ชาวไทยหวั่น'นัคบา'ของชาวยิว!เกรงตั้งถิ่นฐาน!
จากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลได้ก่อปัญหาความวุ่นวายใน อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามที่มีกระแสข่าวอยู่สักพักหนึ่งแล้วนั้น ทำให้ชาวเน็ตรายหนึ่งเผยแพร่โพสต์แสดงความกังวลต่อสิ่งที่เรียกว่า 'นัคบาร์' ของชาวยิวหรือชาวอิสราเอล โดยได้โพสต์ข้อความดังนี้
.
อึ้ง! สัญลักษณ์เขตพันธสัญญายิวในปาย เร่งอัตรา "นัคบา" อพยพเจ้าของดินแดน
....การที่สื่ออิสราเอล และชาวยิวชวนกันมาท่องเที่ยวสถานที่ทั่วๆ ไปของไทย เหมือนคนชาติอื่นๆ นั้นย่อมไม่ผิด แต่สิ่งผิดปกติ มาจากที่พวกเขาชวนกันมา "ตั้งถิ่นฐาน" มุ่งหมายที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อย่างน่าแปลกใจที่ติดเขตแดนว้า พม่า
สิ่งบ่งชี้เด่นชัด คือ โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและความเชื่อ "โบสถ์" ที่ไม่ได้ทำประชาพิจารณ์คนในพื้นที่ และสัญลักษณ์สติ๊กเกอร์รูปแบบต่างๆ ภาพทหารบก , ทหารอากาศ อิสราเอล หน่วยต่างๆ , ขีดเขียน , และสร้างข้อความปลุกระดมความรุนแรงต่อสู้ , ความขัดแย้งต่างๆ นานา
QR code ติดต่อโฮมเสตย์ ร้านอาหารชาวยิว , ติดในสถานที่สาธารณะเปิดเผย เช่น เสาไฟฟ้า ตู้ดับเพลิง และตามสถานที่ต่างๆ จงใจกระทำผิดกฎหมายไทย อย่างโจ่งแจ้ง อย่างไม่เกรงกลัว บุกรุกเข้าไปในบ้านชาวไทยทำให้หวาดกลัว นี่คือ "เจตนา" สร้างอาณาเขต
ชาวยิวไปตั้งถิ่นฐานที่ไหน จะเริ่มจาก "โบสถ์ยิว" , และตามด้วย "โรงเรียน" พื้นฐานโครงสร้างทางสังคม , ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวยิวอพยพลงเรือราว 100,000 คน ไปขออาศัยเมืองท่าไฮฟา ปาเลสไตน์..เพียงปีเดียวก็งานเข้า
ปลูกฝังความเชื่อว่า "ดินแดนนั้นคือพันธะสัญญาของพระเจ้า" แล้วสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับผู้อยู่อาศัยท้องถิ่น บางคนเบื่อหน่ายไม่สงบสุขเหมือนเดิม ก็ขายที่ดินให้นอมินีชาวยิวถือครอง แล้วอพยพย้ายไปอยู่ที่อื่น นานวันเข้าชุมชนชาวยิวก็ขยายใหญ่ขึ้นจากไม่กี่หลัง ก็เป็นร้อยเป็นพัน
กลายเป็นพื้นที่ ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว ที่เอาเปรียบ และผูกขาด พวกเขาจะแย่งอาชีพ ธุรกิจ การค้า ใช้ทุนใหญ่บีบธุรกิจท้องถิ่นล้มไป เกิดการพิพาท บาดหมางขัดแย้งกับคนที่ไม่ยอมย้าย นำไปสู่การใช้กำลังคุกคาม
