การหนีโรงเรียน ที่สนุก และ บ้าระห่ำที่สุดในโลก รับรองสนุก และหลายคนก็อยากทำแบบนี้
เรื่องราวของเด็กชายทั้งหกจากตองกาเป็นหนึ่งในเรื่องราวการเอาชีวิตรอดที่น่าทึ่งที่สุดในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 1965 เมื่อเด็กชายอายุระหว่าง 13 ถึง 16 ปี ตัดสินใจหนีออกจากโรงเรียนและ “ยืม” เรือของชาวประมงเพื่อเดินทางจากตองกาไปยังฟิจิ
จุดเริ่มต้นของการผจญภัย
เด็ก ๆ ได้นำเสบียงอาหารติดตัวไปด้วย แต่พวกเขาพลาดท่าหลับไปในคืนแรก ขณะนั้น เรือถูกคลื่นซัดจนเสียหาย และพวกเขากลายเป็นผู้ลอยแพอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเวลาหลายวัน ก่อนจะถูกพัดไปเกยฝั่งบนเกาะร้าง ’Ata ซึ่งไม่มีผู้อยู่อาศัย พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่บนเกาะนี้นานถึง 15 เดือน
การปรับตัวและการเอาชีวิตรอด
ช่วงแรก เด็ก ๆ ต้องอาศัยอาหารจากธรรมชาติ ได้แก่ นก, มะพร้าว และปลา ต่อมาเมื่อพวกเขาปีนขึ้นไปบนหน้าผาหินสูง พบร่องรอยของที่อยู่อาศัยเก่า และแหล่งอาหารเพิ่มเติม เช่น ต้นกล้วย, เมล็ดพืช และไก่ป่า
เมื่อเริ่มตั้งหลักได้ พวกเขา สร้างกฎระเบียบของตัวเอง เช่น แบ่งงานกันเป็นคู่ ๆ
มีการทำโทษ (time-out) เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาท
จัดพิธีสวดมนต์และร้องเพลงทุกเช้าและก่อนนอน เพื่อให้กำลังใจกัน
พวกเขายังสามารถสร้าง ถังเก็บน้ำฝน, คอกไก่ และกองไฟถาวร เพื่อดำรงชีวิตให้ง่ายขึ้น
การช่วยเหลือและผลกระทบหลังจากนั้น
ในปี 1966 กัปตันปีเตอร์ วอร์เนอร์ (Peter Warner) จากออสเตรเลีย บังเอิญแล่นเรือผ่านและเห็นควันไฟที่เด็ก ๆ จุดขึ้น เขาจึงเข้าไปสำรวจและพบว่าพวกเขายังมีสุขภาพแข็งแรงดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับถึงบ้านเกิด เด็ก ๆ ถูกจับเข้าคุก เนื่องจากข้อหาขโมยเรือ วอร์เนอร์จึงช่วยปล่อยตัวพวกเขาโดยแลกกับสิทธิ์ในการสร้างสารคดีเกี่ยวกับเรื่องราวของพวกเขา
มรดกของเรื่องราวนี้
เรื่องราวของเด็ก ๆ บนเกาะร้างถูกนำเสนอในสารคดีปี 1966 และถูกนำมาเขียนใหม่โดยนักเขียน Rutger Bregman ในหนังสือ “Humankind: A Hopeful History” ซึ่งชี้ให้เห็นว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความร่วมมือและความเห็นอกเห็นใจ มากกว่าความขัดแย้ง
เหตุการณ์นี้ถูกเปรียบเทียบกับ “Lord of the Flies” (เจ้าชายน้อยและหมู่เกาะแห่งความโกลาหล) ซึ่งเป็นนิยายที่กล่าวถึงเด็กที่ติดเกาะและลงเอยด้วยความขัดแย้งและความโหดร้าย แต่ในความเป็นจริง เด็กชายตองกากลับพิสูจน์ว่ามนุษย์สามารถสร้างสังคมที่เอื้อเฟื้อและมีระเบียบได้แม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
เรื่องราวของพวกเขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานศึกษาด้าน พฤติกรรมมนุษย์, การเอาตัวรอด และความเป็นอยู่ร่วมกันในสภาวะสุดขั้ว

















