รีวิวหนังสือ เคล็ดลับจากพระพุทธเจ้าเรื่อง ความรัก
ความรักที่ดีระหว่างคู่ครองใครๆต่างก็ถวิลหา แล้วทำไมหลายคู่ประสบความสำเร็จพึงพอใจ หลายคู่ก็มาถึงจุดที่ต้องแยกทาง ไม่อาจทนอยู่ได้ หรือไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตามแต่ แม้จะเป็นสิ่งที่ขวางมรรคผลนิพพาน บ่มเพาะความเป็นตัวกู-ของกู แต่ความรักที่งดงามจะมีส่วนนำพาสู่การใช้ชีวิตที่ดี
ความรักจึงมีการสอนจากพระพุทธเจ้าและมีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก แม้บางหลักการฟังดูไม่สอดคล้องกับความเป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่เชื่อได้เลยว่านี่คือสิ่งที่ทำให้ความรักยังคงดำรงอยู่ได้
ณัฐพบธรรม ผู้เขียนหนังสือธรรมะระดับ Best Seller จะมาบอกเคล็ดลับดังกล่าวที่พูดถึงความรักในพระไตรปิฎก หลายคนอาจไม่เคยรับรู้เพราะพระไตรปิฎกอ่านยาก หนังสือเล่มนี้คือคำตอบ
ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์
- ได้เรียนรู้ว่าอมนาปสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 18 พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ข้อ 458
หญิงที่ประกอบด้วยคุณสมบัติ 5 อย่างนี้ เพศตรงข้ามจะชอบ คือหน้าตาดี มีเงิน มีมารยาท ขยัน สามารถมีลูกให้ได้ (ใครที่ขาดคุณสมบัติบางข้อ สามารถพัฒนาคุณสมบัติข้ออื่นทดแทน)
- ได้เรียนรู้ว่ามนาปสูตร สูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 18 พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ข้อ 460
ชายที่ประกอบด้วยคุณสมบัติ 5 อย่างนี้ เพศตรงข้ามจะชอบ คือหน้าตาดี มีเงิน มีมารยาท ขยัน สามารถมีลูกให้ได้ (ใครที่ขาดคุณสมบัติบางข้อ สามารถพัฒนาคุณสมบัติข้ออื่นทดแทน)
- ได้เรียนรู้ว่าสมชีวิสูตรที่ 1 พระไตรปิฎกเล่มที่ 21พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ข้อ 55
สามีภรรยาที่มีศรัทธามีศีลธรรม มีใจยินดีในการให้ทาน มีปัญญาในระดับใกล้เคียงกันจะมีโอกาสได้พบเจอกันทั้งในชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป (ถ้ามีศรัทธา, ศีลธรรมต่ำพอ ๆ กัน ก็จะเจอกันเช่นกัน)
สามีภรรยา ที่ทั้งคู่ต่างก็มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ชอบทำทาน ปฏิบัติตนตามธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน พูดจาดีต่อกันและกัน รักใคร่กันมาก มีศีลพอ ๆ กันย่อมมีความเจริญรุ่งเรือง มีความสุขทั้งสองฝ่าย พอตายไปก็จะได้ขึ้นสวรรค์ด้วยกัน (ส่วนผู้ที่ทำตรงกันข้ามก็จะได้ผลตรงกันข้าม เจอกันก็จะมีความทุกข์ และมีโอกาสเจอกันในนรก)
- ได้เรียนรู้ว่าสิงคาลกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 11พระสุตตันตปิฏก ชนิกาย ปาฏิกวรรค ข้อ 201
ดูกรคฤหบดีบุตร ภรรยา ผู้เป็นทิศเบื้องหลัง อันสามีพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ
ด้วยยกย่องว่าเป็นภรรยา ๑
ด้วยไม่ดูหมิ่น ๑
ด้วยไม่ประพฤตินอกใจ ๑
ด้วยมอบความเป็นใหญ่ให้ ๑
ด้วยให้เครื่องแต่งตัว ๑
ดูกรคฤหบดีบุตร ภรรยา ผู้เป็นทิศเบื้องหลัง อันสามีบำรุงด้วยสถาน ๕ เหล่านี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยสถาน ๔ คือ
จัดการงานดี ๑
สงเคราะห์คนข้างเคียงของตัวดี ๑
ไม่ประพฤตินอกใจผัว ๑
รักษาทรัพย์ที่ตัวหามาได้ ๑
ขยัน ไม่เกียจคร้าน ในกิจการทั้งปวง ๑
กล่าวคือ สามี ควรให้การยกย่องภรรยา ไม่ควรดูหมิ่น ไม่นอกใจ ให้ความเป็นใหญ่ในบ้านและให้เสื้อผ้าเครื่องประดับ ส่วนภรรยาก็ควรจะจัดการงานบ้านเป็นอย่างดี ดูแลลูกน้องของสามี ไม่นอกใจ ช่วยรักษาทรัพย์สินของสามีและไม่เกียจคร้าน
ได้เรียนรู้ว่าอุคคหสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ข้อ 3
เศรษฐีคนหนึ่ง ได้ขอให้พระพุทธเจ้า สอนผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงาน แล้วไปอยู่ที่บ้านสามี พระพุทธเจ้าจึงได้สอนว่า
- ตื่นก่อนและนอนทีหลังพ่อแม่ของสามีและคอยดูแลรับใช้ท่าน พูดจาดี ๆ กับท่าน
