รีวิวหนังสือ GRIT The Power of Passion and Perseverance สิ่งที่ต้องมี...เมื่อคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิต
GRIT ว่าด้วยเรื่องของความอดทนเพียรพยายามเพื่อที่เราจะได้ชำนาญในด้านใดด้านหนึ่งที่เราสนใจอยากจะเก่ง อยากจะชำนาญในสายงานนั้นจริงๆ แม้ว่าเราจะไม่ถนัด ไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องนั้น แต่การที่เรามีความอดทนที่ว่าจะทำให้เรสพลิกจากคนที่ไม่มีแต้มต่อเป็นคนที่สามารถชำนาญในเรื่องนั้นได้
Angela Duckworth นักจิตวิทยาชื่อดังมองว่า GRIT คือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนคนไม่เก่งให้กลายเป็นคนเก่งได้จากความอุตสาหะ แล้วเราจะไม่ต้องคิดถึงเรื่องขาดประสบการณ์ ขาดความรู้พื้นฐาน
ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์
- ความทรหด : อุปนิสัยของผู้ประสบความสำเร็จ
คนที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงจะมีความมุ่งมั่นที่ปรากฏออกมาในสองรูปแบบด้วยกัน
(1) พวกเขาจะทำงานหนักและฟื้นฟูตัวเองจากความล้มเหลวได้รวดเร็วมากกว่าคนทั่ว ๆ ไป
(2) พวกเขาเข้าใจทิศทางที่จะเดินไปข้างหน้าของชะตาชีวิตตนเอง การผสมผสานกันระหว่าง “ความหลงใหล” กับ “ความอุตสาหะ ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จดูพิเศษ สิ่งนั้นก็คือ 'ความทรหด’
- พรสวรรค์' อาจไม่ใช่สิ่งที่ควรเทิดทูนขนาดนั้น
การมีใจเอนเอียงไปทางผู้ที่มีพรสวรรค์ (naturalness bias) คืออคติที่ทำให้เรามีแนวโน้มเชื่อว่าผู้ที่จะประสบความสําเร็จได้นั้นต้องมีพรสวรรค์ เราจึงคาดหวังสูงกับคนที่มีความสามารถสูง คิดว่าพวกเขาจะทำบางอย่างให้ดีเยี่ยมได้อย่างง่ายดาย — เมื่อเราให้ความสําคัญกับพรสวรรค์
เราจะส่องไฟไปที่มัน ทำให้คุณสมบัติอื่นๆ ถูกทอดทิ้งไว้ในที่มืด ซึ่งบางทีอาจเป็นคุณสมบัติที่จําเป็นต่อความสําเร็จในระยะยาว เช่น ความทรหด, ความซื่อสัตย์, หรือความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- ทุกสมการความสําเร็จจําเป็นต้องมี 'ความขยัน
ทักษะ = พรสวรรค์ x ความขยัน: พรสวรรค์คือความเร็วในการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ยิ่งเราหยันมาก ก็จะยิ่งพัฒนาทักษะได้เร็วขึ้น
ความสาเร็จ = ทักษะ X ความขยัน: เมื่อเรานั้นพัฒนาทักษะอย่างขันแข็งก็จะกระตุ้นให้เราได้ลงมือทำ ได้สร้างผลงาน และได้เรียนรู้พัฒนา จนกลายเป็นความชานาญที่ปูทางชีวิตไปสู่ความสําเร็จ ผู้ที่มุมานะพัฒนาทักษะอย่างหมักเจมันจะมี
ความสามารถเทียบเท่าผู้มีพรสววรค์ได้และสร้างผลงานเยอะกว่า จึงย่อมมีโอกาสมากขึ้นที่จะประสบความสำเร็จได้มากกว่า
- คนที่ประสบความสําเร็จมี “จุดหมาย” ที่ชัดเจน
เป้าหมาย (goals) เป็นเข็มทิศที่บอกว่าเราจะพยายามไปเพื่ออะไรค่าตอบที่ได้คือสิ่งที่เรามองว่ามันมีคุณค่าต่อชีวิต —ถ้าชีวิตมีเป้าหมายย่อยเยอะ ให้ถามตัวเองว่าเป้าหมายเหล่านั้นมันจะพาเราไปสู่จุดหมายเดียวกันหรือไม่ ถ้าเป้าหมายที่มีแยกย่อยกลมกลืนกันมากเท่าไหร่ ความหลงใหลก็จะชัดเจนมากเท่านั้น ความหลงใหล (passion) คือความรู้สึกยินดีที่จะพยายามทำบางอย่าง เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ความหลงใหลนั้นควรคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปรง่าย และทำให้เรากระตือรือร้นที่จะพัฒนาวิธีการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
