ชวนอ่านนิยายGirl love,พารานอมอล
Ebookในส่วนของเล่มแรกวางจำหน่ายแล้วจ้า ตอนหลัก30ตอน ใครที่กำลังรอเล่ม2ได้อ่านเร็วๆนี้แน่นอนค่าาา
จิ้มลิงก์ได้เลย มีโปรจุกๆไฟลุกอยู่
https://www.mebmarket.com/ebook-358622-คำสาบานใต้เกลียวคลื่น-เล่ม1
เผ่าเงือกโบราณมีข้อตกลงลับกับมนุษย์—ทุกๆ 100 ปี จะต้องมีเงือกหนึ่งตนแต่งงานกับมนุษย์เพื่อรักษาสันติภาพ มิร่าเป็นนางเงือกที่ถูกเลือกในครั้งนี้ และต้องแต่งงานกับหญิงสาวมนุษย์ที่มาจากตระกูลที่สืบทอดพันธะสัญญานี้
ตอนแรกทั้งสองคนไม่ยินดีกับชะตากรรมนี้ หญิงสาวมนุษย์ไม่เชื่อในตำนาน และคิดว่าเงือกไม่มีจริง ขณะที่มิร่าไม่เคยมีความสัมพันธ์กับมนุษย์มาก่อน แต่เมื่อทั้งสองต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ความผูกพันก็เริ่มก่อตัวขึ้น
ตัวละครหลัก
ตัวละครอาจเพิ่มขึ้นในแต่ละตอนจ้า
1. มิร่า (นางเงือกผู้ถูกเลือก)
ลักษณะภายนอก: มิร่าเป็นนางเงือกที่มีผมยาวสีฟ้าเข้มดอมหยักศก คล้ายคลื่นทะเลที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ดวงตาของเธอสะท้อนประกายแห่งมหาสมุทร ทั้งยังมีเกลียวหางที่เปล่งประกายเมื่อต้องเผชิญกับแสงจันทร์ เธอสวมสร้อยคอจากเปลือกหอยและไข่มุกที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ
ภูมิหลัง: มิร่าเกิดในสังคมของเงือกที่มีประเพณีโบราณสืบทอดกันมาว่า ทุกร้อยปีจะมีนางเงือกหนึ่งตนถูกเลือกให้เป็นคู่แต่งงานกับมนุษย์เพื่อรักษาสันติภาพระหว่างโลกทั้งสอง เธอถูกเลือกมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย จนกลายเป็นภาระที่เธอไม่ค่อยยอมรับในตอนแรก เพราะเธอต้องละทิ้งความเป็นอิสระและความปรารถนาที่อยากจะสำรวจโลกใต้ทะเลอย่างเต็มที่
2. วารี (หญิงสาวมนุษย์จากตระกูลพันธะ)
ลักษณะภายนอก: วารีมีผมสีเข้มยาวที่ตกหล่นเป็นลอนอ่อน ๆ ผิวขาวเนียนละเอียด และดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น เธอชอบสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์วินเทจเล็กน้อยที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีเสน่ห์แบบคลาสสิก
ภูมิหลัง: วารีเกิดและเติบโตในครอบครัวที่สืบทอดพันธะสัญญาระหว่างมนุษย์กับเงือกมาหลายชั่วอายุคน ครอบครัวของเธอมีบทบาทสำคัญในการรักษาสันติภาพระหว่างโลกทั้งสอง แต่ด้วยเหตุผลบางประการ วารีกลับรู้สึกว่าเธอถูกผูกมัดกับข้อตกลงที่ดูเหมือนจะขัดกับความปรารถนาที่แท้จริงของเธอ เธอไม่เคยเลือกชีวิตแบบที่ถูกกำหนดไว้ แต่กลับต้องเผชิญกับความคาดหวังและภาระหน้าที่ที่หนักหน่วง
ตัวละครเสริม
3. มาลี (เพื่อนสนิทของวารี)
ลักษณะภายนอก: มาลีเป็นหญิงสาวมนุษย์ที่มีผมสีน้ำตาลเข้มตัดเป็นทรงบ๊อบ ดูสดใสและกระฉับกระเฉง ใบหน้าของเธอแฝงไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและความเป็นมิตรในทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว
4.เรวิน (เพื่อนสาวของมิร่าในเผ่าเงือก)
ลักษณะภายนอก: เรวินเป็นนางเงือกที่มีสีผิวคล้ายน้ำเงินเข้ม ผมของเธอสั้นแบบสไตล์สมัยใหม่ ทำให้เธอดูสดใสและเต็มไปด้วยพลัง เธอมีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและท่าทีที่มั่นใจในตัวเอง
โปรยเรื่องครึ่งแรก
เธอคือมนุษย์
ผู้หลงใหลในธรรมชาติ แสวงหาคำตอบจากท้องทะเลอันกว้างใหญ่และมีภาระหน้าที่บางอย่างติดตัว
เธอคือเงือก
ผู้ถูกจองจำด้วยคำสาปเก่าแก่ ความลับ และพันธะโบราณที่ไม่มีทางหลุดพ้น
เมื่อหัวใจของทั้งสองดึงดูดเข้าหากัน
ความจริงที่ถูกลืมกลับค่อย ๆ ตื่นขึ้น
ทั้งความรัก ความหวาดกลัว
และอดีตที่เคยถูกซ่อนในห้วงน้ำลึก
พวกเธอจะกล้าเสี่ยง… เพื่อความรู้สึกที่ถูกขัดขวางได้หรือไม่ เมื่อทุกฝีก้าวของความรัก คือการต่อสู้กับโชคชะตา
และเมื่อเงื้อมมือของความมืด เริ่มเอื้อมเข้ามาทำลายทุกสิ่ง
Girl's Love | พารานอมอล | โรแมนติกดราม่า
เตรียมสัมผัสความรักที่งดงามเกินกว่าคำว่าต้องห้าม
ในเรื่องราวที่ทั้งอ่อนโยนและบาดลึกจนถึงหัวใจ
ในห้วงรัตติกาลอันลึกลับ ท้องทะเลทอดยาวไปสุดสายตา สะท้อนเงาจันทร์ที่แขวนตัวอยู่บนฟ้าให้ทอแสงอ่อนโยนลงมายังพื้นน้ำ คลื่นบางเบากระเพื่อมเป็นริ้วราวกับกำลังขับขานบทเพลงแห่งราตรี เสียงกระแสน้ำเคลื่อนตัวไปมาคลอเคลียก้อนหินใต้น้ำ ดุจท่วงทำนองแห่งมหาสมุทรที่บรรเลงมาเนิ่นนาน
ลึกลงไปใต้ผิวน้ำ โลกอีกใบหนึ่งกำลังดำรงอยู่ เงียบสงบและงดงาม เปลือกหอยที่เรียงรายตามแนวปะการังระยิบระยับราวกับอัญมณีที่ถูกขัดเกลาจากกาลเวลา แสงจันทร์ที่ส่องผ่านผิวน้ำแตกกระจายเป็นเส้นแสงสีเงินทอดตัวลงมาถึงเบื้องล่าง ราวกับม่านแพรบางเบาที่ปกคลุมอาณาจักรแห่งเงือก
มิร่าเอนกายพิงแนวปะการัง ดวงตาคู่สวยทอดมองขึ้นไปยังผิวน้ำเบื้องบน ผมสีเข้มยาวสลวยของเธอพลิ้วไหวไปตามแรงน้ำคล้ายเกลียวคลื่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ร่างของเธอสะท้อนแสงจันทร์อ่อนจาง ขับเน้นให้เกลียวหางเปล่งประกายเรืองรอง เธอวางมือเบา ๆ บนสร้อยคอเปลือกหอยที่คล้องอยู่รอบลำคอ เย็นเยียบและหนักแน่น คล้ายกับภาระที่ถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น
เสียงน้ำกระเพื่อมแผ่วเบาทำให้มิร่าหลุดออกจากภวังค์ เรวิน นางเงือกเพื่อนรักของเธอเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ ดวงตาของเรวินเปล่งประกายด้วยความสนใจ ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
"เจ้ากำลังครุ่นคิดเรื่องนั้นอีกแล้วใช่ไหม?" เรวินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเจือแววขี้เล่นปนห่วงใย
มิร่ายิ้มบาง ๆ แต่ไม่ได้ตอบ เธอแค่มองขึ้นไปยังดวงจันทร์ที่แขวนอยู่เบื้องบน โลกเบื้องบนที่เธอไม่เคยได้สัมผัส... และภารกิจที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยง
ท่ามกลางความเงียบสงบของท้องทะเล เสียงกระซิบของกระแสน้ำดังขึ้นแผ่วเบา ราวกับว่ามหาสมุทรกำลังบอกเล่าเรื่องราวที่ซ่อนเร้นอยู่ในความลึกอันมืดมิด คืนนี้เป็นคืนที่แสงจันทร์งดงามเป็นพิเศษ ทว่าในความงามนั้น มีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ใต้เงาน้ำ บางสิ่งที่อาจเปลี่ยนชะตาของมิร่าไปตลอดกาล…
--
สายน้ำเย็นฉ่ำโอบล้อมร่างของมิร่าในอ้อมกอดอันเงียบสงบ เธอนอนลอยตัวเหนือแนวปะการัง ปล่อยให้เส้นผมสีเข้มพลิ้วไหวไปตามกระแสน้ำ แสงจันทร์เบื้องบนสาดส่องผ่านผิวน้ำ ทอดเงาเป็นเส้นแสงระยิบระยับราวกับม่านไข่มุกต้องมนต์
มือเรียวบางแตะสัมผัสสร้อยคอที่คล้องอยู่รอบลำคอของเธออีกครั้ง มันทำจากเปลือกหอยขัดเงาและไข่มุกสีขาวบริสุทธิ์ สิ่งนี้เป็นมรดกจากบรรพบุรุษ สัญลักษณ์แห่งคำสาบานโบราณที่ยึดเหนี่ยวเธอไว้กับหน้าที่ที่มิอาจหลีกหนี
เสียงกระแสน้ำไหลกระซิบแผ่วเบา ทว่าภายในใจของมิร่ากลับไม่ได้สงบนิ่งเหมือนทะเลราตรี นัยน์ตาสีมหาสมุทรของเธอสะท้อนประกายแห่งความเศร้าและความหวังที่ขัดแย้งกันอยู่ลึก ๆ
เธอจำได้ดี ณ วันที่ถูกเลือก
มันคือวันหนึ่งในวัยเยาว์ เมื่อเธอยังเป็นเพียงนางเงือกตัวน้อยที่ชอบว่ายน้ำออกไปไกลจากถ้ำของเผ่าพันธุ์ สำรวจโลกใต้น้ำด้วยหัวใจเปี่ยมฝัน นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นอาทิตย์ยามรุ่งอรุณจากใต้ผืนน้ำ แสงสีทองที่สาดผ่านลงมาแต่งแต้มท้องทะเลให้เต็มไปด้วยเฉดสีอันอบอุ่น
แต่ความฝันเหล่านั้นก็จบลงในวันเดียวกัน
“เจ้าถูกเลือกแล้ว มิร่า”
คำประกาศของเหล่าผู้อาวุโสยังคงดังก้องในความทรงจำ เธอจำภาพใบหน้าของมารดาได้ แววตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ซ่อนเร้นด้วยความกังวลลึก ๆ
"เจ้าคือทายาทแห่งสายเลือดเจ้าเงือกโบราณ เจ้าจะต้องปกป้องสมดุลของท้องทะเล และรักษาคำสาบานที่มีมานับพันปี"
มิร่าจำได้ว่าเธอไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยในตอนนั้น เพราะหัวใจของเธอราวกับจมหายลงไปในความเงียบงันของมหาสมุทร
แม้จะผ่านมาเนิ่นนาน แต่ทุกครั้งที่เธอสัมผัสสร้อยคอเส้นนี้ เธอจะได้ยินเสียงกระซิบจากความทรงจำเหล่านั้นเสมอ มันคือเสียงของบรรพชน เสียงของภาระหน้าที่ เสียงที่ย้ำเตือนเธอว่าเธอไม่มีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตของตนเอง
แสงจันทร์ยังคงเปล่งประกายอ่อนโยน ท้องทะเลเงียบสงบเหมือนเดิม มีเพียงหัวใจของมิร่าที่ถูกซัดกระหน่ำด้วยกระแสคลื่นแห่งความลังเล
เธออยากจะเป็นอิสระ เธออยากจะว่ายออกไปไกลจากเงาของคำสาบานที่ผูกมัดเธอไว้
แต่เธอจะทำได้จริงหรือ?
เธอจะกล้าทำลายพันธนาการของประเพณีที่ดำรงอยู่มานับพันปีได้หรือไม่?
มิร่าหลับตาลง ปล่อยให้ร่างของเธอล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ท่ามกลางความเงียบของมหาสมุทร มีเพียงเสียงกระซิบแห่งความทรงจำที่ยังคงดังก้องในใจของเธอไม่จางหาย...