ทะเลาะวิวาทใช้กำลัง อาวุธทำร้าย เจ้าของดินแดน ถึงชีวิตและบาดเจ็บ กดดัน กดขี่ ใครทนไม่ไหวก็อพยพออกไป เรียกขั้นตอนนี้ว่า "นัคบา" จากนั้นชาวยิวจะแห่มายึดครองดินแดนนั้น ต่อสู้กับอำนาจรัฐ
ถึงจุดนี้สหรัฐ ที่ก็เป็นรัฐบาลชาวยิว จะเข้ามาแทรกแซง ทางการเมือง และความขัดแย้ง ทำข้อตกลงเขตปกครองพิเศษ เจ้าของดินแดนเดิมจะถูกขับไล่ถอยร่นหนี ครั้งแล้วครั้งเล่า เรียกว่า "นัคบา 2 , 3 , 4...สุดท้ายจะถูกบีบให้ไปอยู่รวมกันในพื้นที่เล็กๆ เรียกว่า "ฉนวน"
ชาวยิวเป็นแบบนี้มานานเป็นพันปี อยู่กับทุกประเทศในยุโรปไม่ได้ ถูกขับไล่กว่า 40 ครั้ง สุดท้ายอพยพไปยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ อ้างว่าเป็นพันธะสัญญาพระเจ้ามอบให้
แต่งตำราอ้างว่า มีกว่า 10 เชื้อสาย แยกกระจายไปทั่วโลก เช่น สหรัฐ , ยุโรป , เอธิโอเปีย , โมร็อคโก , อินเดียติดชายแดนพม่า ฯลฯ เป้าหมายเพื่อใช้คนเหล่านี้ไปช่วยรบทำสงครามรุกรานขยายดินแดนยึดครอง ช่วยชาวยิวด้วยกัน
เมื่อชาวยิวชอบ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เขามีโบสถ์ยิวแล้ว อยู่ในร้านอาหารของพวกเขา สมาคม Chabad กำลังระดมเงินบริจาคสร้างเป็นอาคารถาวร
คนไทยที่อื่นเมื่อไม่มีอัตลักษณ์มนต์เสน่ห์ชุมชนของปาย แต่มีชาวยิวเต็มไปหมด ก็จะไม่นิยมไปเที่ยวเหมือนเดิม ละทิ้งความสนใจ
ปี 2564 อ.ปาย แม่ฮ่องสอน มีชาวไทย 38,702 คน , แต่ปี 2567 ชาวไทยลดเหลือ 30,078 คน ( อยู่จริงราว 21,000 คน บางส่วนไปทำงานที่อื่น แต่ยังไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านออกไป)
เวลา 3 ปี ชาวไทย อ.ปาย ย้ายทะเบียนออกไปแล้ว 8,622 คน หรือ 22.2% แต่กลับเพิ่มชาวต่างชาติมาอยู่อาศัยทดแทน 5,366 คน คิดเป็น 17.8% ของทะเบียนชาวไทย
สรุปว่า..ชาวไทยย้ายออกในสัดส่วนมากกว่า ชาวต่างชาติย้ายเข้ามาอาศัยใน อ.ปาย นี่คือจุดเริ่มต้นของ "นัคบา" ย้ายเจ้าของดินแดน..ชาวไทยไม่ได้ต่อต้านยิว และเปิดกว้างทางศาสนาสำหรับคนไทย
ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาอย่างกัลยาณมิตร แล้วกลับบ้านไป เหลือทิ้งไว้ความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่คงไม่อาจยอมรับ "ผู้ตั้งถิ่นฐานชุมชนชาวยิว" จนกลายเป็น "ปายเลสไตน์" นั่นเอง
.
อย่างไรก็ตาม ได้มีบัญชีเฟซบุ๊กของผู้ซึ่งถูกเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในพื้นที่ ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวไว้ดังนี้
.
#ปัญหาเมืองปาย กับชาวอิสราเอล…
☀️ข้อความต่อไปนี้คือความเห็นส่วนตัวของผม..