- ความทรหดเติบโตได้จากประสบการณ์
ความทรหดส่วนแรกเป็นผลจากปัจจัยทางพันธุกรรม: จากการทดสอบความทรหดกับฝาแฝดวัยรุ่นกว่า 2 พันคู่ พบว่าความอุตสาหะมีสัดส่วนที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม 37% ความหลงใหลอยู่ที่ 20% ความทรหดส่วนที่สองเป็นผลมาจากปัจจัยด้านประสบการณ์: ความทรหดจะเพิ่มขึ้นตามวุฒิภาวะที่เพิ่มขึ้น หลังจากเราตระหนักได้ว่าปรัชญาชีวิตของตัวเองคืออะไร, หลังจากได้เรียนรู้ผ่านความผิดหวัง, และหลังจากได้เรียนรู้ที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างเป้าหมายที่สําคัญน้อยกว่ากับเป้าหมายที่สําคัญมากกว่า
- จะทำได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่า 'สนใจ' แค่ไหน
ความสนใจอย่างจริงจัง เป็นสิ่งที่ตัดสินว่าคนเราจะทําได้ดีแค่ไหนในเรื่องใด ๆ ก็ตามสอดคล้องกับงานวิจัยนับ 100 ชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า “คนเราจะรู้สึกพอใจกับงานที่ทำมากขึ้นถ้าได้ทําสิ่งที่ตรงกับความสนใจ"และงานวิจัยอีกกว่า 60 ชิ้น ก็ระบุเอาไว้ว่า “คนเราจะสร้างผลงานในที่ทํางานได้ดีกว่า ถ้าได้ทํางานที่ตรงกับความสนใจของตนเอง"
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาพอสมควรจนกว่าจะรู้ว่าตัวเองต้องการสิ่งใดกันแน่ หลายสิ่งอาจดูไม่น่าสนใจตั้งแต่แรก แต่พอได้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ได้ทดลองลงมือทำจริง หรือได้รับคำชื่นชมในสิ่งที่ทํา ความหลงใหลในสิ่งนั้นก็จะค่อย ๆ ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ผู้ประเสริฐเกิดจากการ"ฝึกฝน' อย่างเข้มข้น
คนที่ประสบความสําเร็จอย่างสูงทุกคนปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะขัดเกลาความเชี่ยวชาญของตัวเองให้พัฒนายิ่งขึ้นในทุกวัน โดยจะฝึกฝนตัวเองด้วยหลักการดังนี้
(1) มองหาสิ่งใหม่ที่ท้าทายที่ยังทำไม่ได้
(2) พยายามเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมาย
(3) กระตือรือร้นค้นหารับฟังคำติชม
(4) ลงมือทำซ้ำ ครุ่นคิด คัดเกลาฝีมือ
การฝึกฝนเหล่านี้จะเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยต้องใช้วินัยและแรงใจมหาศาลไปกับการต้านทานความเบื่อหน่ายและความเหนื่อยล้า แต่การเติบโตที่ได้รับมาเป็นรางวัล ก็คุ้มค่ามากพอให้พยายาม
- ทําเพื่อ 'ผู้อื่น' คือพื้นที่ใช้ก่อไฟแห่งความทรหด
หนึ่งในวิธีเพิ่มความทรหด คือการค้นหาจุดมุ่งหมายให้พบ โดยถามตัวเองว่า “งานที่เราทำจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร?" เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม สัญชาตญาณภายในได้ผลักดัน
ให้เราค้นหาความสุขสองรูปแบบ คือ ความสุขที่ให้กับตัวเอง และความสุขที่ให้กับผู้อื่น เราทุกคนล้วนมีความสุขสองประเภทนี้ แต่คนที่มีความทรหดสูงจะให้ความสำคัญกับการสร้างสุขเพื่อผู้อื่นมากกว่า พวกเขายินดีทํางานหนักทั้งวันทั้งคืน เผชิญกับความล้มเหลวและผิดหวังช้า ๆ เพราะเชื่อว่าท้ายสุดแล้วความพยายามนั้นจะสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่น
- 'ความหวัง' คือการลุกขึ้นใหม่แล้วพยายามอีกครั้ง
