นามปากกาแรกของ “ทมยันตี” คืออะไร? รวมทุกนามปากกาของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่คนไทยจดจำ
หากเอ่ยชื่อ “ทมยันตี” เชื่อว่าคอนวนิยายไทยจำนวนมากย่อมต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเธอคือนักเขียนระดับตำนานของประเทศ ผู้มีผลงานประดับแวดวงวรรณกรรมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายทศวรรษ ด้วยลีลาการเขียนที่วิจิตร ลุ่มลึก และกินใจอย่างหาใครเทียบได้ อย่างไรก็ดี หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า “ทมยันตี” นั้น เป็นเพียงหนึ่งในหลายนามปากกาที่เธอใช้ในการเขียนหนังสือ วันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนรอยผลงาน และสำรวจทุกนามปากกาของเธออย่างละเอียด เพื่อรำลึกถึงนักประพันธ์ผู้เป็นตำนานของแผ่นดินไทย
ประวัติย่อของ “ทมยันตี”
ชื่อจริงของ “ทมยันตี” คือ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ (สกุลเดิม บุณยะจินดา) เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2470 และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564 รวมอายุได้ 91 ปี ตลอดชีวิต เธอทุ่มเทให้กับงานเขียนอย่างจริงจัง เป็นนักเขียนที่มีวินัยสูง และผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยังสาวจนถึงวัยชรา
นามปากกาแรกของ “ทมยันตี”
นามปากกาแรกที่คุณหญิงวิมลใช้คือ “โรสลาเรน” โดยเริ่มต้นจากการเขียนนวนิยายแนวรักชาติและทหาร เช่นเรื่อง “แด่…ที่รัก” และ “เสียงปืนของพ่อ” ผลงานภายใต้นามปากกานี้มักจะกล่าวถึงเรื่องของหน้าที่ ความเสียสละ และคุณค่าของการเป็นทหารไทยอย่างลึกซึ้ง ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในจิตใจผู้อ่านเสมอ
นามปากกาทั้งหมดที่เคยใช้
1. ทมยันตี
แนว: ดราม่าเข้มข้น สะท้อนสังคม เชิงจิตวิทยา และการเมือง
ผลงานเด่น: คู่กรรม, ดั่งดวงหฤทัย, ฆาตกร, รอยอินทร์
ถือเป็นนามปากกาหลักที่คนไทยรู้จักและจดจำได้ดีที่สุด
2. ลักษณวดี
แนว: โรแมนติกหรูหรา รักในชนชั้นสูง วรรณศิลป์ละเมียดละไม
ผลงานเด่น: ฟ้าจรดทราย, ศศิธร, เกล็ดแก้ว
3. โรสลาเรน
แนว: รักโรแมนติกในฉากสงคราม, แนวสายลับทหาร ตะวันออกกลาง
ผลงานเด่น: ทวิภพ, เงาราหู, น้ำตะวัน
4. กนกเรขา
แนว: ตลกเบาสมอง แนวชีวิตประจำวัน มีอารมณ์ขัน
ผลงานเด่น: มะเมียะ, บุหงาแดนใต้
5. มายาวดี
แนว: เรื่องสั้นและงานทดลองวรรณกรรมแนวแปลกใหม่
ผลงานเด่น: เรื่องสั้นตีพิมพ์ในนิตยสารต่าง ๆ
6. วิม-ลา
แนว: ผลงานบางส่วนที่เป็นงานทดลอง หรือเนื้อหากึ่งชีวประวัติ
ผลงานเด่น: ปรากฏน้อยแต่ยังมีความสำคัญในฐานะหนึ่งในนามปากกาย่อย
เหตุผลที่ใช้นามปากกาหลายชื่อ
เพื่อให้ผู้อ่านสามารถแยกแยะ “อารมณ์และรูปแบบของงาน” ได้ชัดเจน เพราะแต่ละนามปากกาสะท้อนแนวคิดและจุดประสงค์ของเรื่องที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการเหมารวม หรือความคาดหวังของผู้อ่านที่อาจมีต่อผลงานบางประเภท
สรุป
นามปากกาของทมยันตีมิใช่เพียง “ชื่อเรียก” หากแต่เป็นการ “สื่อสารความรู้สึกในรูปแบบที่ต่างกัน” ของผู้ประพันธ์ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างสรรค์วรรณกรรมที่หลากหลาย แต่ยังเป็นการเปิดประตูให้ผู้อ่านได้เข้าถึงแง่มุมของชีวิตในหลายรูปแบบ
นามปากกาที่จารึกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมไทย ไม่เพียงแต่มีหนึ่ง แต่มีถึงหก และทุกชื่อล้วนมีคุณค่าในแบบของตนเอง
หากท่านมีผลงานเล่มโปรดภายใต้ชื่อนามปากกาใด ลองย้อนกลับไปเปิดอ่านอีกครั้ง แล้วจะเห็นถึงพลังแห่ง “ทมยันตี” ที่ซ่อนอยู่ในทุกตัวอักษร

















