เขมรเคลมไทยไม่หยุด! โซเชียลเดือดหลังอ้าง 'ผ้านุ่งจีบหน้านางแบบสยาม' คือของตน ทั้งที่เทวรูปยังนุ่งเหมือนผ้าเช็ดตัว แถมตัดต่อสององค์มาต่อกัน!"
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อเพจและชาวเน็ตสายเขมรบางกลุ่มออกมา “เคลม” หรืออ้างว่าผ้านุ่งจีบหน้าหนาแบบสยาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการแต่งกายไทยโบราณ แท้จริงแล้วสืบทอดมาจากเขมร พร้อมแนบภาพเทวรูปจากปราสาทหินเป็นหลักฐาน แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตไทยถึงกับงงและฮือฮา คือสภาพของ “ผ้านุ่ง” ที่เทวรูปเขมรใส่นั้นคล้าย “ผ้าเช็ดตัวพันเอว” มากกว่าจะเป็นจีบหน้านางแบบไทย และยิ่งไปกว่านั้น ภาพหลักฐานที่นำมาใช้ยังถูกจับผิดว่าเป็น “ภาพตัดต่อ” ของเทวรูปสององค์ที่ถูกนำมาต่อกันอย่างไม่แนบเนียน
ในโลกโซเชียล โดยเฉพาะในฝั่งไทย มีการตอบโต้ด้วยอารมณ์ขันและประชดประชัน เช่น
"ว่างมากเหรอประเทศนี้ ถึงกับนั่งต่อเทวรูปเล่น?"
"ถ้าผ้านุ่งยังดูไม่ออกว่านั่นผ้าเช็ดตัว ก็ควรพิจารณาสายตาตัวเองนะ"
"จีบหน้าหนาแบบไทย ต้องดูทบ ดูลาย ไม่ใช่แค่ผ้าพันเอวเฉย ๆ"
ไม่ใช่ครั้งแรกที่วัฒนธรรมไทยถูกอ้างเป็นของเขมร แต่ทุกครั้งก็จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กลับมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อมีการดัดแปลงภาพหรือข้อมูลจนบิดเบือนประวัติศาสตร์
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมต่างชี้ว่า การนุ่งผ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีวิวัฒนาการร่วมกัน แต่ “รายละเอียด” คือสิ่งที่ทำให้แต่ละชาติแตกต่างกัน และการเคลมแบบไร้หลักฐานชัดเจนก็ยิ่งสร้างความเสื่อมเสียมากกว่าความภาคภูมิใจ
บทเรียนจากเหตุการณ์นี้สะท้อนว่า การศึกษาประวัติศาสตร์ควรยึดหลักวิชาการ ไม่ใช่อคติและการตัดต่อเพื่อความสะใจ














