สิวขึ้นคางบ่อยไม่หายสักที รู้สาเหตุและวิธีจัดการแบบตรงจุด
สิวขึ้นคางบ่อยไม่หายสักที รู้สาเหตุและวิธีจัดการแบบตรงจุด
สิวขึ้นคางซ้ำๆ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพภายใน ไม่ใช่แค่เรื่องของผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของต่อมไขมันที่อาจผลิตน้ำมันมากเกินไป หรืออาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของฮอร์โมนได้อีกด้วย อย่ามองข้ามปัญหาสิวขึ้นคาง เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้สิวลุกลามและรักษายากขึ้น ควรรีบดูแลและแก้ไขให้ตรงจุดเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
สิวขึ้นคางคืออะไร และควรกังวลแค่ไหน ?
สิวขึ้นคางเป็นสิวที่เกิดขึ้นบริเวณคาง และบางครั้งอาจลามไปถึงแนวกรามและลำคอ ลักษณะของสิวขึ้นคางมักเป็นตุ่มแดง สิวอุดตัน หรือสิวหัวหนอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยภายในและภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครียด หรือการสัมผัสกับสิ่งสกปรกโดยไม่รู้ตัว
สาเหตุหลักที่ทำให้สิวขึ้นคาง
- ฮอร์โมนไม่สมดุล สิวขึ้นคางมักเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจนที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น พบได้บ่อยในช่วงก่อนมีประจำเดือน วัยรุ่น หรือผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนแปรปรวน
- การสัมผัสสิ่งสกปรก การจับคางบ่อยๆ พิงหน้ากับมือ หรือใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสมและกระตุ้นการเกิดสิวขึ้นคาง
- ความเครียดสะสม ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้นและทำให้เกิดสิวขึ้นคางได้ง่ายขึ้น
- อาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหารที่มีน้ำตาลสูง ผลิตภัณฑ์จากนม และพฤติกรรมการนอนดึก ดื่มน้ำน้อย อาจทำให้สิวขึ้นคางเกิดบ่อยและรักษายากขึ้น
แม้ว่าสิวขึ้นคางจะไม่ใช่เรื่องอันตรายร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดการอักเสบ ลุกลาม หรือทิ้งรอยสิวที่รักษายากได้ ดังนั้น การดูแลตัวเองให้เหมาะสม และหาสาเหตุที่แท้จริงของสิวขึ้นคาง จะช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนได้เร็วขึ้น
สิวขึ้นคาง อันตรายแค่ไหน?
สิวขึ้นคาง อาจไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยตรง แต่สามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและสภาพผิวได้ โดยเฉพาะหากเป็นสิวอักเสบเรื้อรังที่อาจทิ้งรอยดำหรือแผลเป็นถาวร หากสิวขึ้นคางไม่ตอบสนองต่อการรักษาปกติ หรือมีลักษณะที่ผิดปกติ เช่น บวมแดงมาก เจ็บปวด หรือเกิดขึ้นเป็นประจำ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาภายในร่างกาย เช่น ความไม่สมดุลของฮอร์โมน (เช่น PCOS) หรือการแพ้อาหารบางชนิด ซึ่งในกรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ประเภทของสิวขึ้นคาง
สิวขึ้นคางมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละประเภทมีสาเหตุและแนวทางการดูแลที่แตกต่างกัน เราจึงต้องสังเกตลักษณะของสิวขึ้นคางเพื่อรักษาให้ถูกวิธี
1. สิวอุดตันที่เป็นสิวขึ้นคาง (Comedonal Acne)
เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันส่วนเกิน
- สิวหัวดำ (Blackheads): รูขุมขนเปิดออกและเกิดการออกซิไดซ์กับอากาศ ทำให้เห็นเป็นจุดดำบนคาง
- สิวหัวขาว (Whiteheads): รูขุมขนอุดตันแบบปิด ทำให้เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ สีขาวใต้ผิวหนัง
2. สิวอักเสบที่เป็นสิวขึ้นคาง (Inflammatory Acne)
เกิดจากแบคทีเรียสะสมในรูขุมขนที่อุดตัน ทำให้เกิดการอักเสบ
