ ๆ จนสีดำคล้ำ กลิ่นเหม็นหืนเลยค่ะ ซึ่งน้ำมันพวกนี้จะมีสารก่อมะเร็งอย่าง “อะคริลาไมด์” และ “เบนโซไพรีน” สะสมอยู่มาก บางบ้านก็เอาน้ำมันทอดเมื่อวานมาใช้ต่อแบบเสียดาย ของแบบนี้อย่าเสียดายเลยค่ะ สุขภาพเราสำคัญกว่า
3. น้ำมันแฮนด์เมดที่ไม่มีฉลาก
หลายคนอาจคิดว่าเป็นน้ำมันธรรมชาติ ไม่มีสารกันเสียก็คงดี แต่ถ้ามาจากแหล่งที่ผลิตไม่สะอาด ไม่มีมาตรฐาน โดยเฉพาะพวกที่ขายเป็นขวด ๆ จากชุมชนที่ไม่มีฉลาก ไม่มีวันหมดอายุ อันตรายมากค่ะ เพราะอาจมีสาร “อะฟลาท็อกซิน B1” จากเชื้อราปนเปื้อน ที่เสี่ยงต่อมะเร็งตับมากที่สุด
แล้วจะใช้น้ำมันอย่างไรให้ปลอดภัย?
ควรสลับใช้น้ำมันหลากหลายชนิดค่ะ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน หรือน้ำมันมะกอก
อย่าใช้น้ำมันซ้ำเกิน 1-2 ครั้ง และอย่าทอดจนเกิดควัน
หลังเปิดขวด ควรใช้ให้หมดภายใน 1-2 เดือน เก็บในที่แห้งและพ้นแสงแดด
ปริมาณการใช้น้ำมันต่อวัน ไม่ควรเกิน 2-3 ช้อนโต๊ะค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากฝากบอกทุกคนไว้นะคะว่า สุขภาพดีเริ่มจาก “ครัว” ของเราเอง เลือกใช้น้ำมันดี ๆ เลี่ยงของเสี่ยง ๆ แม้จะดูเล็กน้อย แต่ช่วยป้องกันโรคร้ายในระยะยาวได้ดีเลยค่ะ อย่ารอให้ป่วยแล้วค่อยรักษา ปรับวันนี้ เพื่อสุขภาพดีของเราทุกคนค่ะ






















