Lake Natron Tanzania: ทะเลสาบสีเลือด แหล่งสวรรค์ของฟลามิงโก
Lake Natron ไม่ได้เป็นแค่ทะเลสาบธรรมดาๆ แต่มันคือทะเลสาบที่พร้อมจะเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นหิน (ถ้าคุณกล้าพอจะลงไปแช่) ด้วยความเป็นด่างที่สูงปรี๊ดราวกับน้ำยาล้างห้องน้ำผสมโซดาไฟ มันคือดินแดนสุดขั้วที่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ต้องยอมแพ้ แต่กลับเป็นสวรรค์ของนกฟลามิงโกน้อยผู้รักความท้าทาย (หรืออาจจะแค่ไม่มีที่ไป)
Lake Natron: ทะเลสาบที่ใครๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้ (ยกเว้นฟลามิงโก)
ทำไม Lake Natron ถึงมีสีแดงเลือด
Alkaline Overload
สีแดงฉานของ Lake Natron ไม่ได้มาจากเลือด (ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอศพใครลอยตุ๊บป่อง) แต่มันมาจากแบคทีเรีย Halophile ที่รักใคร่ชอบพอกับความเป็นด่างสูงปรี๊ด เมื่อน้ำในทะเลสาบระเหย (ซึ่งก็เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะอากาศมันร้อนนรกแตก) ความเข้มข้นของแบคทีเรียเหล่านี้ก็จะยิ่งสูงขึ้น ทำให้สีแดงมันเด่นชัดบาดใจยิ่งกว่าลิปสติกเบอร์ล่าสุดของแม่ชม
Natron: ตัวการสำคัญ
ชื่อทะเลสาบก็บอกอยู่แล้วว่า "Natron" ซึ่งก็คือแร่โซเดียมคาร์บอเนตเดคาไฮเดรต ที่มาจากเถ้าภูเขาไฟ Ol Doinyo Lengai (ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวมาไซ) แร่ธาตุตัวนี้แหละที่ทำให้ความเป็นด่างของน้ำสูงถึง pH 9-10.5 สูงจนขนาดที่ว่าถ้าคุณเอาตัวลงไปแช่ อาจจะได้ผิวสวยใสแบบ "กัดสี" ไปทั้งตัว
ฟลามิงโก: ผู้พิชิต Lake Natron
ทำไมฟลามิงโกถึงอยู่รอดได้ในทะเลสาบสุดโหด
หนังเท้าสุดแกร่ง
ฟลามิงโกไม่ได้มีเวทมนตร์อะไรหรอกค่ะคุณ แต่พวกมันมีหนังเท้าที่หนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ ทำให้พวกมันสามารถเดินลุยน้ำด่างจัดๆ ได้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรมากนัก (หรืออาจจะรู้สึก แต่พวกมันก็แค่ไม่บอก)
ระบบกรองสุดล้ำ
นอกจากหนังเท้าแล้ว ฟลามิงโกยังมีระบบกรองอาหารที่สามารถกรองเอาแบคทีเรียและสาหร่ายจากน้ำในทะเลสาบได้ ซึ่งก็เป็นอาหารหลักของพวกมันนั่นแหละ เรียกได้ว่ากินฟรีแถมได้ผิวสวย (จากแร่ธาตุต่างๆ ในน้ำ) ไปด้วย
แหล่งเพาะพันธุ์ที่ปลอดภัย
ถึง Lake Natron จะดูโหดร้าย แต่สำหรับฟลามิงโกแล้ว มันคือสวรรค์ เพราะความเค็มและความเป็นด่างสูง ทำให้ผู้ล่าส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้ามาใกล้ นั่นหมายความว่าฟลามิงโกสามารถวางไข่และเลี้ยงลูกได้อย่างสบายใจ (ถึงแม้ว่าลูกๆ อาจจะต้องมีสภาพผิวเหมือนผ่านการทำเคมีมาแล้วก็ตาม)
Lake Natron: มากกว่าแค่ทะเลสาบ
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ความท้าทายและโอกาส
ถึง Lake Natron จะดึงดูดนักท่องเที่ยวสายผจญภัยที่อยากเห็นความงามอันแปลกประหลาดของทะเลสาบสีเลือด แต่การท่องเที่ยวก็ต้องมาพร้อมกับการอนุรักษ์ เพราะระบบนิเวศที่นี่เปราะบางมาก การพัฒนาที่ขาดความรับผิดชอบอาจทำลายแหล่งเพาะพันธุ์สำคัญของฟลามิงโกไปตลอดกาล
เรียนรู้จากชาวมาไซ
ชาวมาไซที่อาศัยอยู่รอบๆ Lake Natron มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติและระบบนิเวศของที่นี่เป็นอย่างดี การทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์
















