"หน้าฝน...คนเมืองคิดอะไรอยู่?"
ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน บางวันก็ตกตั้งแต่เช้ายันค่ำ รถติดตั้งแต่หน้าปากซอยไปยันสะพานควาย คนในเมืองอย่างเราก็คงต้องปรับตัวตามฤดูกาล ปีแล้วปีเล่า ฝนตกเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกเรากลับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
เมื่อก่อนตอนยังวัยรุ่น หน้าฝนคือโรแมนติก มีฝนปรอยก็เปิดเพลงเศร้า มีฝนตกหนักก็แอบส่งข้อความหาใครสักคน บอกว่า "ฝนตกแล้ว คิดถึงนะ" ทั้งที่บางทีเราก็ไม่ได้คิดถึงใครจริง ๆ แค่อยากมีอะไรผูกกับฝนเท่านั้นเอง
แต่พอโตมา กลับกลายเป็นว่า... ฝนคือตัวแปรสำคัญในการวางแผนชีวิตในแต่ละวัน จะออกจากบ้านต้องเช็กแอปพยากรณ์อากาศก่อนทุกครั้ง พกร่มไว้เหมือนพกบัตรประชาชน ฝนตกทีไร ขึ้นรถเมล์ไม่ได้ รถไฟฟ้าก็แน่นขนัด จะนัดเจอเพื่อนก็ต้องมีแผนสำรองเผื่อรถติดอย่างน้อยชั่วโมงหนึ่ง
แต่ก็แปลกนะ...ทั้งที่ดูเหมือนฝนจะสร้างความลำบากให้เรา แต่ในความวุ่นวายนั้น มันก็มีความสงบแบบหนึ่งซ่อนอยู่
วันไหนที่ฝนตกตอนเย็น ๆ ได้กลับบ้านเร็ว ไม่ต้องแวะไหน เปิดหน้าต่างนิด ๆ ให้ลมเย็นพัดเข้ามา ฟังเสียงฝนกระทบหลังคา มันก็ทำให้เราหยุดคิดเรื่องโลกภายนอกชั่วคราว เหมือนฝนช่วยปิดสวิตช์โลกภายนอก แล้วเปิดโหมด "อยู่กับตัวเอง"
บางคนใช้ฝนเป็นข้ออ้างในการหยุดวิ่งไล่ตามอะไรบางอย่าง
บางคนใช้ฝนเป็นเวลาพักใจ
บางคนอาจจะยังมีเรื่องค้างคาในความทรงจำที่ผูกไว้กับสายฝน
สุดท้าย ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะอารมณ์ไหนในหน้าฝนนี้ อย่างน้อย… มันก็เตือนให้เรารู้ว่า ถึงจะเป็นคนเมืองที่ชีวิตรีบเร่งแค่ไหน บางทีธรรมชาติก็ยังมีอำนาจพอจะทำให้เราช้าลงบ้าง ไม่มากก็น้อย
แล้วคุณล่ะ...หน้าฝนปีนี้คิดถึงอะไรกันบ้าง?
#หน้าฝน #คนเมือง #ชีวิตในเมือง #เสียงฝนกับความคิดถึง #ฝนตกในใจ #ฝนนี้มีความหมาย #เรื่องเล่าในเมืองใหญ่














