สนามเด็กเล่นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังห้ามเด็กใช้มือถือในประเทศบราซิล

     ในเมืองริโอเดอจาเนโร เด็กๆกลับมาเล่นกันอีกครั้ง เหมือนเมื่อก่อน และ สมาธิในการเรียนของพวกเขา ก็ดีขึ้นหลังจากที่โรงเรียนและภาครัฐ เริ่มห้ามเหล่านักเรียน ใช้โทรศัพท์มือถือในเมืองนี้ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นมาตรฐานระดับประเทศไปแล้ว

     นักเรียนทั่วประเทศกว่า 200 ล้านคน เริ่มเปิดเทอมใหม่ด้วยการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในชั้นเรียนและช่วงพัก หลังจากที่ประธานาธิบดี "ลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา" ลงนามกฎหมายฉบับใหม่ เมื่อเดือนมกราคม 2025

     บราซิลซึ่งมีสมาร์ทโฟนมากกว่าจำนวนประชากร ได้เข้าร่วมกับประเทศต่างๆที่ใช้การห้ามดังกล่าว เพื่อแย่งอุปกรณ์จากมือของเด็กๆที่ติดโซเชียลมีเดีย

     "กามิลลี มาร์เกซ" วัย 14 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนประถม "มาร์ติน ลูเธอร์ คิง" ในเมืองริโอเดอจาเนโร กล่าวว่า "มันยากนะ เพราะเราติดมัน..." และ "ตอนนี้เราเริ่มคุยกันมากขึ้น หาอะไรเล่นด้วยกัน เพื่อแก้เบื่อ..."

     "กามิลลี มาร์เกซ" กล่าวอีกว่า "มีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง ถูกกลั่นแกล้งทางไซเบอร์" และ "เราไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะเรามุ่งเน้นไปที่โทรศัพท์ มากกว่าเพื่อน คุณรู้ไหม?"

     "ยูเนสโก" ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านวัฒนธรรม และ การศึกษาของสหประชาชาติ กล่าวว่า "ในสิ้นปี 2024 ระบบการศึกษาทั่วโลก 40% มีการห้ามใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 30% เมื่อปีที่แล้ว"

     "เรนัน เฟอร์เรรินญา" เลขาธิการการศึกษาระดับเทศบาลของริโอ กล่าวว่า "เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าเด็กๆที่กลับมาที่ห้องเรียน หลังจากการระบาดของโควิด รู้สึกหงุดหงิด ใจร้อน ติดโทรศัพท์มือถือมากขึ้น และ วิตกกังวลมากขึ้น"

     การสำรวจผู้ปกครองในปี 2024 โดยบริษัทวิจัยดิจิทัลและแพลตฟอร์มอุตสาหกรรมมือถือ แสดงให้เห็นว่า "เด็กชาวบราซิลส่วนใหญ่ มีโทรศัพท์มือถือเครื่องแรก เมื่ออายุเฉลี่ย 10 ขวบ" และ "ในขณะที่เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่งต่อวันกับสมาร์ทโฟน แต่เด็กอายุระหว่าง 13-16 ปี กลับเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4 ชั่วโมง"

     การศึกษาที่ดำเนินการโดย เทศบาลเมืองริโอเดอจาเนโร ในเดือนกันยายน 2024 แสดงให้เห็นถึงการที่นักเรียนมีสมาธิ การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน และ ผลการเรียนของนักเรียนดีขึ้น นับตั้งแต่มีการบังคับห้ามใช้มือถือในโรงเรียน

     "เฟอร์เรย์ รินญา" ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาของรัฐบาลกลาง ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้รายงานกฎหมาย ที่สั่งห้ามเด็กๆเล่นมือถือทั่วประเทศ กล่าวว่า "หากการควบคุมการใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นเรื่องยากสำหรับผู้ใหญ่ ลองนึกดูว่าเด็กจะเป็นอย่างไร มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ครู จะพยายามสอนในชั้นเรียน ในขณะที่เด็กกำลังดูวิดีโอบนโซเชียลมีเดีย หรือ เล่นเกมบนโทรศัพท์" และ "หลังจากที่ไปเยี่ยมโรงเรียนเมื่อเร็วๆนี้ เด็กคนหนึ่งบอกกับฉันว่า "พวกเรากลับมาเล่นเหมือน ที่เด็กๆทั่วไปทำในสมัยก่อน ซึ่งพวกเรารู้สึกมีความสุขมาก"

     "เฟอร์นันดา เฮเตอร์" วัย 46 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียน "มาร์ติน ลูเธอร์ คิง" ซึ่งมีนักเรียนอายุระหว่าง 6-16 ปี กล่าวว่า "ก่อนการมีกฎห้ามเล่นมือถือ โรงเรียนเหมือนไม่ใช่โรงเรียน เพราะพวกเด็กๆสนใจในมือถือของพวกเขา มากกว่าการเรียนในชั้นเรียนซะอีก" และ "หลังจากที่มีกฎหมายออกมา พวกเขาไม่ได้สัมผัสมือถือ ซึ่งมันดีกว่าก่อนหน้านี้เยอะมากๆเลยล่ะ เพราะพวกเขาตั้งใจเรียน และ เล่นกับเพื่อนๆ เหมือนเด็กสมัยก่อน ซึ่งพวกเขาดูมีชีวิตชีวามากขึ้น..."

     กฎหมายฉบับใหม่ของบราซิล อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา ในกรณีฉุกเฉิน และ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเขาและผู้ปกครองของเขา จะได้รับโทษทางกฎหมายอย่างหนัก...

     ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและเทคโนโลยี "ฟาบิโอ คัมปอส" กล่าวว่า "ถึงแม้ว่าผมจะเชื่อว่ากฎหมายมีความจำเป็น แต่ควรสอนให้นักเรียนใช้เทคโนโลยี อย่างมีความรับผิดชอบ" และ "บราซิลเป็นประเทศที่ไม่เท่าเทียมกัน นักเรียนจำนวนมากเข้าถึงเทคโนโลยีได้ เฉพาะที่โรงเรียนเท่านั้น ดังนั้นหากสิ่งนี้หมายความว่าโรงเรียน จะมีเทคโนโลยีน้อยลง นั่นก็ถือเป็นความล้มเหลว"

     "เปโดร เฮนริเก" วัย 11 ปี กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ ผมพกโทรศัพท์มือถือ มาโรงเรียนทุกวัน และ ใช้ที่บ้านบ่อยมาก" และ "ตอนนี้ผมคิดถึงโทรศัพท์มือถือนิดหน่อย" และ "หลังเลิกเรียนผมรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ เพราะผมจะได้เล่นมือถือที่บ้านนั่นเอง..."