- ให้ความเคารพ คนที่เป็นที่เคารพของสามี เช่น พ่อแม่ พระผู้มีศีล และต้องให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี
- เป็นผู้ที่จัดการงานดี คือ เป็นคนขยันไม่เกียจคร้านในการจัดการงานบ้านของสามีให้ดี
- ดูแลคนรอบข้างสามี คือ ดูแลบริวารหรือลูกน้องของสามีได้เป็นอย่างดี รู้ว่างานส่วนไหนของใครทำแล้ว หรือยังไม่ได้ทำ รู้ว่าใครป่วย ใครหายป่วย
- รักษาทรัพย์ของสามี คือ ช่วยจัดการทรัพย์สินที่สามีหามาได้ ช่วยดูแลรักษา ไม่เล่นการพนัน ไม่ลักทรัพย์ ไม่ดื่มกินของมึนเมา ไม่เอาแต่ใช้จ่ายผลาญทรัพย์สิน
- ได้เรียนรู้ว่ากริยาสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ข้อ 6
คู่ครอง 7 แบบ (ทั้งสามีและภรรยา ต่างก็สามารถนำไปพิจารณาตนได้)
ภรรยาที่เหมือนเพชฌฆาต หมายถึงภรรยาที่คิดร้ายต่อสามี ดูหมิ่นสามี ไม่ทำตัวให้เป็นประโยชน์ นอกใจ และอยากฆ่าสามี
ภรรยาที่เหมือนโจร หมายถึง ภรรยาที่ยักยอกเงินของสามี
ภรรยาที่เหมือนเจ้านาย หมายถึง ภรรยาที่ไม่ทํางานบ้าน ขี้เกียจ กินมาก ปากร้าย ข่มเหงสามีที่ขยันขันแข็ง
ภรรยาที่เหมือนเพื่อน หมายถึง ภรรยาที่มีศีลมีธรรม และตอนเห็นสามีก็จะรู้สึกดีใจเหมือนได้พบเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน
ภรรยาที่เหมือนเพชฌฆาต ภรรยาที่เหมือนโจร
ภรรยาที่เหมือนเจ้านาย เป็นคนทุศีล หยาบช้าเมื่อตายไปจะมีโอกาสตกนรก ส่วนภรรยา
ที่เหลืออีก 4 แบบ เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติเพราะมีศีลธรรม
- ได้เรียนรู้ว่าอาวณิกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 18 พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ข้อ 452 ว่าด้วยความทุกข์ของสตรี
- เมื่อแต่งงานก็ต้องไปอยู่บ้านของสามี ซึ่งต้องห่างไกลญาติพี่น้อง อีกประการหนึ่ง มาตุคามมีระดู อันนี้เป็นความทุกข์ แผนกหนึ่งของมาตุคาม ข้อที่ ๒ ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ
- เมื่อโตขึ้นก็จะต้องมีประจำเดือน
3.จะต้องตั้งครรภ์
4.จะต้องเป็นคนคลอดลูก
5.จะต้องใช้ร่างกายบำเรอให้ฝ่ายชายพอใจ (ผู้ชายควรจะเข้าใจความลำบากของผู้หญิงและเห็นใจ)
- ได้เรียนรู้ว่าสิงคาลกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 11 พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ข้อ 199
ลูกควรจะเลี้ยงดูพ่อแม่ ช่วยงานของท่าน สืบต่อวงศ์ตระกูล ปฏิบัติตนให้สมกับเป็นผู้ที่ควรได้รับมรดก และเมื่อท่านเสียไปแล้วก็ต้องทำทานและอุทิศบุญไปให้
ส่วนพ่อแม่ควรจะสอนลูกให้ทำบุญ ไม่ทำบาป ให้การศึกษา หาคู่ครองที่เหมาะสมให้ และให้เงินตามความเหมาะสม (เช่น ให้เงินใช้จ่าย ให้เงินทำบุญ ให้สินสอด)
- ได้เรียนรู้ว่าพระไตรปิฎกเล่มที่ 20 พระสุตตันปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต ข้อ 278
ถ้าพ่อแม่ยังไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา แล้วลูกสามารถทำให้ท่านมีศรัทธาได้ ถ้าพ่อแม่ยังไม่มีศีล แล้วลูกทำให้ท่านรักษารักษาศีลได้ ถ้าพ่อแม่เป็นคนตระหนี่ แล้วลูกสามารถทำให้ท่านมีใจยินดีในการทำทานได้ ถ้าพ่อแม่ยังไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง แล้วลูกสามารถทำให้ท่านมีได้ การกระทำแบบนี้เท่านั้นถึงจะสามารถทดแทนบุญคุณของพ่อแม่ได้อย่างเหมาะสม
จะเห็นได้ว่าแม้จะมีหลักในการครองเรือนจริง แต่ไม่มีวิธีใดที่จะบอกคนโสดว่าทำอย่างไรจึงจะครองรักกับคนที่เราอยากจะคบหาได้สำเร็จ กระนั้นความรักที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่ามันไม่เที่ยง มันแปรเปลี่ยนกันได้ แม้จะยาวนานเป็นสิบๆปีก็ตาม บางคู่อยู่กินกันจนสิ้นอายุขัย ฝ่ายหนึ่งตายจากไปก่อน นั่นก็ทำให้เห็นว่าความรักไม่เที่ยงอยู่ดี
หากเป็นไปได้ ถ้าเราสะสมอินทรีย์ในการฝึกฝนเจริญสติมากพอ อาจยกระดับให้ตัวเราพ้นกิเลสตัณหาจากความรักได้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องของความรักอีก



