หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สูตรลับความงามสยองของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 ความลับดำมืดใต้ผิวขาว

เนื้อหาโดย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ทรงเป็นที่จดจำจากพระพักตร์ขาวผ่องอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นเทรนด์ความงามในยุคนั้น ทว่าเบื้องหลังความงามนั้นซ่อนไว้ด้วยสูตรลับที่น่าสะพรึงกลัวและดำมืด

พระองค์ทรงใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมหลักคือสารตะกั่วขาวจากเวนิส (Venetian Ceruse) ผสมกับน้ำส้มสายชู เพื่อให้ได้ผิวที่ขาวราวกระดาษ การทาซ้ำหลายชั้นทำให้สารตะกั่วสะสมในร่างกาย ส่งผลให้พระเกศาร่วงและผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเทา นอกจากนี้ ลิปสติกสีแดงสดของพระองค์มีส่วนผสมของ Cinnabar ซึ่งมีสารปรอทเป็นอันตรายต่อระบบประสาทและความจำ อายไลเนอร์ Kohl ก็มีสารตะกั่วเป็นส่วนประกอบ และเพื่อดวงตาที่เปล่งประกาย พระองค์ยังทรงหยอดสารสกัดจากต้น Belladonna ซึ่งมีฤทธิ์ต่อสมองและหัวใจ แม้แต่สีปัดแก้มก็มาจากรากไม้หรือแมลงบด

การแต่งหน้าอันพิถีพิถันนี้ต้องใช้เวลานานและคงอยู่ได้หลายวัน เมื่อถึงคราวทำความสะอาด พระองค์ก็ทรงใช้สูตรพิเศษที่มีทั้งส่วนผสมจากธรรมชาติและสารเคมีอันตรายอย่างสารส้มและสารปรอท ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้ผิวเนียนนุ่ม แต่แท้จริงแล้วสารปรอทมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวหนัง

ความมุ่งมั่นในการมีผิวขาวผ่องนี้ สันนิษฐานว่ามีสาเหตุจากการพยายามปกปิดรอยแผลเป็นที่เกิดจากโรคฝีดาษที่พระองค์เคยประชวร ร่องรอยบนพระพักตร์และพระวรกายทำให้พระองค์ทรงกังวลเรื่องภาพลักษณ์อย่างมาก ถึงขั้นลงโทษขุนนางที่บังเอิญเห็นพระพักตร์สดของพระองค์ ความกังวลนี้ยังคงอยู่จนวาระสุดท้าย โดยพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ล้างเครื่องสำอางก่อนเสด็จสวรรคต

แม้สาเหตุการสวรรคตของพระองค์ยังคงเป็นปริศนา แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าการสะสมของสารตะกั่วและปรอทจากการใช้เครื่องสำอางเป็นเวลานาน มีส่วนสำคัญที่ทำให้พระพลานามัยทรุดโทรมและนำไปสู่การสิ้นพระชนม์ เรื่องราวของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมความงามในอดีตที่อาจนำมาซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งแตกต่างจากยุคปัจจุบันที่เรามีทางเลือกในการดูแลผิวพรรณที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพกว่ามาก

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งป้าโกรธแค้นชายแดนเดือด! ฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นทิ้งซะเลย เพราะ "มันเขมรเว้ย!" เคสสุดโต่งที่ทำให้เน็ตฮาแตกเผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่เป็นวันคริสต์มาส เทศกาลของชาวคริสต์ แต่ชาวพุทธเราขอแจมด้วยน๊า ^_^เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)เขมรยอมส่งจดหมายอ้อนไทย ขอเจรจาหยุดยิงด่วน หลังโดนรุกหนัก ยอมจัด GBC ที่จันทบุรี แต่พอโดนทัวร์ลงดันพลิกลิ้นบอก "ของปลอม"25 คำคมจากขงเบ้ง"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAVช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชายคนหนึ่งเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หลังจากรับประทานหมูตุ๋นแตงกวาสุขสันต์วันคริสต์มาส...สาวสกอตวัย 25 หน้าอกโตไม่หยุดเพราะโรคหายาก หนักรวม 25 กิโล! แบกทุกวันเหมือนมีลูกน้อยเกาะอกตลอดเวลา 😱🍼นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นหนีไปเที่ยวนาราแทน เนื่องจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นของเกียวโตและแรงกดดันจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจียทึ่งทั่วโลก : "โบโรบูดูร์" ศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในโลกการออกกำลังกายของผู้สูงวัยสำรวจผู้ชาย 100 คน เปิดเผยสาเหตุที่นอกใจภรรยา พบ 4 ช่วงเวลาที่ทำให้ความสัมพันธ์เสี่ยงต่อการนอกใจสูงสุด
ตั้งกระทู้ใหม่