“นุ่น ดารัณ” เลิกแฟนเพื่อลูก แต่ลูกหนี! น้ำตาท่วมรายการ เล่าย้อนความเจ็บปวดในบ้าน
“นุ่น ดารัณ” เปิดหมดเปลือกเลิกแฟนเพื่อลูก สุดกลั้นน้ำตา บ้านเกือบพัง ลูกชายหนีออกจากบ้านเพราะกฎเหล็กแม่
จากบทบาทคุณแม่สุดสตรองสู่ความเปราะบางที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน “นุ่น ดารัณ” นักแสดงและคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี วันนี้เปิดใจแบบหมดเปลือกกลางรายการ คุยแซ่บShow ช่อง One31 พร้อมลูกๆ ทั้งสอง “ไม้ – นรภัท” ลูกชายสุดหล่อวัย 22 ปี และ “มุก – นปภัช” ลูกสาววัย 21 ปี ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์สะเทือนใจในครอบครัว ตั้งแต่เหตุการณ์บ้านแทบแตกเพราะความไม่เข้าใจกัน จนลูกชายตัดสินใจหนีออกจากบ้าน
ปิดฉากรักเงียบๆ เลือกลูกไว้ก่อน
จุดเริ่มต้นของบทเรียนสุดเจ็บนี้ เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต นุ่นประกาศเลิกกับแฟนหนุ่มที่เป็นทั้งคนรักและผู้จัดการส่วนตัว เธอบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะป่าวประกาศเรื่องส่วนตัว แต่เพียงแค่แจ้งให้ใครที่ติดต่องานทราบว่านับจากนี้ให้ติดต่อเธอโดยตรง เพราะสถานะทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา
สาเหตุหลักที่ทำให้เธอตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ ก็เพราะ “ลูก” — คำเดียวที่เป็นจุดยืนในใจของเธอมาตลอด
“ในหัวใจเรามีแต่ลูกสองคน… เราเลือกลูกมาตลอด ไม่ว่าครอบครัวจะผ่านปัญหาอะไร” นุ่นกล่าวทั้งน้ำตา
แต่สิ่งที่เธอเรียนรู้ในวันนี้ก็คือ การเลือกลูกไม่ควรยึดแค่ความรู้สึกของตัวเอง แต่ต้องฟังเสียงของลูกจริงๆ ด้วย
เมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน และความรักกลายเป็นกำแพง
ไม้เล่าถึงช่วงเวลาที่บ้านเริ่มไม่เหมือนเดิมว่า บรรยากาศเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่บ้านตลอดช่วงเรียนออนไลน์ เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากกฎระเบียบใหม่ที่ถูกบังคับใช้อย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องตื่นนอน ปิดแอร์ รดน้ำต้นไม้ หรือแม้แต่ห้ามนอนหลังจากกินข้าวเช้า
“ผมตื่นมารดน้ำต้นไม้ตอน 09.11 น. ก็โดนว่าแล้วครับ” — ไม้พูดพร้อมหัวเราะขื่นๆ
มุกเองก็ไม่ต่าง เธอมีหน้าที่กวาดใบไม้ และเล่าว่าบรรยากาศในบ้านช่วงนั้นอึดอัด ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับแม่ เพราะแม่เอาเวลาไปใช้กับแฟนเป็นหลัก
“เราไม่ค่อยอยากเข้าไปคุยกับแม่เลยตอนนั้น” มุกเล่า
แม้แม่จะหวังดีและตั้งใจสร้างวินัยให้ลูก แต่การกำหนดชีวิตแบบเป๊ะทุกนาที โดยไม่ถามความรู้สึกของลูก กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านไม่ใช่ “บ้าน” อีกต่อไป
ลูกๆ อึดอัด มีความพยายามสื่อสารมั้ย ปรับให้เข้ากับเขามั้ย?
ไม้ : พยายามต่อรอง แต่ไม่ค่อยได้เท่าไหร่
มุก : เราสองคนพยายามคุยกับเขา ส่วนใหญ่เป็นพี่ไม้มากกว่
กฎเหล็กทำลูกหายไป
เหตุการณ์ที่ทำให้ “ไม้” ตัดสินใจหนีออกจากบ้านคือการถูกตำหนิจากแม่เพียงเพราะลงมารดน้ำต้นไม้ช้าไปไม่กี่นาที
“แม่บอกว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไปอยู่ที่อื่น” เขาจึงเลือกเก็บของแล้วออกจากบ้านทันที
นุ่น สารภาพว่าในตอนนั้นเธอไม่ได้กลั่นกรองคำพูด และการสื่อสารที่ผิดพลาดเช่นนั้น ทำให้ความสัมพันธ์แม่ลูกถดถอยลงแบบไม่รู้ตัว
น้ำตาแม่ เมื่อลูกกลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
อีกเรื่องที่ทำให้หัวใจแม่แทบแตกสลาย คือน้องมุกตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะต้องการหาเงินเพิ่มใช้จ่าย เนื่องจากเงินที่แม่ให้ไม่เพียงพอกับค่าครองชีพในเมืองใหญ่ มุกจึงหลงเข้าไปลงทุนในแพลตฟอร์มหลอกลวง จนสูญเงินไปจำนวนหนึ่ง
“เราไม่เคยรู้เลยว่าบ้านไม่ได้เป็นเซฟโซนสำหรับเขา เราเจ็บมากที่ลูกไม่กล้ามาบอก เพราะเราอยู่กับคนนั้นตลอด” นุ่นพูดเสียงสั่น
เมื่อความหวังดี กลายเป็นดาบสองคม
นุ่นยอมรับว่าตลอดชีวิตของการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว พอมีใครเข้ามาช่วยดูแลก็เหมือนมีเสียงใหม่มาคอยบอกเธอว่า “ที่ผ่านมามันไม่ถูก” จนเธอเป๋และเชื่อว่าเสียงนั้นคือสิ่งถูกต้อง
แต่สิ่งที่เธอพลาดคือ “การไม่เคยถามลูก” ว่ารู้สึกยังไงกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
“เราคิดว่ามันดี เราอัพเลเวลกติกาเรื่อยๆ โดยไม่เคยถามลูกเลยว่ารู้สึกยังไง”
บทเรียนราคาแพง ที่ทำให้แม่คนนี้เปลี่ยนไป
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด นุ่นและลูกๆ ได้พูดคุยกัน เปิดใจกันมากขึ้น และพยายามกลับมาสื่อสารกันอย่างเข้าใจ แม้จะเจ็บ แต่เธอบอกว่าโชคดีที่ยังมีโอกาสแก้ไข
“มันเหมือนเราเคยเป่ามนต์ตัวเองให้เชื่อว่าทุกอย่างที่เราทำคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่เราลืมไปว่าลูกคือมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์”
จากคุณแม่ที่เคยคิดว่า “ความรัก” เพียงพอแล้วที่จะเลี้ยงลูก กลายเป็นคุณแม่ที่วันนี้รู้แล้วว่า “การฟังลูก” สำคัญไม่แพ้ความรักเลย
“บ้านที่อบอุ่น ไม่ใช่บ้านที่เป๊ะ แต่เป็นบ้านที่เข้าใจกัน” — บทเรียนจาก “นุ่น ดารัณ” ที่ไม่มีใครอยากพลาด.






















