รีวิวหนังดัง IN TIME ล่าเวลาสุดนรก

จะเกิดอะไรขึ้น..ถ้าชีวิตที่เรามีอยู่ไม่ได้ใช้เงินตราเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ใช้เวลาที่เป็นอายุขัยของเราเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนตอบแทน คนรวยมีชีวิตอยู่ได้เป็นล้านๆปี ขณะที่คนจนมีชีวิตอยู่แบบรายวัน ต้องทำงานเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อแบบวันต่อวันอย่างแท้จริง

ผลงานวิสัยทัศน์โดยผู้กำกับ Andrew Niccol นำแสดงโดย Justin Timberlake Amanda Seyfried และ Cillian Murphy

เรื่องย่อ

Will Salas คนงานในโรงงานใช้ชีวิตแบบวันต่อวันโดยมีเวลาเหลือ 23 ชั่วโมง ท่ามกลางค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวลามีค่าแพงขึ้นทุกวัน ครั้งหนึ่งเขาช่วยชีวิตชายนิรนามในบาร์จากพวกกลุ่ม Minuteman แก๊งอันธพาลรีดไถเวลา โดยมี Fortis เป็นผู้นำแก๊ง

ทั้งคู่รอดตายมาได้ และชายคนนั้นก็มอบเวลาให้ Will เป็นจำนวน 108 ปีเป็นการตอบแทน ซึ่งเป็นเวลาที่เหลือทั้งหมดของเขา เขาตั้งใจจะตายและอยากตายอยู่ก่อนแล้ว นั่นทำให้ Will ต้องเลือกใช้เวลาอย่างชาญฉลาด

Will เดินทางมายัง New Green Wish เพื่อแสวงโชค เขาได้พบกับสาวสวยลูกคุณหนูอย่าง Sylvia Weis และการใช้เงินของ Will ก็สูงผิดปกติจนทำให้ Raymond Leon หัวหน้าจากเจ้าหน้าที่ Timekeeper เข้ามาตรวจสอบและเพ่งเล็งว่า Will ได้เวลาร้อยกว่าปีจากการขโมย

เมื่อความจริงของ Will พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ เขาจึงต้องหลบหนีพร้อมมี Sylvia เป็นตัวประกัน โดยเวลาของพวกเขาทั้งสองก็น้อยลงไปเรื่อยๆ

Sylvia ก็ต้องถามตัวเองอยู่ตลอดว่าความรักของเธอเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบหรือเป็นการหลงรักชายจากชุมชนชายขอบอย่างแท้จริง

นักแสดงนำ

• Justin Timberlake รับบทเป็น Will Salas
• Amanda Seyfried รับบทเป็น Sylvia Weis
• Cillian Murphy รับบทเป็น Raymond Leon
• Olivia Wilde รับบทเป็น Rachel Salas
• Alex Pettyfer รับบทเป็น Fortis

ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์

1.หนังสะท้อนความเหลื่อมล้ำได้ดี โดยเฉพาะในช่วงอารัมภบทองค์แรกของเรื่อง จะเห็นได้ว่าคนจนต้องตาย เพราะเวลาที่เหลืออยู่บนข้อมือเขาเหลือศูนย์ ขณะที่คนรวยมีชีวิตอมตะได้ หากเวลาบนข้อมือพวกเขามีมากขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้สะกิดใจคนดูไม่น้อย เพราะแม้ความเป็นจริงจะเป็นเรื่องของเงิน ไม่ใช่เวลา แต่ผลลัพธ์ก็ลงเอยแบบเดียวกัน

2.การแสดงของ Justin Timberlake ก็กลมกลืนและทรงพลัง เขาไม่ได้มีดีแค่การเป็นนักร้องเท่านั้น และเคมีก็เข้ากันได้ดีกับนางเอกอย่าง Amanda Seyfried อีกด้วย น่าเสียดายที่บทบาทของ Cillian Murphy ในฐานะเจ้าหน้าที่ Timekeeper น้อยไปหน่อย

3.ฉาก Action ยังขาดอรรถรสไปเยอะพอสมควร ด้วยคิวบู๊หรือการขับรถไล่ล่ายังไม่สาแก่ใจเท่าไรนัก แต่ถ้าพูดถึงการเน้นความสมจริงหรือความเป็นไปได้แบบไม่โม้หลุดโลกแล้วละก็...ในแง่นี้ถือว่าใช่ หนังอิงกับความเป็นไปได้ตามความเป็นจริงอยู่บ้าง

4.นอกจากนี้ประเด็นชวนติดตามก็ค่อนข้างอ่อน ไม่ค่อยมีเรื่องชวนลุ้นมากเท่ากับองค์แรกที่เป็นเรื่องในตอนต้น ทำให้การเฉลยปมของหนังในช่วงท้ายดูจืดจาง ไม่มีภาพจำชวนประทับใจ

5.สิ่งที่หนังยังพอทำได้ดีคือความรักระหว่าง Will กับ Sylvia ที่ดู Romantic อยู่พอสมควร บทไม่ได้ยัดเยียดความรักของเขาทั้งคู่ แต่เป็นการดิ้นรนเอาตัวรอดและช่วยเหลือกันระหว่างทาง ทำให้สิ่งที่พวกเขาเสน่หาเมื่อแรกเห็น มีค่ามากขึ้นทุกวัน แม้จะมีทะเลาะกันบ้าง...แต่พวกเขาก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน

6.โดยภาพรวมหนังมี Concept ที่น่าสนใจ เปิดเรื่องได้น่าติดตามชวนอินไปกับบริบทของตัวละคร อาจจะน่าเบื่อเพราะฉาก Action ยังทำไม่ถึง แต่ก็พออนุโลมได้บ้าง ซึ่งก็ยอมรับว่าน่าเสียดาย ไม่อย่างนั้นคงจะได้เป็นหนังที่ครองใจคนดูได้หลายกลุ่มมากกว่านี้