***โปรดใช้วิจารณญาน***
และโปรดตัดประเด็นทางศาสนา และการเมืองออกก่อน…
ผมว่าตอนนี้.. เกิดความเข้าใจผิดในประเด็นของปัญหากันไปแล้ว
ประเด็นปัญหาหลักจริงๆ คือ…
♦️พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล
1. ไม่เคารพกฏบ้านกฏเมือง กฏกติกา ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรม ทั้งของชาวปาย และกฏหมายไทย จะด้วยความไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งมึน อันนี้ก็ไม่ทราบได้
2. ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น ทั้งของคนปาย คนไทย และชาวต่างชาติอื่นๆ
3. ไม่มีมารยาทในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนในสังคมที่อยู่ในพื้นที่ปาย
4. ใช้ชีวิตสบายๆ ตามใจตัวเอง นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่สนใจผลกระทบต่อคนรอบข้าง
5. ไม่เคารพสถานที่ เจ้าของพื้นที่ที่ตนเองใช้ชีวิตอยู่
6. ก่อปัญหามากมายในพื้นที่ เช่น เมาเละเทะ ทำลายข้าวของผู้อื่น ทะเลาะวิวาท ลักขโมย บุกรุกสถานที่ อุบัติเหตุบนท้องถนน ฯลฯ เป็นต้น
7. - ฯลฯ
ถ้าจะต้องอธิบายให้เห็นภาพ.. เช่น
- ขับขี่รถจักรยานยนต์(เช่า)ด้วยความเร็ว รวมกลุ่มกันหลายคัน ฝ่าไฟแดงบ้างแหละ ขับชิดซ้ายปาดเลี้ยวขวากะทันหัน ไม่เปิดไฟเลี้ยว อยากจอดกลางถนน กลางแยกก็จอด จอดกีดขวางทางจราจรก็จะจอด เฉี่ยวชนกับคนอื่นบ้าง เกี่ยวกันเองก็มี เพิ่มคดีให้ตำรวจทำ เพิ่มงานให้หมอ พยาบาล แทนที่จะต้องดูแลรักษาผู้ป่วยอื่น หรือผู้ป่วยตามหมอนัด
- ทำรถจักรยานยนต์(เช่า)เสียหาย ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้า จะยอมรับก็ต่อเมื่อเจอหลักฐาน ภาพตอนก่อนเช่ารถออกไป ยันภาพกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ ถึงจะยอมรับ
- แต่งกายไม่เหมาะสม ไม่เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น เดินถนนไม่ใส่เสื้อ ผู้หญิงใส่แค่บิกินี่หรือชุดฟิตเนส ร่อนทั่วเมือง ตักเตือนไปก็ไม่ใส่ใจ อ้างว่าอากาศร้อนเกินทน ซึ่งก็ควรไปอยู่ที่อื่นที่มันไม่ร้อน ที่มันสบายตัวกว่าอยู่ปายมั๊ย?
- สูบบุหรี่ สูบกัญชาในทุกๆที่ ในร้านอาหาร วัด สถานพยาบาล บนทางถนนสาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่าน หรือแม้แต่ขณะขับขี่รถจักรยานยต์ ไม่สนใจป้ายห้ามสูบ ไม่ใส่ใจว่ารอบข้างจะมีเด็ก ผู้สูงวัย หรือผู้ป่วยแต่อย่างใด
- ใช้บริการที่พัก กุเรื่องห้องพักไม่สะอาด ไม่สะดวกสบาย มีสัตว์ มีแมลงบ้างแหละ สรุปขอเงินคืน ขอลดราคา มีขนาดขอเปลี่ยนห้องแต่ต้องฟรี ไม่งั้นจะรีวิวให้เสียหาย เอาเข้าไป
- ทำทรัพย์สินของที่พักสกปรก เสียหาย แต่ไม่ยอมชดใช้ อ้างว่ามันพังอยู่แล้ว ของคุณภาพไม่ดี เก่าแล้ว มันเสียเอง ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่จ่าย
- เข้าไปใช้บริการร้านอาหารเป็นกลุ่ม เช่น ไปกัน 5-6 คน แต่สั่งอาหารแค่จานเดียว กินคนเดียว ทำให้ทางร้านขาดโอกาสสร้างรายได้ เพราะเสียเก้าอี้ที่นั่งไปฟรีๆ 4-5 ตัว แถมกินเสร็จก็นั่งแช่นาน ทางร้านก็เสียโอกาสจะรับลูกค้ารายใหม่ คิดง่ายๆ คนทั่วไป มา 5 คน สั่ง 5 จาน อย่างน้อยร้านต้องขายได้ 300 บาท ต่อเวลาประมาณ 30 นาที แต่นี่มา 5 คน สั่ง 1 จาน ร้านขายได้ 60 บาท แถมเสียเวลารับลูกค้าใหม่ไปเป็นชั่วโมง ลองคิดดู เงิน 60 บาทกับ 600 บาท มันต่างกันขนาดไหน?
