Sculptra สารกระตุ้นคอลลาเจน PLLA คืออะไร? เหมาะกับใคร?
Sculptra สารกระตุ้นคอลลาเจน PLLA คืออะไร? เหมาะกับใคร?
ช่วงนี้เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มได้ยินชื่อ “Sculptra” ผ่านหูผ่านตามาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะเป็นหนึ่งในหัตถการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มาแรงสุด ๆ แห่งยุค! ด้วยคุณสมบัติเด่นในการฟื้นฟูสภาพผิวที่ร่วงโรยตามวัย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย หรือใบหน้าที่ขาดความกระชับ Sculptra สามารถช่วยให้ผิวค่อย ๆ ฟูแน่น ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วันนี้ รมย์รวินท์คลินิก จึงขอพาทุกท่านไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Sculptra แบบครบเครื่องกันค่ะ
Sculptra คืออะไร?
Sculptra คือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ที่มีส่วนประกอบหลักคือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับ เรียบเนียน และแข็งแรงขึ้นจากภายใน โดยไม่มีสารตกค้าง และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ผลิตโดยบริษัท Galderma Laboratories, L.P. และเป็น Biostimulator ตัวแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจาก อย. อีกด้วย
หลักการทำงานของ Sculptra
Sculptra ทำงานโดยใช้สาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ต้องผสมกับ Sterile Water ก่อนฉีด เพื่อให้ได้เนื้อยาที่เหมาะสมสำหรับการฉีดเข้าสู่ชั้นใต้ผิว เมื่อเข้าสู่ร่างกาย PLLA จะกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวจึงค่อย ๆ กระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้นในระยะยาว
คอลลาเจนสำคัญอย่างไร?
คอลลาเจนคือโปรตีนเส้นใยที่พบมากถึง 35-40% ของเนื้อเยื่อในร่างกาย โดยเฉพาะในผิวหนัง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแรง ยืดหยุ่น และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน โดยเฉพาะ Collagen Type 1 และ Type 3 ที่เกี่ยวข้องกับความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนจะลดลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
Sculptra ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?
Sculptra สามารถฉีดกระตุ้นคอลลาเจนได้หลายตำแหน่ง เช่น ขมับ แก้มตอบ หน้าแก้ม ใต้โหนกแก้ม กรอบหน้า และคาง เพื่อฟื้นฟูผิวให้ดูอิ่มฟูและกระชับยิ่งขึ้น
Sculptra ต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร?
- Sculptra
การฉีด Sculptra คือ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ช่วยเติมเต็มผิวให้เรียบเนียนแน่นกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่เป็นก้อน และกระตุ้น Collagen Type 1 อย่างต่อเนื่อง
- ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวดูอิ่มฟูทันที นิยมฉีดใต้ตา ปาก คาง อยู่ได้นาน 6–18 เดือน โดยไม่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต่างจาก Sculptra ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปี
- HIFU
Hifu (High Intensity Focused Ultrasound) ใช้คลื่นเสียงพลังงานสูงยิงลงชั้นผิว SMAS เพื่อยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจน เหมาะกับผิวหย่อนคล้อย ผลลัพธ์อยู่ได้ 4–6 เดือน ต้องทำซ้ำ ต่างจาก Sculptra ที่ฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนโดยตรงและอยู่ได้นานถึง 2 ปี.
- ฉีดโบ
ฉีดโบ ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว เพื่อลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียว และยกกระชับกรอบหน้า ต่างจาก Sculptra ที่เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วนฉีดโบเพียงยับยั้งการขยับของกล้ามเนื้อเพื่อลดรอยพับบนผิว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawinclinic.com/lifting/sculptra
Sculptra เหมาะกับใคร?
- ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- มีริ้วรอยเห็นชัด
- อายุ 25 ปีขึ้นไป
- ต้องการยกกระชับผิวหน้า
- มองหาผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน
Sculptra ไม่เหมาะกับใคร?
- ผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
- กำลังใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
- เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (เช่น SLE)
- แพ้ส่วนประกอบของ Sculptra
Sculptra ก่อนฉีดเตรียมตัวอย่างไร?
