คุณทำ IF ถูกวิธีหรือไม่
ในยุคนี้ที่ใครๆก็หันมาดูแลสุขภาพแต่ละคนก็มีวิธีดูแลสุขภาพเป็นของตัวเอง แต่จะมีอยู่ 1 วิธีที่ในช่วงนี้เป็นเทรนตามโซเชียลมากมายก็คือการทำ IFมันคืออะไรกันแน่ทำเราได้ผลดีจริงไหมทำถูกวิธีหรือเปล่าเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
Intermittent Fasting หรือ IF คือการจำกัดเวลากินอาหาร ไม่ได้เน้นว่าไปช่วงเวลาจะกินอาหารแบบไหน แต่เน้นที่เวลากินเป็นหลัก ช่วงเวลากินที่คนนิยมใช้ส่วนมากคือ 16/8 หรือการกิน 8 ชั่วโมงและอด16 ชั่วโมง หรือบางคนฮาร์ดคอหน่อยก็ 23/1 กินแค่ 1 ชั่วโมงแล้วอดอาหาร 23 ชั่วโมงหรือมีมากกว่านั้นที่ที่คนคนนึงจะอด 24 ชั่วโมงโดยไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่าและวันถัดไปค่อยกิน
ข้อดีข้อเสียของการทำ IF
ข้อดี : เพื่อช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน ควบคุมน้ำหนักให้ไม่อ้วนขึ้น
ข้อเสีย : อาจจะตบะแตกบ่อยไปกินของหวานของที่ทำให้อ้วน เนื่องจากหิวบ่อย ทนหิวไม่ไหว หรืออ่อนเพลียไม่มีแรงใช้ชีวิตประจำวัน
จะรู้ได้อย่างไรว่าทำ IF ถูกหรือเปล่า
ข้อสังเกตมีดังนี้
ในกรณีถ้าคุณทำ IF ถูกวิธี :จะรู้สึกว่าร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้น น้ำหนักลดลง นอนหลับได้ดีขึ้น ตื่นเช้าขึ้นมาจะยังไม่รู้สึกหิว เวลาถึงชั่วโมงการกินก็จะไม่รู้สึกหิวมาก ระหว่างวันจะไม่รู้สึกอยากของหวาน ไม่ปวดหัวไม่หงุดหงิดง่าย มีแรงมีสมาธิทำสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น
ในกรณีของการทำ IF ผิดวิธี : จะรู้สึกว่าหิวบ่อยปวดท้องเป็นโรคกระเพาะได้ ขาดสารอาหาร หงุดหงิดง่ายสภาพจิตใจไม่คงที่ หน้ามืดใจสั่น ในกรณีของผู้หญิงประจำเดือนอาจมาไม่ปกติ หรือบางรายเป็นกรดไหลย้อน กล้ามเนื้อหาย ระบบขับถ่ายไม่ดี น้ำหนักนิ่งหรือเพิ่มขึ้น
ทำIF ถูกวิธีทำยังไงกันแน่
อย่างแรกต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองซึ่ง 16/8 การอด 16 ชั่วโมงแล้วกิน 8 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่กินก็ไม่ใช่ว่ากินน้อยเกินไปหรือมากเกินไปสัดส่วนของอาหารก็สำคัญไม่ควรลดปริมาณอาหารเกินไปจะให้กินพอดีและอิ่ม และควรเป็นอาหารที่มีคุณภาพไม่ใช่แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ของทอด ของมัน
การทำ if ก็เป็นแค่ 1 วิธีที่จะช่วยคุณดูแลสุขภาพจะลดน้ำหนักได้หรือไม่ก็อยู่ที่เลือกใช้แต่ก็ควรระวังก็คือวิธีที่คนคนหนึ่งเชื่อได้ผลอีกคนอาจจะใช้ไม่ได้ผลอยู่ที่โครงสร้างของร่างกายและระบบในร่างกายของคนอื่นด้วยว่าจะเป็นแบบไหน แต่ไม่ว่ายังไงทุกวิธีในการลดน้ำหนักก็มีความเสี่ยงควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มทำดีที่สุด