- นำอาหาร เครื่องดื่มจากนอกร้านเข้ามานั่งกินในร้านโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของร้าน บางครั้งมีเพื่อนนั่งกินอยู่ในร้านแค่คนเดียว ก็ขนอาหารจากนอกร้าน ยกพวกกันมานั่งกินในร้าน 5-6 คน เท่านั้นไม่พอ ทิ้งขยะไว้ให้ทางร้านเก็บอีก
- เรื่องร้านอาหารอีกแหละ มีหัวหมอ กินจนจะหมดอยู่แล้ว เหลืออีก 1-2 คำ บอกไม่อร่อยบ้าง ไม่สะอาดบ้าง มีสิ่งแปลกปลอมในอาหารบ้างแหละ มามุกขอเงินคืน ขอไม่จ่าย หรือแค่ขอลดราคาก็ยังดี มุกนี้อย่างฮา
- ร้านอาหารอีกเรื่องที่เกิดเป็นประจำก็คือ อิ่มฟรี ชิ่ง ไม่จ่ายค่าอาหาร กินเสร็จ(แอบ)ลุกหนีออกจากร้านไปเลย ฝุ่นตลบ
- ผับ บาร์ ร้านไหนมีโต๊ะสนุ้กเกอร์ โต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง ก็ยกพวกแห่กันเข้าไป จองเล่นหน้าตาเฉย ไม่สั่งอะไรเลยก็มี บางทีก็เหมือนเดิม สั่งเครื่องดื่มขวดเดียว บ้างก็แค่น้ำเปล่าขวดเดียว ยกพวกเข้าไปเป็น 10 คน อะไรแบบนี้ คนอื่นหมดสิทธิ์เล่น ถ้าจะเล่นก็ต่อคิวยาวๆไป
- พากันบุกรุกเข้าไปในสถานที่ที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ เช่น ยกพวกกันเข้าไปในโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำ มีฟิตเนส มีลานกว้าง สนามหญ้า เข้าไปใช้สระ ใช้เครื่องออกกำลังกาย สูบบุหรี่ สูบกัญชา พกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากภายนอกไปดื่มกัน ปาร์ตี้ฉ่ำๆ ส่งเสียงดัง ไม่เกรงใจใคร ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้บริการ ตัวเองไม่ใช่ลูกค้าเลย ไม่เว้นแม้แต่สวนในบริเวณบ้านของชาวบ้านท้องถิ่น
- ดื่ม กิน ปาร์ตี้ เมาเละ แล้วก็เยี่ยว ขี้เรี่ยราดตามข้างทาง ตามท้องถนนไปเรื่อย ไม่เว้นแม้แต่หน้าบ้านคน ไปจนถึงทำลายทรัพย์สิน สิ่งของตามทางเรื่อยไป
- เมามากๆหน่อย ก็ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับทุกชนชาติ ไม่เว้นแม้แต่วิวาทกับพวกเดียวกัน
- ลักขโมย ไม่รู้ด้วยความคึกคะนอง หรือหมดตูดแล้วจริงๆ สิ่งของเล็กน้อยไปจนถึง ของมีค่า แค่ขนมห่อ โค้กกระป๋อง ก็ยังเอา
- ในสวนสาธารณะ ถ้าได้อยู่รวมกลุ่มกัน ก็ทั้งสูบกัญชา ดื่มแอลกอฮอล์ พูดคุยเสียงดัง ไร้ความเกรงใจผู้คนรอบข้าง สถานทึ่ และทิ้งซากขยะ เลอะเทอะไว้ให้ดูต่างหน้า
- โอยยยยย… ฯลฯ สาธยายไม่หมด
… ซึ่งพฤติกรรมต่างๆที่ผมกล่าวมานั้น คือเรื่องจริงที่ผมได้ไประงับเหตุมาจริง บางเหตุไประงับเหตุ บางเหตุได้จับกุมดำเนินคดีไป
มาต่อด้วยเรื่อง..
