5 วิธีปลุกตัวเองให้ตื่น! เมื่อจำเป็นต้องขับรถทางไกล”
การขับรถขณะง่วงอาจดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของชีวิตสำหรับหลายคนที่ต้องเดินทางไปทำงานหรือขับรถเป็นอาชีพ ซึ่งอาการง่วงเล็กน้อยนั้นอาจจัดการได้ด้วยเทคนิคบางอย่างในการขับรถ
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ การขับรถขณะง่วงสามารถอันตรายได้พอๆ กับการขับรถขณะมึนเมาหรืออยู่ภายใต้อิทธิพลของยาเสพติด
อ่านต่อเพื่อเรียนรู้วิธีรับมือกับความง่วงและรักษาความตื่นตัวขณะขับรถ รวมถึงสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าคุณควรจอดรถทันที และทางเลือกอื่นๆ ในการเดินทางหากคุณพบว่าตัวเองเหนื่อยล้าจนไม่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย
1)ขับรถไปกับเพื่อนร่วมทาง
บางครั้งคุณอาจแค่ต้องการงีบหลับสั้นๆ เพื่อให้มีแรงขับต่อไปได้
ลองขับรถไปกับเพื่อน โดยเฉพาะถ้าคุณต้องเดินทางไกลหรือต้องไปทริป เพราะจะได้ผลัดกันขับเมื่อคนใดคนหนึ่งเริ่มง่วง
นี่เป็นกลยุทธ์ที่คนขับรถระยะไกลใช้กันบ่อย โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถบรรทุกข้ามประเทศเป็นเวลา 12 ถึง 15 ชั่วโมงในแต่ละวัน
และนี่ก็เป็นวิธีที่ดีหากคุณอาศัยอยู่ใกล้คนที่ทำงานเดียวกัน หรือมีเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่ต้องขับรถไปในเส้นทางเดียวกับคุณ
2.)เปิดเพลงโปรด
เพลงที่คุณชอบสามารถช่วยให้คุณมีสมาธิและตื่นตัวได้
ลองเปิดเพลงที่คุณร้องตามได้ เพื่อกระตุ้นสมองให้ทำงาน หรือเลือกเพลงที่มีจังหวะสนุก ๆ เพื่อปลุกพลังและทำให้ตัวเองตื่น
ไม่ว่าจะเป็นเพลงคลาสสิก เพลงลูกทุ่ง ฟังก์ โฟล์ก มาคีนา หรือเมทัล ดนตรีมีความเชื่อมโยงกับความตื่นตัวทางจิตใจ ซึ่งช่วยให้คุณมีสมาธิและขับรถได้อย่างปลอดภัย
3)งีบหลับล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
ไม่มีอะไรทดแทนการพักผ่อนที่ดีได้ — แม้จะเป็นเพียงไม่กี่ชั่วโมง (หรือไม่กี่นาที) ก็ตาม!
สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ พยายามนอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้คุณรู้สึกสดชื่นทั้งก่อนและระหว่างการขับรถตลอดทั้งวัน
แต่หากทำไม่ได้จริงๆ ให้งีบหลับอย่างน้อย 15 ถึง 30 นาทีก่อนต้องขับรถ จากผลการศึกษาในปี 2012 พบว่า แม้การงีบสั้นๆ ก็สามารถช่วยให้คุณเข้าสู่ช่วงหลับลึก (slow-wave sleep) และช่วงหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว (REM sleep) ซึ่งจำเป็นต่อการรู้สึกสดชื่นและตื่นตัว
สมาคมการนอนหลับแห่งชาติ (National Sleep Association) ยังแนะนำว่า การงีบก่อนขับรถสามารถช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้นระหว่างการเดินทางได้มาก
4.)ดื่มคาเฟอีนสักหน่อย
คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นที่ถูกกฎหมายและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มันสามารถช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ง่วงในระหว่างวันได้ แล้วทำไมจะลองใช้ตอนขับรถไม่ได้ล่ะ?
จากการศึกษาในปี 2012 พบว่า แค่กาแฟหนึ่งถ้วยก็สามารถช่วยลดผลกระทบจากการอดนอนได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณง่วงขณะขับรถ
อีกทั้งการศึกษาในปี 2013 ยังพบว่า คาเฟอีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับรถทางไกลได้อีกด้วย
5)การกินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
รสเปรี้ยวจากผลไม้ เช่น มะนาว ส้ม สับปะรด หรือเสาวรส จะกระตุ้นต่อมรับรสในปาก ส่งผลให้ร่างกายตื่นตัวขึ้นชั่วขณะ แต่อย่างไรก็ตาม การกินผลไม้เปรี้ยวเป็นเพียงการแก้ง่วงชั่วคราว ไม่ควรใช้แทนการพักผ่อน ถ้าง่วงมากควรจอดรถพัก หรืองีบสั้น ๆ ประมาณ 15-20 นาทีจะดีกว่า
(อันตรายจากการขับรถขณะง่วง)
การขับรถขณะง่วงสามารถอันตรายได้พอ ๆ กับการขับรถขณะมึนเมา
จากการศึกษาในปี 2014 พบว่า การขับรถในขณะที่ง่วงส่งผลกระทบต่อร่างกายคล้ายกับการขับรถภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์ โดยจะลดประสิทธิภาพของการทำงานในส่วนสำคัญที่จำเป็นต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ได้แก่:
•ความดันโลหิต
•อัตราการเต้นของหัวใจ
•ความแม่นยำในการมองเห็น
•ความสามารถของดวงตาในการปรับสภาพกับความมืด
•เวลาตอบสนองต่อเสียง
•เวลาตอบสนองต่อแสง
•การรับรู้ระยะลึก
•ความสามารถในการประเมินความเร็ว
หากคุณมักรู้สึกง่วงขณะขับรถเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
(เมื่อไหร่ควรหยุดขับรถ)
บางครั้งกลยุทธ์ต่าง ๆ ก็อาจไม่ได้ผล เพราะร่างกายและจิตใจของคุณเหนื่อยล้าเกินกว่าจะขับรถได้อย่างปลอดภัย
ต่อไปนี้คือสัญญาณเตือนชัดเจนว่าคุณควรหยุดขับรถทันที:
•คุณหาวบ่อยและควบคุมไม่ได้
•คุณจำไม่ได้ว่าเพิ่งขับผ่านระยะทางมากี่ไมล์
•จิตใจล่องลอย ไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งรอบตัว
•เปลือกตารู้สึกหนักผิดปกติ
•ศีรษะเริ่มเอียงหรือตกไปด้านใดด้านหนึ่ง
•อยู่ๆ ก็รู้ตัวว่ารถเบนไปอีกเลนหรือทับเส้นลูกระนาด
•มีคนขับรถเลนข้างๆ บีบแตรใส่เพราะคุณขับรถผิดปกติหรืออันตราย
หากเกิดอาการเหล่านี้ ควรหาที่จอดรถปลอดภัยเพื่อพักทันที เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อื่นบนถนน
การขับรถขณะง่วงไม่ใช่เรื่องปลอดภัย
มันอาจอันตรายยิ่งกว่าการขับรถขณะเมาเสียอีก
ลองใช้กลยุทธ์เหล่านี้เพื่อช่วยให้คุณตื่นตัวขณะขับรถ และหากคุณพบว่าตัวเองง่วงบ่อยขณะขับรถ อย่าลังเลที่จะมองหาทางเลือกในการเดินทางอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อื่นบนท้องถนน








