รีวิวหนังดัง AVP ALIEN VS PREDATOR เอเลี่ยน ปะทะ พรีเดเตอร์ สงครามชิงเจ้ามฤตยู
มหากาฬแห่งนักล่า อสุรกายร้ายที่มนุษย์ยากจะเอาชนะทั้งสองสายพันธุ์อย่าง ALIEN และ PREDATOR โคจรมาพบกัน ความโหดดิบจึงบังเกิด และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทางสตูดิโอกล้าพอที่จะทำในสิ่งที่แฟนคอหนังอยากเห็นอะไรแบบนี้มานานแล้ว
ผลงานการกำกับโดย Paul W.S. Anderson ผู้กำกับสายเกมเมอร์ที่ได้เคยฝากผลงานอย่าง Resident Evil 6 ภาค และ MONSTER HUNTER (2020)
เรื่องย่อ
Charles Bishop Weyland ผู้บริหารของบริษัท Weyland Yutani ต้องการสำรวจพีระมิดลึกลับใต้พื้นน้ำแข็งลึกลงไป พร้อมระดมทีมผู้เชี่ยวชาญครบทีม ทั้งนักโบราณคดีและนักสำรวจ
แท้จริงแล้วที่นี่เป็นสถานโบราณของพวก Predator ที่เดินทางด้วยยานจากต่างดาว เมื่อรู้ว่าพีระมิดถูกพวกมนุษย์บุกรุก พวกมันก็จ้องเชือดเล่นงานทีละคน พร้อมกับดักประตูกลที่สุดอันตราย กลายเป็นเขาวงกตมรณะ
ข้างใต้พีระมิดยังมี Queen Alien ที่ถูกจองจำล่ามโซ่แน่นหนา ซึ่งถูกปลุกจากการแช่แข็งโดยบังเอิญ พร้อมวางไข่ให้กำเนิดฝูง Alien อีกครั้ง
Alexa Woods หญิงสาวผิวสีหนึ่งในคณะเดินทางจะต้องใช้ไหวพริบในการพาทุกคนในทีมเอาตัวรอดออกจากที่นี่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวพวกนี้มันคืออะไรกันแน่
นักแสดงนำ
- Sanaa Lathan รับบทเป็น Alexa Woods
- Lance Henriksen รับบทเป็น Charles Bishop Weyland
- Raoul Bova รับบทเป็น Sebastian de Rosa
- Colin Salmon รับบทเป็น Maxwell Stafford
- Tommy Flanagan รับบทเป็น Mark Verheiden
- Ewen Bremner รับบทเป็น Graeme Miller
- Joseph Rye รับบทเป็น Joe Connors
- Agathe de La Boulaye รับบทเป็น Adele Rousseau
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.เป็นความแปลกใหม่ของตัวเนื้อหาที่ได้จับเอาสองตัวอสูรร้ายมาเจอกัน บทของหนังต้องรักษาความเป็นธรรมชาติ (Lore) ทั้งของ ALIEN ที่มีความลึกลับ แพร่พันธุ์เร็ว และ PREDATOR ที่มีอาวุธประจำตัวมากมาย มีความคิดอ่านที่ซับซ้อน ทำงานเป็นทีมได้ และทั้งสองสายพันธุ์นี้ก็โหดเหี้ยมกันทั้งคู่
2.หนังเอาใจ Fan service ทั้งสองฝ่าย การต่อสู้ที่ได้เผชิญหน้ากัน ทำให้ตอบไม่ได้เลยว่าใครแน่กว่าใคร หนังให้ความเสมอภาคกับสองอสุรกายอย่างเท่าเทียมและต่างฝ่ายต่างงัดจุดแข็งของตัวเองมาฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สวยงามแห่งปฐมบทการปะทะกันของ Alien และ Predator
3.บทของตัวละครของมนุษย์อ่อนมากและไม่มีประเด็นอะไรให้อยากติดตาม จนกระทั่งฉากทริลเลอร์แบบไล่ล่าเริ่มขึ้น ความสนุกจึงบังเกิด ระหว่างทางของการอารัมภบทนั้นไม่มีอะไรที่น่าติดตาม จะมีก็เพียงแต่วลีเด็ด(คำคม)ระหว่างการสนทนา เช่น ปืนก็เหมือนถุงยาง มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี
4.Visual Effect และการออกแบบฉากถือว่าทำได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน จะขาดก็เพียงแต่มุมกล้องสวยๆเท่านั้นเอง หนังฟอร์มยักษ์ระดับนี้อยากให้มีอะไรที่มากกว่า Jump Scare ซึ่งตัวผู้กำกับอย่าง Paul W.S. Anderson แกก็ชอบทำหนัง Jump Scare เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเสียด้วย
5.ความสนุกของหนังอยู่ที่การต่อสู้กับการไล่ล่าดิ้นรนหนีตายเท่านั้น ที่เหลือจากนี้ไม่มีอะไรเท่าไหร่แล้ว ทำให้บทบาทของกลุ่มมนุษย์เป็นแค่ตัวชี้นำของเรื่องราว แต่ไม่อาจเป็นจุดขายที่คนดูจะให้ความสนใจ
6.ทั้งนี้ยังคงอยากให้มหากาพย์เรื่องนี้ยังคงมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆไม่ได้จางหายไปไหน แม้ระยะหลังแฟรนไชส์ของทั้งสองเรื่องจะไม่ได้ทำเงินมากมายอะไร แต่ครีเอเตอร์ก็ยังอยากเห็นกองทัพ ALIEN มาต่อกรกองทัพ PREDATOR สักครั้ง
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
"เบียร์ เดอะวอยซ์" แหวกอกใส่ชุดหนัง แต่พอหันหลังทำเอาหนุ่มๆ ตาโต
เปิดความลับ “เจสซี่” นางเอกหนังผู้ใหญ่ดาวรุ่ง ผู้ศัลยกรรม ‘สองลิ้น’ สร้างเสน่ห์สุดแปลกตา
เปิดวาร์ป "คินโจ ซาโอริ" แม่บ้าน F-Cup ที่มีหน้าตาคล้ายดารา สวยจนถูกสงสัยว่าเป็น "คนหรือ AI กันแน่
นางแบบลูกครึ่งหน้าใหม่ ผันตัวไปเป็นนางเอก A\/..งานนี้เทียบชั้นระดับตำนาน






