มาดูกันขนมตดหมา ขนมชื่อแปลกๆ แต่มีรสชาติดี แถมมีประโยชน์มากๆด้วยน๊า....
ท่ามกลางแดดอ่อนในยามสาย เมื่อสายลมพลิ้วผ่านท้องไร่ท้องนาแห่งบุรีรัมย์และศรีสะเกษ กลิ่นหอมบางอย่างที่แทรกตัวมากับลมนั้น ไม่ใช่กลิ่นของข้าวสุกหรือดอกไม้ป่า หากแต่เป็นกลิ่นของขนมพื้นบ้านที่น้อยคนนักจะลืมได้ — "ขนมตดหมา" หรือที่ชาวบ้านในถิ่นอีสานบางพื้นที่เรียกด้วยความรักใคร่ว่า "นุมเวือรพอม"
แม้เพียงเอ่ยชื่อก็อาจทำให้หลายคนย่นจมูกด้วยความสงสัย แต่แท้จริงแล้ว เบื้องหลังชื่อแปลกประหลาดนี้ คือเรื่องราวของภูมิปัญญาชาวบ้านที่รู้จักเปลี่ยนสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นของวิเศษ รากของต้นตดหมา — ไม้เถาเลื้อยกลิ่นฉุนรุนแรง — เมื่อถูกนำมาตากแห้ง ต้มจนได้น้ำสีนวลอุ่น แล้วแปรเปลี่ยนเป็นขนมหอมหวาน ก็เสมือนการร่ายเวทมนตร์ที่ปลุกชีวิตใหม่ให้กับวัตถุดิบพื้นบ้านที่ถูกมองข้าม
น้ำรากตดหมาที่ได้ ถูกคลุกเคล้ากับแป้งข้าวเหนียวเหนียวนุ่ม น้ำตาลหวานกรุ่น และเนื้อมะพร้าวขูดละเอียด บางสูตรก็แต่งเติมกลิ่นนวลละมุนด้วยกะทิสดและเกลือเม็ดเล็กๆ เพื่อขับรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น เมื่อทุกอย่างถูกนวดจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ก็จะนำไปห่อด้วยใบตองที่ล้างสะอาด ตักส่วนผสมวางลง แล้วม้วนเป็นแท่งยาวคล้ายขนมจาก จากนั้นจึงย่างไฟอ่อนๆ บนเตาถ่านจนแป้งสุก มีกลิ่นหอมชวนใจอ่อน
นอกเหนือจากรสชาติที่หอมหวานนุ่มละมุน ขนมตดหมายังซ่อนคุณค่าสมุนไพรไว้อย่างลึกซึ้ง — น้ำรากตดหมาซึ่งเป็นหัวใจของขนมนี้ มีสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ระบายความร้อนในร่างกาย และมีการบันทึกสรรพคุณไว้ว่าอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคดีซ่านและเบาหวานได้ด้วย
และด้วยรสชาติที่ไม่ซ้ำใคร เรื่องราวที่หยั่งรากลึกในวัฒนธรรมท้องถิ่น และภูมิปัญญาที่รู้จักใช้ทุกสิ่งจากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขนมตดหมาจึงเป็นมากกว่าขนมพื้นบ้านธรรมดา หากแต่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการมองโลกด้วยใจเปิดกว้าง เห็นคุณค่าในสิ่งที่คนอื่นอาจมองข้าม และแปรเปลี่ยนสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นของล้ำค่าอย่างน่าอัศจรรย์
คราวหน้า หากคุณได้ยินชื่อ "ขนมตดหมา" อีก อย่าเพิ่งรีบเบือนหน้าหนี เพราะในกลิ่นฉุนที่แอบแฝงอยู่ในความทรงจำนั้น มีรสชาติของภูมิปัญญาและความหอมหวานของบ้านเกิดซ่อนอยู่...อย่างแนบเนียน

















