ความลับที่ทำให้สาวเวียดนามหุ่นดี
หลายคนเมื่อนึกถึงประเทศเวียดนาม ภาพหนึ่งที่คิดถึงคงจะเป็นภาพสาวเวียดนามในชุดอ๋าวหย่าย ซึ่งส่วนมากมักจะมีรูปร่างดี ตามรายงานโภชนาการระดับโลก อัตราการเป็นโรคอ้วน (BMI ≥ 30) กลุ่มผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ในเวียดนามอยู่ที่เพียง 3.3% เท่านั้น แม้แต่ญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นประเทศที่ผอมบางยังมี BMI อยู่ที่ 5% ในขณะที่อัตราการเป็นโรคอ้วนในยุโรปและสหรัฐอเมริกาสูงเกิน 30% ปัจจัยหลัก 4 ประการที่ส่งผลให้อัตราโรคอ้วนในเวียดนามต่ำมาก ได้แก่
ทานน้ำซุปเป็นประจำ
ชาวเวียดนามบริโภคซุปเป็นจำนวนมาก ในอาหารประจำวัน ซึ่งขัดแย้งกับความเชื่อโดยทั่วไปที่ว่า การทานซุปอาจทำให้อ้วนได้ง่าย การวิจัยแสดงให้เห็นว่ามื้ออาหารที่มีซุปเป็นหลักเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคอ้วนที่ลดลง
ผลการสำรวจในสหรัฐอเมริกาชี้ให้เห็นว่าผู้ที่ไม่ทานซุปมีความเสี่ยงที่จะมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนสูงกว่าผู้ที่ทานซุปเป็นประจำเกือบ 38% อาหารเวียดนามแบบดั้งเดิม เช่น เฝอ มักเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปใสๆ พฤติกรรมนี้ช่วยลดปริมาณแคลอรีที่รับประทานเข้าไปและช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
ทานผัก
เมื่อรับประทานอาหารเวียดนาม มักจะเห็นผักกาดหอมจานใหญ่วางอยู่บนโต๊ะ ผักกาดหอมเหล่านี้ไม่ใช่ของตกแต่ง แต่ชาวเวียดนามมักรับประทานคู่กับอาหารจานหลัก
การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่บริโภคผัก 4 จานขึ้นไปต่อวัน มีความเสี่ยงในการเพิ่มน้ำหนักลดลง 73% เมื่อเทียบกับผู้ที่บริโภคน้อยกว่า ผักกาดหอมมีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อรวมกับน้ำในซุปจะสามารถสร้างเจลาตินได้ จึงสามารถยับยั้งการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและคอเลสเตอรอลบางชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้บางคนจึงแนะนำให้กินผักให้มากก่อนที่จะกินแป้งและดื่มชาด้วยเพื่อช่วยในการสร้างเจลาตินและลดการดูดซึมแคลอรี่
ทานสารต้านสารอาหาร(anti-nutrient)
สารต้านสารอาหาร(anti-nutrient) ยังช่วยให้ชาวเวียดนามมีอัตราโรคอ้วนต่ำอีกด้วย สารต้านสารอาหารก็คือสารที่มีฤทธิ์ลดการดูดซึมสารอาหารต่างๆ เช่น กรดไฟติก กรดออกซาลิก และแทนนิน พบได้ในถั่วทั้งเมล็ด ผักโขม และผักตระกูลกะหล่ำ ส่วนผสมเหล่านี้สามารถยับยั้งเอนไซม์ย่อยแป้งและลดการดูดซึมน้ำตาล ซึ่งคล้ายกับผลของยาลดน้ำตาลในเลือด เช่น ถั่วขาวซึ่งมักพบในผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก คนเวียดนามมักบริโภคอาหารประเภทนี้เป็นอาหารประจำวัน ซึ่งทำให้ปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับลดลง และส่งผลให้ไขมันในร่างกายลดลงด้วย
มีการเคลื่อนไหวร่างกายมาก ในกิจกรรมประจำวัน
นอกจากพฤติกรรมการกินแล้ว คนเวียดนามยังเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศอีกด้วย เมืองต่างๆ ในเวียดนาม เช่น นครโฮจิมินห์ มีปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนัก บางครั้งการเดินจะเร็วกว่าการนั่งแท็กซี่
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนเวียดนามใช้เวลาอยู่ในบ้านเฉลี่ยเพียง 3.4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าในประเทศอุตสาหกรรมหลายๆ ประเทศมาก ดังนั้น ระดับกิจกรรมประจำวันของพวกเขาจึงสูง ทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ที่บริโภคก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้มีอัตราโรคอ้วนต่ำ
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
10 สิ่งต้องห้ามในรถยนต์ ที่อาจทำเงินรั่วและดึงดูดอุบัติเหตุ สายมูต้องห้ามพลาด
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ส่องเลขเด็ดรับปีใหม่: "อาจารย์น็อตตี้ ตำหนักปู่ใหญ่" งวด 2/1/69
บุกจับแล้ว 4 เมียนมา ยึดโดรน 10 ลำมูลค่า 7.5 ล้าน บินป่วนสุวรรณภูมิ
เขมรเรียกร้องให้ไทยหยุดโกหกเพื่อปกปิดการรุกราน
สะพานไม้ ตำนานของความแข็งแรงนั้นเกิดขึ้นจากความพยายามจะใช้งาน (สังขละบุรี)
ชายวัย 60 ปี กินแต่ "ของต้ม" หวังสุขภาพดี แต่กลับมีปัญหาสมองตื้อและความจำเสื่อม



