นอนหลับมากเกินไป อาจเสี่ยงเป็นซึมเศร้า !
การนอนมากเกินไป (hypersomnia) เป็นสิ่งที่ผิดปกติ เกิดขึ้นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ภาวะนี้จะมีลักษณะที่ต้องการนอนเพิ่มขึ้นทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน มีภาวะตื่นยากมากจากการนอน เมื่อตื่นนอนจะรู้สึกว่าต้องการนอนต่อไปอีก แม้จะหลับมาอย่างมากเพียงพอแล้ว หลังตื่นขึ้นมาอาจงัวเงีย ไม่สดชื่น บางครั้งอาจจะรู้สึกสมาธิ ความจำแย่ลง รู้สึกอ่อนเพลียทั้งวัน ไม่ค่อยมีแรงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ บางคนอาจหงุดหงิดง่าย ทำให้มีปัญหาทะเลาะกับบุคคลอื่นเป็นประจำ ในระหว่างวันมีความต้องการที่จะนอนหลับหลายครั้ง บางรายอาจเกิดขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ขับรถ ใช้เครื่องจักรที่อาจเกิดอันตราย ขณะคุยกัน ระหว่างกินอาหาร
การนอนมากเกินไปสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าอย่างไร ?
ปัญหาการนอนเป็นส่วนหนึ่งของภาวะซึมเศร้าเพราะ อาจทำให้มีการนอนมากเกินไป หรือ นอนไม่พอ เมื่อมีภาวะซึมเศร้า จะทำให้มีความรู้สึกเศร้า สิ้นหวัง ไร้ค่า ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถรับผิดชอบหน้าที่ได้ตามปกติ การนอนมาก ๆ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน โดยเฉพาะ “เคมีอารมณ์ สารความสุข” จำพวก “เซโรโทนิน (Serotonin)” และ “เอนดอร์ฟิน (Endorphin)” ลดต่ำลง
ผลกระทบจากการนอนหลับมากเกินไป
1.สมองเฉื่อยชา สมองล้า กลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวา
2.ประสิทธิภาพการทำงานของกระดูก กล้ามเนื้อ และ ข้อลดลง หากไม่มีการเคลื่อนไหวนาน ๆ อาจมีผลทำให้กระดูก หรือ กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง มีปัญหาข้อต่าง ๆ เคลื่อนไหวได้ยากตามมา
3.น้ำหนักตัวเกิน / น้ำหนักตัวมากกว่าเดิม เนื่องจากระบบการเผาผลาญไขมันลดลง มีการสะสมไขมันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง
4.ไม่สามารถรับผิดชอบหน้าที่ต่าง ๆ ของตนเอง อาจถูกตำหนิต่อว่าจากคนรอบข้าง เกิดความรู้สึกขาดคุณค่าและเกิดเป็นภาวะซึมเศร้าได้
วิธีแก้ไขอาการนอนมากเกินไป
1.เข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม ปกติร่างกายจะนอนหลับเป็นรอบ ถ้าเริ่มตั้งแต่เคลิ้ม ๆ สะลึมสะลือจนถึงขั้นหลับลึก จะกินเวลารอบละ 90 นาที คืนละ 5-6 รอบ ยิ่งนอนหัวค่ำก็จะทำให้มีโอกาสนอนได้หลับลึกมากขึ้น
2.กำหนดตารางเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวันเป็นประจำสม่ำเสมอ ติดต่อกัน 28 วัน ร่างกายจะสร้างระบบนาฬิกาชีวิตของตัวเราเองขึ้นมาใหม่ จะตื่นได้เองอย่างสดชื่น
3.จัดห้องนอนให้โปร่งโล่ง อากาศระบายได้ดี ร่างกายที่ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจะทำให้สมองเซื่องซึม และ ง่วงนอนตลอดเวลา
4.ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงก่อนเวลาเข้านอน
5.นั่งสมาธิหรือกิจกรรมเบา ๆ เพื่อผ่อนคลายก่อนเข้านอน สร้างออกซิเจนในเลือดให้มากขึ้น และยังช่วยทำให้ร่างกายแอ็คทีฟ
6.กินอาหารเป็นเวลาสม่ำเสมอ ก่อนเข้านอน 4 ชั่วโมงควรงดอาหารหนัก ๆ หลีกเลี่ยงการกินจนแน่นก่อนเวลาเข้านอน
7.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน สูบบุหรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนช่วงเวลาเข้านอน
การนอนหลับอย่างมีสุขและสุขภาพดี ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการนอน และ ระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต แม้อาการนอนมากเกินไปจะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ก็สามารถรับมือหรือป้องกันไม่ให้มีอาการที่รุนแรง จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า หรือ โรคทางจิตเวชอื่น ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้


















