Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานพระภูมิเจ้าที่ "เทวดาหรือผี?" "ทำไมต้องตั้งศาลเสาเดียว?"

เนื้อหาโดย karishma3629

ตำนานพระภูมิเจ้าที่

        พระภูมิคือผีหรือเทวดา?

            ผีบรรพบุรุษและเจ้าผีเป็นผู้ที่อยู่ต่ำจากเมืองฟ้าลงมา มีที่อยู่อาศัยและสภาพความเป็นอยู่แตกต่างจากเทวดาที่อยู่บนสวรรค์ คือเทวดาที่อยู่ในเมืองฟ้าจะมีหัวหน้าหรือผู้ปกครองที่แน่นอน เช่น เทวดาที่สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จะอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของพระอินทร์ มีการกล่าวกันว่า ก่อนที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะจุติลงมาเป็นมนุษย์ก็เป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต

            ส่วนผีบรรพบุรุษและเจ้าผีจะอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนหรือบนต้นไม้หรือในอากาศ ในบางครั้งคนก็จะไปสร้างที่อยู่อาศัยให้ พระภูมิเจ้าที่เป็นผีนอกบ้านที่ใกล้ชิดกับคนในละแวกบ้านที่ทุกคนต้องเคารพสักการะเวลามีงานที่เกี่ยวข้องกับคนในหมู่บ้านจะต้องจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางให้รับทราบ หรือจัดหาเครื่องเซ่นไปวางไว้ที่ศาลประจำหมู่บ้าน เมื่อเกิดเจ็บป่วยหรือมีความทุกข์ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ก็ใช้วิธีจุดธูปบนบานศาลกล่าวพระภูมิเจ้าที่

            ตามธรรมเนียมไทยจะมีศาลพระภูมิอยู่แทบทุกบ้าน ถือกันว่าการบูชาพระภูมิเป็นการสิ่งดี เพราะเมื่อบูชาแล้วจะได้ขอร้องอ้อนวอนให้พระภูมิช่วยป้องกันภัยพิบัติ กำจัดภูมิผีปีศาจอันจะมาเบียดเบียน กันกาลกรรณี ทำให้เจ้าของบ้านหรือหมู่บ้านนั้นๆ เกิดความสุขสวัสดี เจริญสถาพร

            แต่โดยนัยตรงกันข้าม ถ้าเจ้าบ้านไม่เคารพสักการะหรือไม่มีความยำเกรง เช่น เอาสิ่งของไปพิงหรือปาศาลพระภูมิ เอาสิ่งปฏิกูลไปเทไว้ ณ บริเวณศาลพระภูมิ พระภูมิท่านจะให้โทษ เช่น ให้คนในบ้านเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดความยุ่งยากจัญไร หรือถึงตายได้ด้วยเหตุนี้ คนไทยนับถือพระภูมิ ด้วยความหวังความสวัสดีมีชัย ดังนั้น ในการปลูกบ้านใหม่จึงมีพิธีติดตั้งศาลพระภูมิอาจจะก่อนหรือหลังพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็ได้

           

            ตำนานศาลพระภูมิ

         

         ประวัติความเป็นมาของพระภูมิตามสำนวนที่ 1

            เบื้องบรรพกาลนับตั้งแต่พรหมจุติและปฐมจินดา พระเจ้าทศราชสมบัติในกรุงพาลรทรงมีพระมเหสี มีพระนามว่า นางสันทาทุกเทวี มีพระราชโอรส 9 พระองค์ คือ พระชัยมงคล พระนครราช พระเทเพน พระชัยศพ พระคนธรรพ์ พระธรรมโหรา พระวัยทัต พระธรรมมิกราช พระทาษธารา ลำดับต่อมาเมื่อพระราชโอรสเติบโตเจริญวัยแล้ว พระเจ้ากรุงพาลี (พลีก็ว่า) ให้พรราชโอรสออกไปครอบครองภูมิสถานต่างๆ คือ