ผู้ที่มีความทรหดสูงจะเปี่ยมด้วยความหวังที่ว่า “ความพยายามจะช่วยให้อนาคตของตัวเองดีขึ้น" ความหวังของพวกเขาจึงไม่เกี่ยวข้องกับโชคชะตา แต่จะเกี่ยวกับการลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้ง คนเหล่านี้เปี่ยมด้วยมุมมองแง่บวก โดยมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้และทำให้ดีขึ้นได้ และพวกเขาจะพูดกับตัวเองว่า“เมื่อล้มเหลว ก็แค่ต้องทํางานหนัก เรียนรู้พยายามให้เต็มที่ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง" นอกจากนี้ คนที่มีความทรหดสูงยังกล้าที่จะขอความช่วยเหลือ และพร้อมจะตอบแทนผู้มีพระคุณในวันที่เขาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
- อยากให้ 'ลูก' ได้ดี พ่อแม่ก็ต้องทําตัวให้ดี
หนึ่งในปัจจัยที่สร้างความทรหดของคนเรามาจากการถูกเลี้ยงดูในวัยเด็ก ความทรหดของเด็กจะสูงขึ้น เมื่อพ่อแม่ใช้วิธีที่เรียกว่า“การเลี้ยงแบบชาญฉลาด” คือการที่พ่อแม่มอบความอบอุ่นกับลูก ให้การยอมรับในตัวลูก และความคิดที่เขาได้ติดสินใจ ขณะเดียวกันก็เคี่ยวเข็ญให้ลูกอยู่ในร่องในรอย
งานวิจัยที่สอบถามเด็ก 10,000 คน พบว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบชาญฉลาดจะมีผลการเรียนดีกว่า พึ่งพาตัวเองได้มากกว่า วิตกกังวลหรือซึมเศร้าน้อยกว่า ทั้งนี้ตัวพ่อแม่ก็ต้องเผยความทรหดออกมาให้ลูกเห็นด้วย เพื่อเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตให้กับลูก
- กิจกรรม 'นอกห้องเรียน"ฝึกความเพียรให้เด็ก ๆ
ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าเด็กที่ท่ากิจกรรมนอกห้องเรียนจะทําได้ดีกว่าในทุกด้านที่วัดได้ เช่น ผลการเรียนดีกว่า, มั่นใจมากกว่า, สร้างปัญหาน้อยกว่า คำแนะนำสำหรับพ่อแม่คือ “จงมองหาสิ่งนอกห้องเรียนที่ลูกน่าจะชอบแล้วไปสมัครให้พวกเขาเข้าร่วม"เพื่อให้เด็กพัฒนาความทรหดจากการทําสิ่งยาก ๆ ที่เขาสนใจ ทั้งนี้ เมื่อให้เด็ก ๆ ได้ลงมือทาบางอย่างแล้ว ก็ควรให้ท่าต่อเนื่องอย่างน้อยให้ไปจนถึงสิ้นสุดช่วง เช่น เรียนให้จบคอร์สตามที่จ่ายเพื่อฝึกให้เด็กมีนิสัยพยายามลงมือกว่าจนสําเร็จ ไม่ล้มเลิกง่ายๆ
- สำเร็จได้ไว ถ้าได้อยู่ใน"สังคม' ที่มีแต่คนเป็น
วัฒนธรรม คือบรรทัดฐานและค่านิยมที่คนกลุ่มหนึ่งมีร่วมกันและวัฒนธรรมที่เราใช้ชีวิตอยู่ก็มีพลังมหาศาลในการหล่อหลอมชีวิตเราทุกด้าน เนื่องจากสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์จะผลักดันให้เราพยายามปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับกลุ่มได้ ถ้าอยากเป็นคนทรหด ให้มองหาวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยความทรหด ถ้าผู้นําต้องการให้คนในองค์กรยันผู้นําก็ต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีความทรหดขึ้นมา โดยมีผู้นำเป็นแบบอย่างของความขยันหมั่นเพียร
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
บุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
โจรกลืนจี้มูลค่า 1 ล้านบาทลงท้อง ตำรวจรอให้ของกลางออกมาเอง
เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เจอคลื่นความหนาวเย็นรุนแรงและพายุหิมะถล่ม การเดินทางชะงักทั่วเมือง
(โคตรจริง!) ทำไมเพื่อนคุณถึง 'หลับใน 5 นาที' ได้ทุกที่? เปิด 3 'ความลับสมอง' ที่คน Overthinking ต้องรู้ก่อนเริ่มวันหยุด! 😴
เผยคำทำนาย "บาบา วานก้า" ปลายปี 2025 มนุษย์ต่างดาวอาจโผล่กลางงานฟุตบอลโลก