♦️ปริมาณชาวอิสราเอลในเมืองปาย
ตามข่าวที่ว่ามีชาวอิสราเอลมาเมืองปายกว่า 30,000+คน… ตอบว่า ใช่
แต่มันคือปริมาณที่มาเช็คอิน ลงทะเบียนตามกฏ ตม. มาในลักษณะท่องเที่ยว มาแล้วและก็ไปแล้ว
ที่มีอยู่ยาวจริงๆ ประมาณ 2,000-3,000 คน
และในจำนวนนี้ เป็นพวกเก่าแก่ อยู่มานานเนกาเล ก่อนจะเกิดปัญหาก็จะประมาณ 600-800 คน เพิ่งจะมาเพิ่มจำนวนมากขึ้นก็ประมาณ 1-2 ปีนี่เอง ซึ่งพวกเก่าแก่นี้แทบไม่เคยสร้างปัญหาอะไรเลย สงบเสงี่ยมเรียบร้อย ส่วนใหญ่ก็วีซ่าเกษียณ หรือพวกบั้นปลายชีวิตส่วนพวกมาใหม่เพิ่มเติม ก็จะเป็นพวกมีสามี ภรรยาเป็นคนไทย แล้วย้ายรกรากมาปักหลักใหม่ที่เมืองปาย มาประกอบอาชีพ มาทำธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ถูกฏหมายตามกฏหมายไทยเอื้ออำนวย ก็จะมีถูกใจ ไม่ถูกใจคนปายบ้าง คละเคล้ากันไป
พวกที่ก่อปัญหาส่วนใหญ่คือ พวกที่มาในสไตล์นักท่องเทึ่ยว ที่มาแล้วก็ไป ส่วนมากก็จะวัยรุ่นปลดทหาร มีเงินจากรัฐบาลอิสราเอลให้มา ก็ตรงดิ่งมาประเทศไทยเลย ตามรีวิวพวกรุ่นพี่ๆที่เคยมาก่อน ก็เที่ยวไปเรื่อยทั่วๆประไทยแหละ และหมุดสุดท้ายก่อนกลับ (ก่อนเงินหมด หมดตูดนั่นแหละ) คือเมืองปายนี่แหละ ก็เมืองปายอากาศดี ค่าครองชีพต่ำ ต่ำแบบถูกแสนจะถูก สะดวกต่อการใช้ชีวิตในยามกระเป๋าตังค์มันแบนมากๆแล้ว ก็ด้วยความเป็นวัยรุ่น มันก็คึกคะนองตามประสา ว่ากล่าวตักเตือนอะไรก็ไม่ฟัง ไม่สน ไส่รับ ไม่รู้ เหมือนสีซอให้ควายฟัง ฉันใดก็ฉันนั้น ได้คำตอบกลับมาแค่ Why Why Why และ Why…
นี่แหละคือปัญหาที่แท้ทรู..
ทีนี้มาว่ากันเรื่องปัญหาที่หลงประเด็นกันในขณะนี้..
♦️โบสถ์ยิว (Chabad) และการยึดครองดินแดนพันธะสัญญา
Chabad ก็คือสถานที่ประกอบศาสนกิจของชาวยิว มันก็แค่นั้น จะเทียบอ้างได้กับวัดไทยในต่างประเทศก็ไม่ผิด เวลาเราคนไทยไปเที่ยวหรือไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก เมื่อถึงวันสำคัญทางศาสนาพุทธ เราก็เข้าวัดนั้น เพื่อประกอบศาสนกิจ ชาวอิสราเอลก็เช่นกัน
ปัญหาที่เข้าใจผิดกันก็คือ เวลาเค้าจะแสดงความเคารพศาสดาของเค้า ก็จะมีการสวด และร้องเพลง และการร้องเพลงนี่แหละที่ทำให้เข้าใจผิดกันไปว่า เค้าปาร์ตี้กัน คนเยอะเสียงร้องเพลงก็จะดัง คนน้อยก็เสียงเบาๆ จบน๊ะ..
ส่วนการสร้างห้องใต้ดิน พวกผู้นำสวดเค้าก็ให้การมาว่ามันจะเป็นห้องลักษณะอ่างน้ำ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอะไรสักอย่าง อย่างในศาสนาพุทธก็จะมีแช่น้ำมนต์ล้างซวย ในศานาคริสต์ก็จะมีพิธีศีลจุ่ม อะไรทำนองนั้นรึป่าว นี่ก็ไม่ทราบได้ คงไม่ใช่ที่ซ่องสุม เก็บอาวุธอะไรๆหรอก
ส่วนเรื่อง.. ดินแดนพันธะสัญญา อะไรนั่น..
เลิกห่วงกันได้เลย กะอีแค่พื้นที่ประเทศเค้า เค้ายังสร้างความสุขอะไรไม่ได้เลย จะเอาปัญญาที่ไหนมาหาทำที่เมืองปาย ที่ประเทศไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเราก็เก็บข้อมูล ศึกษาข่าวสารของพวกเค้าตลอดเวลาอยู่แล้ว มีวิธีการควบคุม ตีกรอบ วางกฏเกณฑ์ มีแผนรองรับอยู่พอสมควร..
หรือถ้าพวกเค้าคิดจะทำจริงๆ ใครจะยอม..
ไม่ต้องห่วง..
ตอนนี้แค่ขอให้ชาวปายช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น เกิดเหตุอะไรให้รีบแจ้ง จะได้รีบดำเนินการทางคดี ส่งกลับประเทศไป ไม่เอาไว้.!!!
อย่าหวังเพียงผลประโยชน์(ส่วนตัว) หรือเงินทองเล็กน้อยที่เค้าหยิบยื่นให้..
อย่าหวังแค่ปรับเงิน 10 เท่า 100 เท่า แล้วก็เลิกรากันไป..
คุณต้องพร้อมเป็นเจ้าทุกข์ ผู้ร้องทุกข์ เพื่อเปิดทางให้ตำรวจได้ดำเนินการทางคดีต่อได้
ยื่นดาบมาให้สิ.. พี่จะฟันมันไม่เลี้ยงเลย
และสุดท้าย.. ขอฝากถึงบรรดาท่านๆผู้ใหญ่ ระดับผู้บริหารประเทศ
ช่วยทบทวนมาตรการ #พรีวีซ่า ด้วยครับ..
ถ้าจะฟรีวีซ่า หวังเพิ่มแค่จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ
เราก็จะได้นักท่องเที่ยว 5 บาท 10 บาท ไร้คุณภาพแบบนี้แหละครับ..
และไอ้ 5 บาท 10 บาทเนี่ย.. ไม่ได้มีแค่ชาวอิสราเอลเท่านั้นนะครับ..
ฝากด้วยครับท่านๆ..
เข้าใจตรงกันตามนี้นะครับ
#เพื่อเมืองปายสงบสุขดังเดิม..
#เพื่อเมืองปายของพวกเรา..
😊🙏
.
หลังจากกรณีนี้กลายเป็นกระแสข่าวซึ่งเป็นที่สนใจในวงกว้างแล้ว ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการอย่างไร แล้วความเป็นอยู่ของชาวอำเภอปายจะกลับมาสงบดังเดิมหรือไม่
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/share/p/18zUweth1i/
https://www.facebook.com/share/p/18oyyGXcW1/





















