รีวิวหนังดัง FANTASTIC 4 สี่พลังคนกายสิทธิ์
อีกหนึ่งผลงานสุดตระการตากับการรวมทีมเหมือนกับคนในครอบครัว เรื่องราวของ 4 นักวิทยาศาสตร์ที่ออกไปทำงานด้านอวกาศที่ระบบสุริยะจักรวาล แล้วถูกรังสีพวกเขาทั้งสี่ นั่นทำให้พวกเขามีพลังพิเศษ และทำการช่วยเหลือสังคมภายหลัง
ผลงานการกำกับโดย Tim Story รังสรรค์สมาชิกทั้งสี่ด้วยจินตนาการสุดบรรเจิดพร้อมทั้ง Reed Richards, Sue Storm, Johnny Storm และ Ben Grimm
เรื่องย่อ
Reed Richards พยายามสร้างตัวขายโปรเจกต์สำคัญในงานวิจัยทางอวกาศให้กับมหาเศรษฐีอย่าง Victor Von Doom (Dr.Doom) หากทำสำเร็จบริษัทของ Victor ราคาหุ้นจะขึ้นแบบพุ่งทะยาน
Reed ได้ลูกทีมคนสำคัญอย่าง Sue Storm, Johnny Storm และ Ben Grimm ร่วมเดินทาง
ปรากฎว่าเกิดพายุคอสมิคแบบกะทันหัน แม้ว่า Reed จะคำนวณมาดีแค่ไหน ก็คลาดเคลื่อนถึง 7 ชั่วโมง พวกเขาทั้งสี่รับรังสีที่ทำให้เกิดพลังวิเศษ
Sue Storm สามารถล่องหนหายตัวได้
Johnny Storm สามารถควบคุมเพลิงในตัว และบินได้ด้วยไฟ
Ben Grimm กลายสภาพเป็นมนุษย์หิน เรียกอีกอย่างว่า The Thing
ตัว Reed ก็กลายเป็นมนุษย์ที่มีกายหยาบยืดหยุ่น
ส่วน Victor Von Doom ก็เป็นคนที่มีโครงกระดูกเหล็กและควบคุมกระแสไฟฟ้าได้
Reed พยายามหาทางแก้ไขให้ทุกคนกลับมาเป็นปกติดังเดิม ขณะที่การใช้ชีวิตของแต่ละคนก็ยากลำบาก เพราะได้สร้างวีรกรรมช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายบนถนนสะพานไฮเวย์ ทุกคนกลายเป็นคนดัง
ในขณะที่ Victor กลายเป็นเจ้าสัว Yesterday หุ้นส่วนถอนตัวและธุรกิจของเขาก็ตกอับหนักถึงขั้นขาดทุน สร้างความเจ็บใจต่อตัว Reed เป็นอย่างมาก
นักแสดงนำ
- Ioan Gruffudd รับบทเป็น Reed Richards
- Jessica Alba รับบทเป็น Sue Storm
- Chris Evans รับบทเป็น Johnny Storm
- Michael Chiklis รับบทเป็น Ben Grimm
- Julian McMahon รับบทเป็น Victor Von Doom
- Hamish Linklater รับบทเป็น Leonard
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.การดำเนินเรื่องน่าสนใจมาก ตั้งแต่อารัมภบทในช่วงแรกจนไปถึงปัญหาของการมีพลังวิเศษ แต่ไม่อาจควบคุมพลังนั้นได้ ทำให้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก หนังจึงมีอารมณ์ของ Action และ Drama ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
2.ฉาก Action ก็นับว่าสนุก และออกแบบคิวบู๊มาเป็นอย่างดี ทำให้หนังน่าสนใจสมกับเป็นหนังที่สร้างจาก Marvel โดยเฉพาะฉากบนสะพานไฮเวย์ที่นับว่าสร้างปรากฎการณ์ให้คนได้จดจำ Fantastic 4
3.ปมขัดแย้งระหว่างพระเอกกับผู้ร้ายก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะรักผู้หญิงคนเดียวกันอย่าง Sue Strom แล้ว ยังมีปมแค้นของ Victor ที่เขากลายเป็นคนตกยากเพราะ Reed อีกด้วย แม้ว่า Reed จะรับผิดชอบหาทางแก้ไข แต่การรอคอยก็ไม่ใช่สิ่งที่ Victor ต้องการ มันจึงเลยเถิดถึงขั้นเอาถึงแก่ชีวิต
4.Visual Effect ถือว่าทำออกมาได้ดีแล้วสำหรับในสมัยปี 2005 ที่พยายามไม่ให้ดูขัดหูขัดตา โดยเฉพาะตัวของ Ben Grimm มนุษย์หิน กับ Reed Richards มนุษย์ยางยืดฉายา Mr.Fantastic ต้องยอมรับการยืดตัวแบบนั้นมันค้านสายตาคนดูได้ง่ายอยู่แล้วด้วย
5.จุดอ่อนของหนังคือสั้นไปหน่อยกับความยาว 105 นาที ทำให้หนังขาดการเพิ่มมิติของตัวละครให้คนดูผูกพันมากกว่านี้ มันจึงมีเพียงเรื่องของการดิ้นรนรักษาให้ทั้ง 4 คนกลับมาเป็นคนปกติ กับการแก้แค้นของ Victor Von Doom แค่นั้น
6.Jessica Alba ในบท Sue Strom นับว่าเป็นสิ่งดึงดูดใจคนดูไม่น้อย ไม่ใช่แค่ความสวย Sexy เท่านั้น แต่ยังมีความน่ารัก ความเห็นใจต่อคนในทีม คอยผสานความรู้สึกของคนในทีม แม้จะมีงอนกับ Reed อยู่บ้าง แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีให้กับชายผู้เป็นที่รัก ความสวย Sexy ของเธอจึงเป็นนามธรรมที่ไม่หยาบคาย และเป็นบทบาทที่ครีเอเตอร์มากกว่าหนังเรื่องอื่นที่เธอแสดง
7.แม้คะแนนวิจารณ์หนังจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่ครีเอเตอร์บอกเลยว่านี่ไม่ใช่หนังห่วย หากเทียบกับเวอร์ชันในปี 2015 แล้ว จะรู้สึก...เพราะเวอร์ชันในปี 2015 ขาดองค์ประกอบทุกอย่างทั้งฉาก Action การดำเนินเรื่องก็วนแบบพายเรือในอ่าง เน้นความตึงเครียด แต่คนดูยังรู้สึกเบื่อ ไม่ต้องพูดถึงความผูกพันที่มีต่อคนดู...จะมีก็แต่ Kate Mara ในบท Sue เท่านั้นที่ยังพอให้อภัย
8.Music Composed โดย John Ottman ให้เสียงดนตรีประกอบได้ดีมากๆ จนเป็นทำนองฝังใจแบบเรียกได้ว่ามันคือเอกลักษณ์เฉพาะของ Fantastic 4 อย่างเป็นทางการ




