- สิวตุ่มแดง (Papules): ตุ่มแดงเล็กๆ ไม่มีหัวหนอง เกิดจากการอักเสบของผิว
- สิวหัวหนอง (Pustules): มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ที่มีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง
3. สิวหัวช้างที่เป็นสิวขึ้นคาง (Nodular Acne)
เป็นสิวอักเสบรุนแรงที่เกิดลึกใต้ชั้นผิว มีลักษณะเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ เจ็บมาก และไม่มีหัวให้กดออก
4. สิวซีสต์ที่เป็นสิวขึ้นคาง (Cystic Acne)
เป็นสิวที่รุนแรงที่สุด ลักษณะเป็นก้อนหนองขนาดใหญ่ฝังลึกใต้ผิวหนัง อักเสบมากและเจ็บปวด
5. สิวฮอร์โมนที่เป็นสิวขึ้นคาง (Hormonal Acne)
พบบ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะช่วงก่อนหรือระหว่างรอบเดือน หรือในผู้ที่มีฮอร์โมนแปรปรวน สิวประเภทนี้มักเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ที่คางและแนวกราม
6. สิวจากการระคายเคืองที่เป็นสิวขึ้นคาง (Irritant Acne)
เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น การใส่หน้ากากอนามัย การจับใบหน้าบ่อยๆ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว
ทำไมสิวขึ้นคางซ้ำๆ ไม่หายสักที?
การที่สิวขึ้นคางซ้ำๆ อาจเป็นสัญญาณว่าผิวของเรากำลังเจอปัจจัยกระตุ้นบางอย่างซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฮอร์โมน พฤติกรรมการดูแลผิว หรือแม้แต่สุขภาพภายใน หากไม่ได้รับการแก้ไขที่ต้นเหตุ สิวขึ้นคางก็จะกลับมาเป็นซ้ำและอาจรุนแรงขึ้นได้ มาดูกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้สิวขึ้นคางไม่หายขาด
1. ฮอร์โมนไม่สมดุล (Hormonal Imbalance)
บริเวณคางและแนวกรามเป็นพื้นที่ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ที่กระตุ้นการผลิตน้ำมันมากเกินไป ส่งผลให้สิวขึ้นคางซ้ำๆ
- ช่วงรอบเดือน: หลายคนมักสังเกตว่าสิวขึ้นคางช่วงก่อนหรือระหว่างประจำเดือน
- วัยรุ่น: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่นทำให้สิวขึ้นคางง่ายขึ้น
- ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น PCOS: ผู้ที่มีภาวะนี้มักมีสิวขึ้นคางเรื้อรังและรักษายาก
2. ความมันสะสมและสิ่งสกปรกตกค้าง
บริเวณคางมีต่อมไขมันอยู่มาก ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ง่าย หากล้างหน้าไม่สะอาด หรือมีน้ำมันสะสมจากเครื่องสำอาง เหงื่อ หรือฝุ่นละออง ก็อาจทำให้สิวขึ้นคางซ้ำๆ ได้
3. การสัมผัสใบหน้าบ่อยเกินไป
พฤติกรรมการจับคาง เท้าคาง หรือใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกสะสมบนผิว ส่งผลให้สิวขึ้นคางแบบไม่รู้ตัว
4. ความเครียดสะสม (Stress-Related Acne)
ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) มากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน ส่งผลให้สิวขึ้นคางบ่อยขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากสิวได้ช้าลง
5. อาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือผลิตภัณฑ์จากนม อาจกระตุ้นฮอร์โมนอินซูลินและทำให้สิวขึ้นคาง
- การนอนดึกเป็นประจำทำให้ร่างกายฟื้นฟูผิวได้ไม่ดีพอ
- การดื่มน้ำน้อยทำให้ผิวขาดความสมดุลและเกิดการอักเสบง่ายขึ้น
6. ใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิว
- ครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางบางชนิดที่มีส่วนผสมอุดตันรูขุมขน เช่น ซิลิโคน น้ำมันแร่ หรือแอลกอฮอล์ อาจทำให้สิวขึ้นคางซ้ำๆ
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่แรงเกินไปหรือระคายเคืองผิว อาจทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดสิวอักเสบ
7. ปัญหาสุขภาพภายในร่างกาย
- ลำไส้และระบบย่อยอาหาร: การขาดสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้อาจส่งผลให้เกิดสิวขึ้นคาง
- ตับทำงานผิดปกติ: ตับเป็นอวัยวะที่ช่วยขับสารพิษ หากตับทำงานหนักหรือขับสารพิษได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดสิวขึ้นคางเรื้อรัง
วิธีดูแลตัวเองเมื่อต้องเจอกับสิวขึ้นคาง
สิวขึ้นคางเป็นปัญหาผิวที่หลายคนต้องเผชิญซ้ำๆ โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาฮอร์โมน หรือพฤติกรรมที่ทำให้สิวขึ้นง่าย แต่โชคดีที่เราสามารถดูแลและรักษาเองได้ที่บ้าน หากทำอย่างถูกวิธี สิวขึ้นคางก็สามารถลดลงและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำได้ง่ายๆ
1. ล้างหน้าให้สะอาด แต่ไม่บ่อยเกินไป
- ล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และลดการอุดตันของรูขุมขน
- เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม
- ส่วนผสมที่ช่วยลดสิวขึ้นคาง เช่น
- Salicylic Acid (BHA) ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดรูขุมขน
- Glycolic Acid (AHA) ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น
2. ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวอย่างเหมาะสม
- Benzoyl Peroxide: ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ
- Salicylic Acid: ช่วยลดสิวอุดตันและผลัดเซลล์ผิว
- Retinoids: ลดการอุดตันของรูขุมขนและช่วยปรับสมดุลการทำงานของเซลล์ผิว
3. หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว
- การบีบสิวอาจทำให้แบคทีเรียกระจายและเกิดการอักเสบมากขึ้น
- อาจทิ้งรอยแดงหรือรอยดำไว้บนผิว ทำให้รักษายากขึ้น
4. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- ใช้ มอยส์เจอไรเซอร์สูตร Non-comedogenic (ไม่อุดตันรูขุมขน)
- แม้ว่าผิวมันก็ยังต้องการความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินมากเกินไป
5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้สิวขึ้นคางซ้ำๆ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสคางบ่อยๆ เพราะอาจนำแบคทีเรียมาสู่ผิว
- เช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ เป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก
- เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ เพราะอาจมีสิ่งสกปรกสะสมที่กระตุ้นการเกิดสิว
6. ปรับอาหารและไลฟ์สไตล์ให้สมดุล
- หลีกเลี่ยง อาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารแปรรูป ซึ่งอาจกระตุ้นสิว
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวขับของเสียได้ดีขึ้น
- นอนหลับให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนที่ดีช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง
7. ลดปัญหาสิวจากการใส่หน้ากากอนามัย
- ใช้หน้ากากที่ระบายอากาศได้ดี และเปลี่ยนหน้ากากเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใต้หน้ากาก หรือเลือกเครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
8. ทากันแดดทุกวัน
- เลือก ครีมกันแดดสูตร Non-comedogenic เพื่อป้องกันการอุดตัน
- แสงแดดทำให้รอยสิวเข้มขึ้นและกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้น
สรุป
การรักษาสิวขึ้นคางด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก หากเราดูแลผิวให้ถูกวิธีและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น สิวขึ้นคางก็จะลดลงและไม่กลับมากวนใจอีก

