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Sculptra อย่างละเอียด
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์
- งดยา/อาหารเสริมที่กระทบการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
Sculptra มีขั้นตอนการฉีดอย่างไร?
- แพทย์ประเมินสภาพผิวและกำหนดปริมาณยา
- ทายาชาบริเวณที่จะฉีด (ประมาณ 30-40 นาที)
- ฉีด Sculptra เข้าสู่ชั้นใต้ผิว
- นวดบริเวณที่ฉีดเพื่อกระจายตัวยา
- แพทย์ให้คำแนะนำในการดูแลหลังฉีด
Sculptra หลังฉีดดูแลตัวเองอย่างไร?
- วันแรก: งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความร้อนหรือโดนแดด
- 2–4 สัปดาห์แรก: งดทำหัตถการใบหน้าอื่น ๆ
- นวดหน้า: นวดทันทีหลังฉีดตามคำแนะนำแพทย์ โดยเน้นแนวกล้ามเนื้อและบริเวณที่ฉีด
Sculptra ให้ผลลัพธ์อะไรบ้าง?
- ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ผิวเรียบเนียน
- โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น
- กระตุ้น Collagen Type 1 เพิ่มขึ้นถึง 66.5%
ผลลัพธ์อยู่ได้นานเมื่อฉีดตามคำแนะนำแพทย์
Sculptra มีข้อดี - ข้อจำกัดอย่างไร?
ข้อดีของ Sculptra
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
- กระตุ้น Collagen Type 1 ได้มากถึง 66.5%
- ผิวกระชับ ยืดหยุ่นขึ้น
- ริ้วรอยจางลง ผิวดูอ่อนเยาว์
- ผิวดูกระจ่างใส
ข้อจำกัดของ Sculptra
- อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือคลำเจอก้อนเล็ก ๆ หลังฉีด (หายได้เอง)
- ราคาค่อนข้างสูง
Sculptra อันตรายไหม?
การฉีด Sculptra นั้นไม่อันตราย เนื่องจากเป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้ในวงการแพทย์ตั้งแต่ปี 1999 และได้รับการรับรองจาก FDA มีงานวิจัยรองรับถึงประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดี หลังจากฉีด Sculptra สารนี้จะสลายออกจากร่างกายตามธรรมชาติ โดยไม่มีอันตรายใด ๆ หากได้รับการฉีดอย่างถูกต้องและมีการดูแลอย่างเหมาะสม ความปลอดภัยจะสูงยิ่งขึ้น เมื่อเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญในการรักษา เพราะแพทย์จะเข้าใจปัญหาผิวของแต่ละคนและสามารถให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมได้
Sculptra ฉีดที่ไหนดี?
การเลือกสถานที่ฉีด Sculptra ควรพิจารณาดังนี้:
- เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง
- คลินิกต้องสะอาด ได้มาตรฐานและสะดวก
- ควรฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ Sculptra ของแท้ ตรวจสอบจากกล่องที่สมบูรณ์และเลขทะเบียน อย.
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ที่เคยใช้บริการ
- ราคาและโปรโมชั่นสมเหตุสมผล
- มีการติดตามผลหลังการฉีด
ฉีด Sculptra ใช่กี่ CC?
การฉีด Sculptra เริ่มต้นที่ 1 ขวด หรือ 10 ซีซี โดยแพทย์จะประเมินและฉีดในปริมาณที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคน โดยทั่วไปจะนัดฉีดครั้งถัดไปในระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ และจำนวนครั้งที่ฉีดมักอยู่ที่ 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
ฉีด Sculptra กับ การรับประทานคอลลาเจน ต่างกันอย่างไร?
การรับประทานคอลลาเจนจะถูกดูดซึมได้เพียงครึ่งหนึ่งและใช้เวลานานถึง 3 เดือนเพื่อเห็นผลชัดเจน แต่การฉีด Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยตรงในบริเวณที่มีปัญหา เช่น ผิวหย่อนคล้อยและมีริ้วรอย ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเร็วกว่า
สรุป
Sculptra เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สามารถอยู่ได้นานและช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว เมื่อสลายออกไปแล้ว. ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์ Sculptra ของแท้ เพื่อไม่เสี่ยงอันตราย

















