ส่งของไปอังกฤษต้องทำยังไงบ้าง มีการส่งวิธีไหนบ้าง?

ส่งของไปอังกฤษต้องรู้ข้อมูลอะไรบ้างที่จำเป็นในการส่งของไปต่างประเทศอย่างประเทศอังกฤษ เพื่อให้การส่งของไปยังประเทศอังกฤษสำเร็จแบบราบรื่นที่สุด!

การส่งของไปอังกฤษเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งพัสดุส่วนตัว การค้าขายออนไลน์ หรือการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามการส่งของไปอังกฤษไม่ได้หมายถึงแค่การแพ็คของและส่งออกเท่านั้น ยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าขนส่ง ภาษีศุลกากร กฎระเบียบเกี่ยวกับของห้ามนำเข้าไปอังกฤษ

ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศหรือแค่ต้องการส่งของไปให้ครอบครัวและเพื่อนฝูง เดี๋ยวจะช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงข้อควรระวัง เพื่อให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด

นำเสนอช่องทางในการส่งของไปอังกฤษ

การส่งของไปอังกฤษสามารถทำได้ผ่านหลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า งบประมาณ และระยะเวลาที่ต้องการให้สินค้าถึงปลายทาง โดยแต่ละช่องทางมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกช่องทางส่งพัสดุเป็นอังกฤษที่เหมาะสม จะช่วยให้การจัดส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• การส่งทางอากาศเป็นช่องทางที่รวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับพัสดุขนาดเล็กหรือสินค้าที่ต้องการความเร่งด่วนใช้เวลาน้อยที่สุด (โดยปกติ 2-7 วัน) ปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากความเสียหาย มีบริการติดตามสถานะพัสดุแบบเรียลไทม์ แต่อาจจะมีค่าขนส่งแพงกว่าช่องทางอื่น และมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักและขนาดของพัสดุ

• การส่งทางเรือเหมาะสำหรับการส่งของไปอังกฤษจำนวนมาก หรือพัสดุที่มีน้ำหนักมาก และไม่ได้เร่งด่วน มีค่าขนส่งถูกกว่าการส่งทางอากาศ เหมาะสำหรับสินค้าขนาดใหญ่หรือปริมาณมาก แต่จะใช้เวลานานกว่าทางอากาศ (ปกติ 4-8 สัปดาห์) และต้องจัดการเอกสารนำเข้า-ส่งออกให้ครบถ้วน 
• การส่งทางรถบรรทุกและรถไฟส่วนใหญ่ใช้สำหรับการกระจายสินค้าภายในยุโรป ไม่นิยมในการส่งของจากไทยไปอังกฤษมากนัก มีค่าขนส่งถูกกว่าทางอากาศ และเร็วกว่าเรือ เหมาะสำหรับสินค้าขนาดใหญ่ที่ต้องการกระจายไปยังหลายพื้นที่ในอังกฤษ 

วิธีคิดอัตราค่าส่งของไปอังกฤษแบบเบื้องต้น

การส่งของไปอังกฤษมีการคิดอัตราค่าขนส่งแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ น้ำหนัก ขนาด ประเภทพัสดุ และช่องทางการขนส่ง (ทางอากาศ ทางเรือ หรือบริการขนส่งด่วน) แต่โดยทั่วไปแล้ว ค่าขนส่งจะถูกคำนวณตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

• ค่าขนส่งคิดตามน้ำหนักจริงนับตามน้ำหนักของพัสดุเป็นกิโลกรัม (kg) หรือปอนด์ (lb) และคิดตามน้ำหนักเชิงปริมาตร หากพัสดุมีขนาดใหญ่แต่เบาอาจคิดราคาตามขนาดกล่องแทน โดยวิธีคำนวณน้ำหนักเชิงปริมาตร ถ้าเป็นของการส่งทางอากาศตัวอย่างกล่องขนาด 50 x 40 x 30 ซม. ÷ 5000 = 12 กก. หากน้ำหนักจริงของพัสดุคือ 10 กก. บริษัทขนส่งจะคิดราคาตาม 12 กก. เพราะเป็นน้ำหนักที่สูงกว่า 
• พัสดุส่งของไปอังกฤษบางประเภทอาจมีค่าขนส่งพิเศษพัสดุด่วนโดยจะคิดค่าบริการตามน้ำหนักจริงหรือปริมาตร โดยมีราคาสูงกว่าการส่งแบบปกติ แต่ใช้เวลาส่งสั้นกว่า (2-7 วัน) พัสดุไปรษณีย์คิดค่าบริการตามน้ำหนักจริงค่าขนส่งถูกกว่าแต่ใช้เวลานานกว่า (7-14 วัน) 
• ค่าขนส่งคิดตามประเภทบริการ เช่น การส่งทางอากาศคิดค่าขนส่งตามน้ำหนักจริงหรือปริมาตรโดยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 800-1,500 บาท/kg ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการมีระยะเวลา 2-7 วัน ถัดมาเป็นการส่งทางเรือ เหมาะสำหรับสินค้าหนักคิดค่าขนส่งตามตู้คอนเทนเนอร์หรือราคาต่อกิโลกรัม ใช้ระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ 
• ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่ต้องพิจารณา เช่น ค่าภาษีศุลกากรส่งของไปอังกฤษ สินค้าที่มีมูลค่าเกิน 135 ปอนด์ต้องเสีย VAT และภาษีนำเข้า คิดภาษีตามประเภทสินค้า เช่น เสื้อผ้า, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อาหาร และต้องคิดค่าธรรมเนียมเอกสารศุลกากร เช่น ใบอนุญาตนำเข้า