            1) เคหสถาน บ้านเรือน โรงร้านต่างๆ ให้พระชัยมงคลไปครอบครอง

            2) ประตู ป้อมค่าย บันได ให้พระนครราชไปครอบครอง

            3) คอกสัตว์ต่างๆ ให้พระเทเพนไปครอบครอง

            4) คลังเสบียง ยุ้งฉาง ให้พระชัยศพไปครอบครอง

            5) โรงพิธีการแต่งงานและเรือนหอ ให้พระคนธรรพ์ไปครอบครอง

            6) ภูเขา ป่า นา ท้องทุ่ง ให้พระธรรมโหราไปครอบครอง

            7) วัดวาอาราม ปูชนียสถาน ให้พระวัยทัตไปครอบครอง

            8) พืชพรรณธัญญาหาร อุทยาน สวนต่างๆ ให้พระธรรมมิกราชไปครอบครอง

            9) ห้วย หนอง คลอง บึง แม่น้ำ ลำธาร ให้พระทานธาราไปครอบครอง

            ครั้งจำเนียรกาลนานมา เมื่อพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลก พระองค์ทรงขอพื้นที่จากพระเจ้ากรุงพาลี 3 ก้าว เพื่อขอเป็นที่เผยแผ่คำสอนของพระองค์ เมื่อพระภูมิอนุญาตจึงแสดงอภินิหาร ก้าวย่างเพียง 2 ก้าวก็พ้นเขตพระภูมิ พระภูมิจึงไม่มีที่อยู่ต้องออกไปอยู่นอกฟ้า ได้รับความทุกข์ยากอดอยากอาหารเครื่องสังเวย จึงขอที่อยู่เดิมกลับคืนก็ได้รับพุทธานุญาต ทั้งได้พรอีกว่าผู้ที่จะทำการมงคลเกี่ยวกับพื้นดินต้องสักการะสังเวยพระภูมิก่อน จึงจะได้รับความสวัสดี คนทั้งหลายจึงต้องสักการะพระภูมิสืบมาจนบัดนี้

              

         ประวัติความเป็นมาของพระภูมิเจ้าที่สำนวนที่ 2

        เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับพระนารายณ์ในศาสนาพราหมณ์ คือ เมื่อท้าวทศราชเห็นว่าพระราชโอรสทั้ง 9 องค์มีพระชันษามากขึ้น ก็หารือกับหมู่อำมาตย์ข้าราชการน้อยใหญ่แห่งสวรรค์ปันส่วนให้พระราชโอรสทำหน้าที่ครอบครองพิทักษ์รักษาในสถานที่ต่างๆ ทำให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ต่อมาท้าวทศราชมีความโลภเกิดขึ้นอย่างไม่มีวันสิ้นสุด กอบโกยทรัพย์สินเงินทองของประชาชนมาเป็นของตนโดยไร้มนุษยธรรม และไม่คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษ ในที่สุดเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อนรู้ไปถึงพระอิศวร ท่านจึงบัญชาให้พระนารายณ์แก้ไข พระนารายณ์จึงแปลงกายเป็นพราหมณ์น้อยรูปร่างงดงามไปเฝ้าท้าวทศราชและนางสันทาทุก ทูลขอสถานที่ในเขตกรุงพาลีเพียง 3 ก้าว เพื่อจะได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เมื่อท้าวทศราชอนุญาตทำการหลั่งน้ำอุทกธาราเพื่อให้เป็นสิทธิตามคำขอ แม้แต่พระศุกร์ซึ่งเป็นอาจารย์ของท้าวทศราชจะพยายามแก้ไขไม่ให้เป็นไปตามที่ขอ แต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อเสร็จพิธีหลั่งน้ำอุทิศแล้ว พราหมณ์น้อยจึงคืนร่างเป็นพระนารายณ์ใช้อภินิหารก้าวย่างเหยียบลงบนแผ่นดินกรุงพาลีเพียง 2 ก้าวเท่านั้นก็หมดเขตแดนของเมืองพาลี จึงขับไล่ครอบครัวของท้าวทศราชให้ไปอยู่นอกเขตป่าหิมพานต์ ต้องทนทุกข์ยากลำบากแสนสาหัส จึงพากันไปเฝ้าพระนารายณ์สารภาพผิด และทูลขอที่อยู่อาศัยกลับคืนมาบ้าง เมื่อพระนารายณ์ได้ทราบคำวิงวอนที่ท้าวทศราชได้พรรณนาก็สงสาร จึงอนุญาตให้ครอบครัวของเจ้ากรุงพาลรทั้งหมดกลับเข้ามาอยู่บนแผ่นดินได้เหมือนเดิม แต่ไม่ได้ยกแผ่นดินให้ครอบครอง คือ จะกลับเข้ามาอยู่ได้ แต่ให้ปักเสาได้เพียงเสาเดียว และจะต้องรับหน้าที่ดูแลชาวบ้านร้านตลาดตามสถานที่ต่างๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ห้ามกลั่นแกล้งชาวบ้านชาวเมืองเหมือนดังเช่นแต่ก่อนมา

