อาหารเมนูโลคาร์บคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
เมื่อเอ่ยถึงเทรนด์สุขภาพในยุคปัจจุบัน คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า "โลคาร์บ" หรือ “Low-Carb” ซึ่งเป็นแนวทางการรับประทานอาหารที่เน้นการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละมื้อให้น้อยลงกว่าการกินแบบปกติที่เคยชิน สำหรับหลายคน โลคาร์บอาจเริ่มต้นจากความอยากลดน้ำหนัก หรือต้องการดูแลรูปร่างให้กระชับขึ้น แต่แท้จริงแล้ว แนวทางการกินแบบโลคาร์บนั้นลึกซึ้งและกว้างขวางกว่าที่หลายคนคิด เพราะมันคือการจัดระเบียบร่างกายใหม่ตั้งแต่ระดับพลังงาน ระบบเผาผลาญ ไปจนถึงระดับฮอร์โมนและสมดุลภายในทั้งหมด
การรับประทานอาหารแบบโลคาร์บหมายถึงการลดการบริโภคอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรวมถึงอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ข้าว พาสต้า ขนมปัง มันฝรั่ง ขนมหวาน และผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง แน่นอนว่าฟังดูเหมือนต้องงดของอร่อยหลายอย่าง แต่ในทางกลับกัน การกินแบบนี้เปิดโอกาสให้เราได้สร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบที่หลากหลายไม่แพ้กัน เช่น โปรตีนคุณภาพดีจากเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ เต้าหู้ หรือไขมันดีจากน้ำมันมะกอก อะโวคาโด และถั่วเปลือกแข็งบางชนิด รวมถึงผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำอย่างบร็อคโคลี กะหล่ำดอก แตงกวา เห็ด ผักสลัดใบเขียว และสมุนไพรพื้นบ้านไทยอีกมากมาย
หลายคนอาจมองว่าอาหารโลคาร์บเป็นของฝรั่ง เพราะชื่อเรียกมันออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษ แต่ในฐานะเชฟที่คลุกคลีอยู่กับอาหารไทย ผมเห็นว่ารากของการกินแบบนี้มีอยู่ในวิถีไทยดั้งเดิมเช่นกัน เพียงแต่ว่าพอเราเปลี่ยนยุคเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรม อาหารแปรรูปเข้ามาแทนที่ข้าวปลาอาหารตามธรรมชาติ ชีวิตประจำวันเราจึงอุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาล และอาหารสำเร็จรูปมากเกินไป จนทำให้ร่างกายเสื่อมลงเร็วโดยไม่รู้ตัว
การเลือกกินแบบโลคาร์บเปรียบเสมือนการปรับสมดุลใหม่ให้ร่างกายกลับสู่โหมดที่เผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม หลักการพื้นฐานคือ เมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตน้อยลง ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะไม่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ฮอร์โมนอินซูลินลดการทำงานลง ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแหล่งพลังงานจากน้ำตาลไปเป็นไขมันแทน กล่าวคือ แทนที่ร่างกายจะใช้กลูโคสจากข้าวหรือขนมปัง มันกลับหันไปใช้ไขมันสะสมเป็นพลังงานหลักแทน และเมื่อกระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้ไขมันในร่างกายลดลงโดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงเหมือนในวิธีเดิมๆ
จากประสบการณ์ของผมในการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการมาอย่างยาวนาน พบว่าคนจำนวนมากที่เริ่มต้นเปลี่ยนวิธีการกินแบบโลคาร์บต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขารู้สึกพลังงานดีขึ้น อิ่มนานขึ้น และอาการโหยของหวานลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะคนที่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำตาลในเลือด หรือมีภาวะก่อนเบาหวาน พวกเขาสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้นอย่างน่าประหลาดเพียงแค่เปลี่ยนเมนูในจานอาหารเท่านั้น
แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในสังคมที่ข้าวถือเป็นอาหารหลัก หรือเมื่อเราคุ้นชินกับการดื่มกาแฟหวานจัดตอนเช้า ตามด้วยขนมปังเบเกอรี่ และอาหารจานด่วนในมื้อเที่ยง แต่หากลองเริ่มต้นจากการตัดสิ่งที่มีน้ำตาลสูงออกก่อน เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว จากนั้นค่อยๆ ลดแป้งขัดขาวลงทีละน้อย เราจะค่อยๆ สังเกตได้ว่า ร่างกายไม่เหนื่อยง่าย ไม่ง่วงในช่วงบ่าย และไม่หิวบ่อยแบบเดิม
อีกสิ่งที่ผมมักจะพูดกับผู้เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางโลคาร์บคือ อย่าไปกลัวไขมัน เพราะไขมันที่ดีคือเพื่อนของคุณ ไม่ใช่ศัตรู ไขมันจากน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ อะโวคาโด ถั่วแมคคาเดเมีย หรือน้ำมันมะกอกล้วนเป็นไขมันที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และทำให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยให้ฮอร์โมนเพศทำงานได้สมดุลขึ้น โดยเฉพาะในผู้หญิงวัย 35 ขึ้นไป ซึ่งเริ่มเข้าสู่ช่วงที่ระบบต่างๆ ของร่างกายเปลี่ยนแปลง
นอกเหนือจากประโยชน์ในด้านพลังงานและรูปร่าง การกินแบบโลคาร์บยังส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย เนื่องจากเราจะเน้นรับประทานผักที่มีเส้นใยสูง และลดการอักเสบที่เกิดจากน้ำตาลและสารกันบูดในอาหารแปรรูป ผมเคยเจอลูกค้าหลายคนที่เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เมื่อเปลี่ยนมาใช้แนวทางโลคาร์บควบคู่กับการทำอาหารเอง พบว่าอาการดีขึ้นภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์
ในมุมของการปรุงอาหาร เมนูโลคาร์บไม่ได้จำกัดเฉพาะสลัดหรืออาหารตะวันตกเท่านั้น แต่อาหารไทยจำนวนมากสามารถประยุกต์เป็นโลคาร์บได้อย่างสวยงาม เช่น ต้มยำกุ้งที่ไม่ใส่น้ำตาล ผัดพริกแกงหมูที่ใช้น้ำพริกแกงแบบไม่ผสมน้ำตาล ข้าวผัดที่ใช้ดอกกะหล่ำแทนข้าว หรือแม้แต่การทำลาบหรือยำต่างๆ โดยเลี่ยงการใส่น้ำตาลและใช้สมุนไพรไทยช่วยชูรสแทน เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกวัตถุดิบที่สด ปรุงด้วยมือเราเอง และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป
ท้ายที่สุดแล้ว เมนูโลคาร์บไม่ใช่เรื่องของแฟชั่นหรือกระแส แต่คือหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพผ่านจานอาหารอย่างมีสติ เป็นการปรับเปลี่ยนรากฐานการกินให้กลับมาใกล้ธรรมชาติ เลือกกินสิ่งที่ร่างกายต้องการแท้จริง ไม่ใช่สิ่งที่ถูกทำให้ติดจากอุตสาหกรรมอาหาร เมื่อร่างกายได้พักจากน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตส่วนเกิน มันจะเริ่มทำงานในจังหวะที่ควรจะเป็น ผมเชื่อว่าอาหารที่ดีคือยารักษาชั้นยอด และโลคาร์บก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนเราให้ดีขึ้นจากภายใน
ขอบคุณภาพประกอบจากคุณ Lalita naka





