เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับต้นไผ่
ต้นไผ่เป็นพืชในตระกูลหญ้า แต่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงกว่าหญ้าทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ลำต้นของไผ่เรียกกันทั่วไปว่า “ลำไผ่” มีลักษณะเป็นทรงกระบอกตรง สูงชะลูดและกลวงภายใน ผิวลำต้นเรียบและเป็นปล้องๆ โดยมีข้อแบ่งช่วงอย่างสม่ำเสมอ ลำต้นอ่อนมักมีสีเขียวสด เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มหรืออมเหลืองตามสายพันธุ์ ไผ่บางชนิดสามารถเติบโตได้สูงถึง 30 เมตร มีความยืดหยุ่นสูง แต่ก็แข็งแรงพอจะใช้ทำวัสดุก่อสร้างหรือเครื่องเรือนได้
ใบของต้นไผ่มีลักษณะเรียวยาว ปลายแหลม สีเขียวเข้ม ผิวใบเรียบและบาง ใบขึ้นตามปลายกิ่งและแตกออกเป็นพุ่มไม่หนามาก เมื่อแก่หรือหมดอายุขัย ใบจะหลุดร่วงลงพื้นและค่อยๆ ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์คืนสู่ดินโดยธรรมชาติ ช่วยให้ต้นไผ่เติบโตได้โดยไม่ต้องพึ่งปุ๋ยจากภายนอก
รากของไผ่เป็นระบบรากฝอยที่แตกออกจากเหง้าใต้ดิน เหง้านี้มีลักษณะคล้ายไหลที่สามารถแผ่กระจายไปในแนวนอน และสามารถแทงหน่อใหม่ขึ้นมาสู่ผิวดินได้ หน่อไผ่ที่โผล่ขึ้นมาจากดินจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยภายในเวลาไม่กี่เดือน หน่อหนึ่งสามารถกลายเป็นลำไผ่ที่สูงและสมบูรณ์ได้อย่างน่าทึ่ง หน่อเหล่านี้ยังสามารถนำมาใช้บริโภคได้ โดยเฉพาะหน่ออ่อนที่ยังไม่แข็งจัด เป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางอาหารและรสชาติอร่อย
แม้จะดูเหมือนเป็นพืชที่ไม่ค่อยออกดอก แต่แท้จริงแล้วไผ่ก็มีวงจรการออกดอกที่เป็นเอกลักษณ์ โดยส่วนใหญ่จะออกดอกเพียงครั้งเดียวในช่วงอายุขัย และบางสายพันธุ์อาจออกดอกเพียงครั้งเดียวในรอบหลายสิบปีหรือเป็นร้อยปี เมื่อออกดอกเสร็จ ไผ่บางชนิดจะค่อยๆ ตายลง ถือเป็นการสิ้นสุดวงจรชีวิตและเปิดโอกาสให้ไผ่รุ่นใหม่เติบโตแทนที่
ต้นไผ่จึงไม่ใช่เพียงพืชที่เติบโตเร็ว แต่ยังเป็นหนึ่งในพืชที่มีบทบาทสำคัญทั้งทางนิเวศวิทยาและวัฒนธรรมของมนุษย์มาอย่างยาวนาน จากรากฐานที่หยั่งลึกสู่ดินจนถึงลำต้นที่ชูสูงสู่ท้องฟ้า ไผ่เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนแต่มั่นคง เป็นธรรมชาติที่เปี่ยมด้วยพลังและความยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน
1. เจริญเติบโตเร็วที่สุดในโลก
ไผ่ถือเป็นพืชที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมีการบันทึกว่าไผ่บางชนิดสามารถยืดตัวได้ถึง 121 เซนติเมตรภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง หรือกว่า 1 เมตรต่อวันในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หน่อไผ่ใหม่จะเติบโตจนถึงความสูงเต็มที่ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
2. ปล่อยออกซิเจนมากกว่าต้นไม้อื่น
ป่าไผ่สามารถปล่อยออกซิเจนได้มากกว่าต้นไม้ชนิดอื่นถึง 35% ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศและส่งเสริมระบบนิเวศโดยรวม
3. ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีเยี่ยม
ไผ่สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 17 ตันต่อเฮกตาร์ในแต่ละปี ด้วยความสามารถในการเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงนับว่าเป็นพืชที่มีศักยภาพสูงในการช่วยลดภาวะโลกร้อน
4. ไม่ต้องใช้ปุ๋ย
ไผ่สามารถเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี เพราะมันมีความสามารถในการสร้างปุ๋ยธรรมชาติให้ตัวเอง โดยการทิ้งใบลงบนดินเพื่อย่อยสลายและนำกลับมาใช้เป็นสารอาหารสำหรับการเจริญเติบโตต่อไป