--
ท้องทะเลในยามราตรียังคงเปล่งแสงจันทร์อันนุ่มนวล คลื่นกระเพื่อมไหวเป็นระลอกเบา ๆ ในกระแสน้ำเย็น ราวกับกำลังขับกล่อมสรรพชีวิตใต้มหาสมุทรให้หลับใหล
แต่เรวินหาได้สนใจความสงบเหล่านั้นไม่ วันหนึ่งเธอว่ายฝ่ากระแสน้ำด้วยความเร็ว ความมุ่งมั่นฉายชัดอยู่บนใบหน้า หางสีน้ำเงินเข้มสะบัดเป็นจังหวะ สะท้อนแสงสลัวของดวงจันทร์บนผิวน้ำ เธอมุ่งหน้าตรงไปยังแนวปะการังแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอรู้ว่ามิร่ามักจะมาอยู่ที่นั่นในค่ำคืนเช่นนี้
ไม่นานนัก เรวินก็มองเห็นร่างของเพื่อนสนิท นอนลอยตัวนิ่งอยู่กลางสายน้ำอีกแล้ว มิร่าไม่ขยับแม้แต่น้อย มีเพียงเส้นผมยาวสีเข้มที่พลิ้วไปตามกระแสน้ำ ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของท้องทะเลที่ไม่มีวันแยกจากกัน
"มิร่า เจ้าว่ายมาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ไม่เบื่อบ้างหรือไง"
เสียงของเรวินแฝงไปด้วยความอ่อนโยน แต่ก็มีแววตำหนิอยู่เล็กน้อย เธอว่ายเข้ามาใกล้ ก่อนจะคุกเข่าลงบนโขดปะการัง ใช้มือแตะไหล่ของมิร่าเบา ๆ
มิร่าลืมตาขึ้นช้า ๆ นัยน์ตาสีมหาสมุทรของเธอสะท้อนเงาของความคิดที่ซับซ้อน ว่างเปล่าแต่ก็หนักอึ้งไปด้วยภาระของสิ่งที่เธอไม่สามารถพูดออกมาได้
"ข้าแค่... อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ" เสียงของเธอแผ่วเบา ราวกับเกรงว่าหากพูดเสียงดังเกินไป มันจะทำลายความเงียบสงบของค่ำคืนนี้
"นี่เจ้ากำลังคิดถึงสิ่งที่ถูกบังคับให้เป็น หรือสิ่งที่เจ้าอยากจะเป็นกันแน่?"
มิร่าชะงัก คำถามของเรวินเหมือนหอกที่พุ่งตรงเข้าไปในใจของเธอ เธอไม่ได้ตอบในทันที เพียงปล่อยให้ความเงียบเป็นตัวแทนของคำพูดที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ย
เรวินถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอนตัวลอยน้ำข้าง ๆ มิร่า "ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกอย่างไร มิร่า... ข้าก็เคยตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน"
"แต่เจ้ากล้าพอที่จะพูดมันออกมา" มิร่าเอ่ยเสียงเบา เธอหันไปมองเพื่อนสนิทของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล "ไม่เหมือนข้า..."
"เพราะข้าไม่อยากถูกล่ามโซ่ด้วยสิ่งที่ข้าไม่ได้เลือก" เรวินตอบเสียงหนักแน่น ดวงตาของเธอฉายแววมุ่งมั่น "ข้าไม่เคยเชื่อว่าประเพณีเก่าแก่เหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของเรา ข้าอยากให้พวกเงือกทุกตนได้เลือกเส้นทางของตนเอง"
"แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นไง ประเพณีถูกสืบทอดกันมานับพันปี..." มิร่ากระซิบ "เราจะเปลี่ยนแปลงมันได้อย่างไร ในเมื่อทุกเผ่าพันธุ์ต่างเคารพมัน”
เรวินหันมาจ้องตาของมิร่า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"มันอาจจะไม่ง่าย แต่มันไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้" เธอเอื้อมมือไปจับมือของมิร่าเบา ๆ "เจ้าเองก็รู้ดีมิร่า เจ้าไม่เคยต้องการชีวิตแบบนี้ เจ้าอยากจะเห็นโลกกว้าง เจ้าอยากจะรู้ว่ามหาสมุทรกว้างใหญ่เพียงใด ไม่ใช่ถูกกักขังอยู่ในกรอบของประเพณีที่เจ้าไม่ได้เลือก"
มิร่านิ่งงัน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น เธอไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าคำพูดของเรวินสะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจของเธอมาตลอด
"แต่ถ้าข้าทำลายมัน ข้าจะกลายเป็นอะไร?" เสียงของมิร่าเบาหวิว ราวกับเป็นคำถามที่เธอไม่กล้าจะหาคำตอบ
เรวินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันมาจ้องตาของเธอ "เจ้าก็จะกลายเป็นตัวของเจ้าเอง"
มิร่าหลุบตาต่ำ รู้สึกได้ถึงบางอย่างในใจที่เปลี่ยนไป เธอไม่แน่ใจนักว่าความกลัวในใจของเธอหายไปแล้วหรือยัง แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้แน่ชัดคือ…
เธออยากจะลองค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง
แสงจันทร์ยังคงส่องประกายอยู่เหนือมหาสมุทร ขณะที่เสียงแห่งการเปลี่ยนแปลงเริ่มก้องกังวานในหัวใจของมิร่าเป็นครั้งแรก…
ทั้งหมดนี่คือเนื้อหาในตอนที่1ของนิยายเรื่อง คำสาบานใต้เกลียวคลื่น หากใครสนใจสามารถหาซื้ออ่าน
ได้ในMebเลยจ้า
