            ท้าวทศราชตกลงและให้คำมั่นสัญญากับพระนารายณ์ ให้สัจปฏิญาณว่าจะไม่ทำให้ผู้ใดได้รับความเดือดร้อน จะมีจิตใจที่บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์สุจริต และจะจงรักภักดีให้ความคุ้มครองดูแลเคหสถานบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ โดยที่จะไม่มีการเบียดเบียนหรือบิดพริ้วแต่ประการใด ถ้าหากว่าผู้ใดที่มีใจปรารถนาที่จะให้ตนได้ดูแลคุ้มครองเคหสถานบ้านเรือนและโรงร้านต่างๆ แล้ว ก็ให้ตั้งศาลไว้ในสถานที่นั้น ปักเสาไว้เพียงต้นเดียวตามคำที่องค์พระนารายณ์ทรงบัญชาให้ได้เป็นที่พักอาศัย แล้วใช้ผ้าแพรสามสีผูกประดับไว้ที่ศาลเพื่อที่จะได้เป็นสัญลักษณ์ จัดให้มีเครื่องเซ่นสังเวยตามที่จะเห็นสมควร จุดธูปเทียนดอกไม้บอกกล่าวเป็นการอัญเชิญ หรือถ้าหากว่ามีความต้องการที่จะบนบานอะไรในสิ่งไหนก็ขอให้ระบุในสิ่งนั้นตามความต้องการ เพียงเท่านั้นก็จะเข้ามา

            พระนารายณ์ทรงรับฟังคำสัญญาทั้งหมดจากท้าวทศราชพระภูมิพาลีแล้วทรงเห็นว่าคำพูดมีน้ำหนักพอที่จะเชื่อถือได้ และอีกอย่างหนึ่งก็ยังจะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านอีกเป็นจำนวนมากจึงทรงอนุญาต ปวงประชาราษฎร์จึงมีความร่มเย็นเป็นสุขสืบต่อกันมาเป็นทอดๆ ตั้งแต่บรรพบุรุษจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ แต่คนก็ยังเกรงกลัวกันมา เพราะท้าวทศราชมีอุปนิสัยโกรธง่าย ไม่ถูกใจอะไรนิดก็โกรธ ถ้าโกรธจัดก็อาจหักคอที่ทำให้ท่านโกรธก็ได้ ทั้งๆ ที่คนนั้นเป็นคนพินอบพิเทาเอาใจท่าน เหตุนี้คนจึงต้องระวังท่านไว้ก่อนเป็นดี เข้าทำนองผัวดุเมียร้ายจึงกลัว ถ้าผัวใจดีก็ไปเหมือนกับพวกเทวดา เมียมักไม่กลัว ซ้ำจะคอยขี่คอผัวเอาเสียได้

         “ให้เจ้าที่หักคอ”

        เป็นคำพูดติดปากซึ่งใช้พูดกันถึงทุกวันนี้ อันเป็นคำยืนยันเชิงสบถในถ้อยที่กล่าว ผีในจำพวกเจ้าผีคนมักปลูกเป็นศาลให้ท่านอยู่ จะได้สะดวกแก่การบูชาและเซ่นเครื่องสังเวย ถ้าไม่มีใครสร้างศาลให้ท่านอยู่ ท่านก็จะสถิตของท่านตามเรื่อง ณ ที่ใดที่หนึ่งในท้องถิ่นอันเป็นเขตแดนของท่าน

       

       ต้องตั้งศาลเสาเดียวเท่านั้น?

 

        การตั้งศาลพระภูมิจะต้องมีเสาเดียวเสมอไป ถ้าใครทำศาล 4 เสาก็ถือว่าไม่ใช่ศาลพระภูมิ จะต้องเป็นพระอะไรอะไรต่ออะไรอื่นไป และผู้ที่รู้ก็รู้แค่เพียงเท่านั้นว่าศาลพระภูมิต้องมีเสาเดียว ก็อาจต้องแต่งเป็นเรื่องนิยายประกอบขึ้น อย่างต้นเหตุของชื่ออำเภอ ชื่อตำบล ชื่อเกาะ เป็นต้น

        ศาลพระภูมิเดิมนั้นเดิมทำด้วยไม้ มีพื้นลดหลั่นกันเป็น 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่ตั้งรูปเจว็ดของท่าน ชั้นล่างเป็นที่วางเครื่องสังเวย ซึ่งแต่เดิมเห็นจะเป็นที่วางเครื่องสังเวยสิ่งละอันพันละน้อย ภายหลังมีไก่ หัวหมู ปลาแป๊ะซะ และอะไรอีกมากมายตามความเจริญของเรื่องเหล่านั้น โดยเฉพาะที่อยู่ในกรุงในเมืองจึงต้องต้องมีการตั้งโต๊ะเป็นพิเศษสำหรับวางเครื่องสังเวยเหล่านี้ได้เพียงพอ ส่วนศาลพระภูมิเดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้น กลายเป็นกล่าด้วยซีเมนต์ทั้งเสาและตัวศาล ยิ่งกว่านั้นยังยกย่องพระภูมิให้อยู่ศาลเป็นวิมานชั้นฟ้าอย่างซึมซาบกัน คือมี 3 ช่อง 3 ยอดอย่างที่อยู่เทวดา เพียงเท่านั้ยยังไม่สะใจ แถมให้เป็นวิมานมียอดอย่างปราสาทขึ้นด้วยอีกชั้นหนึ่ง จนพระภูมิไม่ใช่เจ้าผี แต่กลายเป้นเทวดาผีฟ้า จนพระทั่งเป็นหัวหน้าเทวดาไป