การคิดอัตราค่าภาษีในการส่งของไปอังกฤษ

เมื่อส่งของไปอังกฤษสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนอกจากค่าขนส่งแล้วก็คือ ค่าภาษีนำเข้า (Import Duty) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสินค้าถึงปลายทาง โดยการคิดภาษีจะขึ้นอยู่กับ มูลค่าพัสดุ ประเภทสินค้า และต้นทางการส่งสินค้า

• ภาษีนำเข้าจะถูกคิดเมื่อสินค้ามีมูลค่าเกิน 135 ปอนด์ (ประมาณ 6,000 บาท) และอัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับหมวดหมู่ของสินค้าผ่านสูตรการคำนวณภาษีนำเข้าค่าภาษีนำเข้า = (ราคาสินค้า + ค่าขนส่ง + ค่าประกันภัย) x อัตราภาษี (%)
• ภาษีมูลค่าเพิ่มในการส่งของไปอังกฤษถูกกำหนดไว้ที่ 20% สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ สูตรการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มคือ VAT = (ราคาสินค้า + ค่าขนส่ง + ค่าประกันภัย + ค่าภาษีนำเข้า) x 20%
• กรณีสินค้ามูลค่าต่ำกว่า 135 ปอนด์ (ประมาณ 6,000 บาท) สินค้ามูลค่าต่ำกว่า £135 ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า แต่ยังคงต้องเสีย VAT 20% ของขวัญที่มูลค่าต่ำกว่า £39 ได้รับการยกเว้น VAT และภาษีนำเข้า
• โดยปกติ ผู้รับปลายทางในการส่งของไปอังกฤษจะต้องเป็นผู้ชำระค่าภาษี เมื่อพัสดุถึงศุลกากรอังกฤษ เว้นแต่บริษัทขนส่งมีการรวมค่าภาษีมาให้ก่อน

การส่งของไปอังกฤษใช้เวลานานแค่ไหน

ระยะเวลาในการส่งของไปอังกฤษขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น วิธีการขนส่ง ประเภทของบริการ บริษัทขนส่ง และขั้นตอนศุลกากร โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางหลักได้แก่การส่งทางอากาศ ทางเรือซึ่งแต่ละแบบมีระยะเวลาแตกต่างกันดังนี้ 

ในการส่งของไปอังกฤษทางอากาศเป็นวิธีที่เร็วที่สุดเหมาะสำหรับพัสดุเร่งด่วนระยะเวลา 2-7 วันทำการเหมาะสำหรับพัสดุขนาดเล็ก เอกสาร และสินค้าราคาสูงมีระบบติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์บางบริการมี One-Day Delivery หรือ Next-Day Delivery กับอีกแบบคือขนส่งทางอากาศแบบปกติใช้ระยะเวลา 5-10 วันทำการ เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือปริมาณมาก ราคาถูกกว่าการส่งแบบ Express แต่ใช้เวลานานกว่า 

การส่งของไปอังกฤษทางเรือเหมาะสำหรับสินค้าจำนวนมากหรือพัสดุขนาดใหญ่ที่ไม่รีบด่วน ยกตัวอย่างการส่งแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์จะใช้ระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ส่งสินค้าจำนวนมาก เช่น การนำเข้าสินค้าธุรกิจ และการส่งแบบแบ่งตู้ ระยะเวลา 5-9 สัปดาห์ เหมาะสำหรับสินค้าจำนวนน้อยกว่า 1 ตู้คอนเทนเนอร์

แนะนำของต้องห้ามในการส่งของไปอังกฤษ

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ด่านศุลกากรของอังกฤษสินค้าที่ถูกห้ามส่งไปอังกฤษโดยเด็ดขาด ได้แก่ ยาเสพติดและสารต้องห้าม, อาวุธปืนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, วัตถุระเบิดและดอกไม้ไฟ, ของเหลวไวไฟและสารเคมีอันตราย, สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายอื่น ๆ นอกจากนี้ อาหารสดผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ นม ชีส และไข่ ก็อยู่ในขอบเขตที่ต้องได้รับการตรวจสอบ โดยแนะนำให้หาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนส่งของไปอังกฤษ