        “พระภูมิกินไก่ ไก่กินปลวก ปลวกกินศาลพระภูมิ” เดี๋ยวนี้ปลวกกินศาลพระภูมิไม่ได้แล้วเพราะไม่ได้ทำด้วยไม้เหมือนก่อน ที่พระภูมิกินไก่ก็เพราะมีไก่ป่าซึ่งคนไปดักจับเอามาได้ และคนสมัยโน้นก็คงชอบกินไก่เหมือนกัน แต่คงไม่ได้กินบ่อยๆ อย่างเป็นอาหารประจำวันจึงต้องซัดว่าพระภูมิชอบกินไก่ไปด้วย คนจะได้มีโอกาสกินไก่ตามเสด็จ เดี๋ยวนี้พระภูมิได้กินไม่เฉพาะแต่ไก่เท่านั้น แต่ได้กินหมูกินปลาเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

ค้นคว้าและเรียบเรียงเนื้อหาโดย: karishma3629
ภาพ : pixabay , AI
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
karishma3629's profile


โพสท์โดย: karishma3629
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อีเวนต์ลุกเป็นไฟ !! สื่อแห่จับตา "ณิชา" สะบั้นรัก "โตโน่" ? ปมมือที่สามพริตตี้ทรงสะบึม10 อันดับ เลขขายดี สลากตัวเลขสามหลัก N3 งวด 2/5/68เลขเด็ด สำนักดัง เเม่ทำเนียน+สลากพารวย+สลาก5ภาค+โอเคล็อตเตอรี่ งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2568“นายกฯอิ๊งค์” แอดมิทเข้าโรงพยาบาลหลังกลับจากเยือนกัมพูชา พบมีไข้สูง สามีโพสต์ภาพพร้อมข้อความ “ใครเตือนไม่ฟัง ร่างกายเตือนแล้วว่าไม่ไหว”รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ และคติประจำวันนี้ก็คือ กล้วยเป็นต้นไม้ที่ดี ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ขอบคุณมากครับสูตรคำนวณ งวด 2/5/68สามีโพสต์ภาพ "นายกฯ อิ้งค์" แอดมิท เผยชัดร่างกายไม่ไหว เตือนแล้วแต่ยังฝืนแดดดีมีดีแค่ไหน? เข้าใจ “แสงแดด” ให้มากขึ้นก่อนจะกลัวหรือหลบมันจนเกินไปทรัมป์ยังคงหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อทำให้วอลล์สตรีทหวาดกลัวหารายได้ออนไลน์ 2025 ทำจริง ได้จริง ไม่โดนแกง!รีวิวหลวงพ่ออุลตร้าแมนงานดีนรกเรียกหาที่คุณควรมีสะสม"เขมรสายเคลม" ไม่หยุด! โพสต์เหล็กเส้นมีใช้ตั้งแต่โบราณ ชาวเน็ตฮาลั่น แซวแรง "ทันสมัยกว่ายุคโรมัน!"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นายกเข้าแอดมิดโรงพยาบาลกลางดึก! มีไข้สูงหลังกลับจากเยือนกัมพูชา“นายกฯอิ๊งค์” แอดมิทเข้าโรงพยาบาลหลังกลับจากเยือนกัมพูชา พบมีไข้สูง สามีโพสต์ภาพพร้อมข้อความ “ใครเตือนไม่ฟัง ร่างกายเตือนแล้วว่าไม่ไหว”สร้างพลังบวกในวันที่อยู่กับคน Toxicแดดดีมีดีแค่ไหน? เข้าใจ “แสงแดด” ให้มากขึ้นก่อนจะกลัวหรือหลบมันจนเกินไป“หนุ่ม อรรถพร” เปิดหมดเปลือก! ชีวิตดิ่ง งานหด-เงินหายทรัมป์ยังคงหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อทำให้วอลล์สตรีทหวาดกลัว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
สร้างพลังบวกในวันที่อยู่กับคน Toxicแดดดีมีดีแค่ไหน? เข้าใจ “แสงแดด” ให้มากขึ้นก่อนจะกลัวหรือหลบมันจนเกินไป“Affiliate Marketing” หาเงินแบบไม่ต้องมีของขายเอง!วิธีเช็ก "น้ำผึ้งแท้" หรือ "น้ำผึ้งปลอม" ทำอย่างไรบ้าง? แชร์ประสบการณ์จากคนที่เคยโดนหลอกมาแล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง