นิยายสั้น.จอมยุทธ 3 ตอน,ดาบบิน
ตอนที่ 1: เงาเพชฌฆาตแห่งหุบเขามังกรหลับ
หุบเขามังกรหลับ... นามที่ฟังดูสงบเงียบ ทว่ากลับซ่อนไว้ซึ่งกลิ่นอายแห่งความตายและความหวาดกลัว ชาวบ้านร่ำลือกันถึง "เงาเพชฌฆาต" จอมยุทธ์ลึกลับผู้ใช้ดาบเป็นอาวุธ สวมชุดคลุมสีดำสนิท ปิดบังใบหน้าไว้ภายใต้หน้ากากเหล็กเย็นเยียบ ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป รู้เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว ความตายจะมาเยือน
กลางดึกสงัด แสงจันทร์สาดส่องลงมากระทบกับยอดเขาสูงเสียดฟ้า ร่างสูงโปร่งในชุดคลุมสีดำยืนตระหง่านอยู่บนโขดหินใหญ่ ลมพัดโชยพากลิ่นดินและใบไม้ป่าขึ้นมาปะทะจมูก หน้ากากเหล็กสะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายวาววับ เขาคือ "เงาเพชฌฆาต" นามที่ผู้คนในยุทธภพต่างขนานนามด้วยความหวาดหวั่น
คืนนี้ เป้าหมายของเขาคือ "พยัคฆ์ทมิฬ" เฉินหลง หัวหน้าพรรคโจรภูเขา ผู้ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านมานานนับปี เฉินหลงเป็นจอมยุทธ์ผู้มีวรยุทธ์สูงส่ง ใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ ทั้งยังมีลูกสมุนฝีมือฉกาจอีกมากมาย การจะสังหารเขาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
เงาเพชฌฆาตกระโดดลงจากโขดหิน เคลื่อนไหวรวดเร็วดุจสายลม พริบตาเดียวก็หายลับเข้าไปในความมืดมิดของป่าทึบ เป้าหมายของเขาคือค่ายพักของพรรคโจรภูเขา ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา
เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงมไปทั่วบริเวณ ค่ายพักของพรรคโจรภูเขาเต็มไปด้วยแสงไฟจากคบเพลิง โจรภูเขาหลายสิบคนกำลังนั่งล้อมวงดื่มสุรา ส่งเสียงหัวเราะดังลั่น เฉินหลงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ทำจากหนังสัตว์ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยหนวดเครา ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยว จ้องมองไปยังลูกสมุนด้วยความพึงพอใจ
ทันใดนั้นเอง ลมก็พัดกระโชกแรง คบเพลิงหลายอันดับวูบลง ความมืดเข้าปกคลุมบริเวณโดยรอบ เสียงหัวเราะเงียบลงฉับพลัน โจรภูเขาทุกคนต่างชะงักงัน หันรีหันขวางด้วยความตื่นตระหนก
"ใคร?" เฉินหลงตะโกนถามเสียงดัง ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังความมืดมิดเบื้องหน้า
ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงความเงียบสงัดปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากความมืด รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ ดาบในมือวาดเป็นประกายสีเงิน พุ่งเข้าใส่เฉินหลงอย่างรวดเร็ว
เฉินหลงเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด ดาบใหญ่ในมือถูกชักออกมาตวัดสวนกลับไปอย่างรุนแรง
"แก!" เฉินหลงตะโกนลั่น เมื่อเห็นว่าผู้ที่บุกเข้ามาคือเงาเพชฌฆาต
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด ดาบปะทะดาบ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว โจรภูเขาทุกคนต่างพากันลุกขึ้นยืน เตรียมพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือหัวหน้าของตน
เงาเพชฌฆาตเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว ดาบในมือของเขาฟาดฟันราวกับพายุโหมกระหน่ำ เฉินหลงแม้จะมีพละกำลังมหาศาล แต่ก็ไม่อาจต้านทานความรวดเร็วของเงาเพชฌฆาตได้
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน โจรภูเขาหลายคนถูกดาบของเงาเพชฌฆาตฟันจนล้มลง
ในที่สุด หลังจากต่อสู้กันอย่างยาวนาน เฉินหลงก็พลาดท่า ถูกดาบของเงาเพชฌฆาตแทงเข้าที่หัวใจ ร่างของเขาทรุดฮวบลงกับพื้น เลือดสีแดงฉานไหลทะลักออกมา
เงาเพชฌฆาตยืนมองร่างไร้วิญญาณของเฉินหลงด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะหันหลังกลับและหายลับเข้าไปในความมืดมิด
**ตอนที่ 2: ดาบไร้น้ำตา ปริศนาแห่งสำนักเมฆา**
ข่าวการตายของพยัคฆ์ทมิฬแพร่สะพัดไปทั่วยุทธภพ สร้างความตื่นตะลึงและหวาดกลัวให้กับเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลาย ไม่มีใครรู้ว่าเงาเพชฌฆาตเป็นใครมาจากไหน รู้เพียงแต่ว่าเขาคือจอมยุทธ์ผู้มีวรยุทธ์สูงส่ง และดาบของเขาไม่เคยปราณีใคร
ในขณะเดียวกัน ณ สำนักเมฆา สำนักยุทธ์อันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน ศิษย์เอกของสำนัก "หลี่เฟยหลง" กำลังฝึกวิชาดาบอยู่กลางลานกว้าง
หลี่เฟยหลงเป็นชายหนุ่มรูปงาม อายุราว 20 ปี รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมคาย ดวงตาเป็นประกาย เขาคือศิษย์เอกของเจ้าสำนักเมฆา "ปรมาจารย์เมฆาขาว" ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งแห่งยุค
หลี่เฟยหลงฝึกวิชาดาบมาตั้งแต่เด็ก เขามีพรสวรรค์และความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า วิชาดาบของเขาจึงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนได้รับการขนานนามว่า "ดาบไร้น้ำตา" เพราะดาบของเขาไม่เคยหลั่งน้ำตาให้กับผู้ใด
วันนี้ หลี่เฟยหลงกำลังฝึกวิชาดาบขั้นสูงสุดของสำนักเมฆา "เพลงดาบเมฆาล่อง" ซึ่งเป็นวิชาดาบที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ
เพลงดาบเมฆาล่องเป็นวิชาดาบที่เน้นความพลิ้วไหว รวดเร็ว และแม่นยำ ผู้ที่ฝึกวิชานี้จะต้องมีสมาธิและความแน่วแน่อย่างสูง
หลี่เฟยหลงร่ายรำเพลงดาบอย่างสง่างาม ดาบในมือของเขาเคลื่อนไหวราวกับสายเมฆที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า เปลี่ยนแปลงพลิกแพลงไปตามกระแสลม
ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ ดาบในมือวาดเป็นประกายสีเงิน พุ่งเข้าใส่หลี่เฟยหลงอย่างรวดเร็ว
หลี่เฟยหลงรับรู้ถึงอันตราย เขาเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด ดาบในมือถูกชักออกมาตวัดสวนกลับไปอย่างรุนแรง
"เงาเพชฌฆาต!" หลี่เฟยหลงอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าผู้ที่บุกเข้ามาคือจอมยุทธ์ลึกลับที่กำลังเป็นที่กล่าวขานไปทั่วยุทธภพ
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด ดาบปะทะดาบ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว หลี่เฟยหลงใช้เพลงดาบเมฆาล่องเข้าต่อสู้กับเงาเพชฌฆาตอย่างสุดกำลัง
เพลงดาบเมฆาล่องของหลี่เฟยหลงพลิ้วไหวและรวดเร็ว ดุจสายเมฆที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่เงาเพชฌฆาตก็สามารถรับมือได้อย่างไม่ยากเย็น ดาบของเขาฟาดฟันราวกับพายุโหมกระหน่ำ
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยาวนาน ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ
ในที่สุด หลังจากต่อสู้กันอย่างดุเดือด หลี่เฟยหลงก็สามารถหาจังหวะโจมตีได้ เขาแทงดาบเข้าใส่เงาเพชฌฆาตอย่างรวดเร็ว
เงาเพชฌฆาตเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่ดาบของหลี่เฟยหลงก็เฉือนเข้าที่แขนของเขาจนเป็นแผล เลือดสีแดงฉานไหลทะลักออกมา
เงาเพชฌฆาตชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่จะหันหลังกลับและกระโดดหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลี่เฟยหลงมองตามร่างของเงาเพชฌฆาตที่หายลับเข้าไปในความมืดมิดด้วยความงุนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเงาเพชฌฆาตถึงบุกเข้ามาโจมตีเขา
"เจ้าสำนัก" หลี่เฟยหลงหันไปเรียกปรมาจารย์เมฆาขาวที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกล
ปรมาจารย์เมฆาขาวเดินเข้ามาหาหลี่เฟยหลงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"เฟยหลง เจ้าจงระวังตัวให้ดี เงาเพชฌฆาตผู้นี้ไม่ธรรมดา" ปรมาจารย์เมฆาขาวกล่าว
"ขอรับ ท่านอาจารย์" หลี่เฟยหลงตอบ
"ข้าจะสืบหาความจริงเกี่ยวกับเงาเพชฌฆาตผู้นี้เอง" ปรมาจารย์เมฆาขาวกล่าว "เจ้าจงฝึกฝนวิชาดาบของเจ้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเขาในอนาคต"
"ขอรับ ท่านอาจารย์" หลี่เฟยหลงตอบ
ปรมาจารย์เมฆาขาวพยักหน้า ก่อนที่จะเดินจากไป
หลี่เฟยหลงยืนอยู่กลางลานกว้างเพียงลำพัง เขาจ้องมองไปยังดาบในมือของตนเอง ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัว
เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น เขาจะต้องเอาชนะเงาเพชฌฆาตให้ได้
**ตอนที่ 3: ดาบพิชิตมาร การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย**
หลายเดือนผ่านไป หลี่เฟยหลงฝึกฝนวิชาดาบอย่างหนัก เขาพัฒนาเพลงดาบเมฆาล่องของตนเองจนถึงขีดสุด สามารถผสานลมปราณเข้ากับเพลงดาบได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในขณะเดียวกัน ปรมาจารย์เมฆาขาวก็ออกเดินทางสืบหาความจริงเกี่ยวกับเงาเพชฌฆาต เขาได้เบาะแสบางอย่างที่เชื่อมโยงเงาเพชฌฆาตเข้ากับ "พรรคมารสยบฟ้า" พรรคมารนอกรีตที่ถูกกำจัดไปเมื่อหลายสิบปีก่อน
พรรคมารสยบฟ้าเป็นพรรคมารที่ชั่วร้าย ใช้เวทมนตร์ดำและวิชาดาบมารในการเข่นฆ่าผู้คน พวกเขาเคยสร้างความเดือดร้อนให้กับยุทธภพเป็นอย่างมาก จนกระทั่งถูกเหล่าจอมยุทธ์ฝ่ายธรรมะร่วมมือกันกำจัดจนสิ้นซาก
ปรมาจารย์เมฆาขาวเชื่อว่าเงาเพชฌฆาตอาจเป็นศิษย์ที่รอดชีวิตของพรรคมารสยบฟ้า และเขากำลังวางแผนที่จะฟื้นฟูพรรคมารขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อได้เบาะแสที่แน่ชัด ปรมาจารย์เมฆาขาวจึงรีบกลับมายังสำนักเมฆา เพื่อแจ้งข่าวให้กับหลี่เฟยหลง
"เฟยหลง ข้าได้เบาะแสเกี่ยวกับเงาเพชฌฆาตแล้ว" ปรมาจารย์เมฆาขาวกล่าว "เขาคือศิษย์ของพรรคมารสยบฟ้า"
หลี่เฟยหลงตกตะลึงกับข่าวที่ได้รับ เขาไม่คาดคิดว่าเงาเพชฌฆาตจะมีเบื้องหลังที่น่ากลัวเช่นนี้
"เราจะต้องหยุดเขาให้ได้" หลี่เฟยหลงกล่าว "ก่อนที่เขาจะสร้างความเดือดร้อนให้กับยุทธภพ"
"ถูกต้อง" ปรมาจารย์เมฆาขาวกล่าว "ข้าได้ข่าวมาว่าเขากำลังซุ่มซ้อมอยู่ที่หุบเขาเพลิงเมฆา เราจะต้องไปที่นั่นเพื่อหยุดยั้งเขา"
หลี่เฟยหลงและปรมาจารย์เมฆาขาวออกเดินทางไปยังหุบเขาเพลิงเมฆาทันที
หุบเขาเพลิงเมฆาเป็นสถานที่รกร้าง เต็มไปด้วยหินผาและลาวาที่ไหลออกมาจากภูเขาไฟ บรรยากาศเต็มไปด้วยความร้อนระอุและกลิ่นกำมะถัน
เมื่อมาถึงหุบเขาเพลิงเมฆา หลี่เฟยหลงและปรมาจารย์เมฆาขาวก็พบกับเงาเพชฌฆาตกำลังยืนรออยู่
"ในที่สุดพวกเจ้าก็มา" เงาเพชฌฆาตกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"เงาเพชฌฆาต เจ้าจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำ" หลี่เฟยหลงกล่าว
"หึ เจ้าคิดว่าเจ้าจะหยุดข้าได้หรือ" เงาเพชฌฆาตกล่าว
"ข้าจะหยุดเจ้าให้ได้" หลี่เฟยหลงกล่าว
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้น หลี่เฟยหลงใช้เพลงดาบเมฆาล่องเข้าต่อสู้กับเงาเพชฌฆาตอย่างสุดกำลัง
เพลงดาบเมฆาล่องของหลี่เฟยหลงพลิ้วไหวและรวดเร็ว ดุจสายเมฆที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่เงาเพชฌฆาตก็สามารถรับมือได้อย่างไม่ยากเย็น ดาบของเขาฟาดฟันราวกับพายุโหมกระหน่ำ
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ
ในที่สุด หลังจากต่อสู้กันอย่างยาวนาน หลี่เฟยหลงก็สามารถหาจังหวะโจมตีได้ เขาผสานลมปราณเข้ากับเพลงดาบเมฆาล่อง แทงดาบเข้าใส่เงาเพชฌฆาตอย่างรวดเร็ว
เงาเพชฌฆาตไม่ทันตั้งตัว ดาบของหลี่เฟยหลงแทงทะลุหน้ากากเหล็กของเขา เลือดสีแดงฉานไหลทะลักออกมา
เงาเพชฌฆาตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างของเขาทรุดฮวบลงกับพื้น
หลี่เฟยหลงยืนมองร่างไร้วิญญาณของเงาเพชฌฆาตด้วยความรู้สึกโล่งใจ
ในที่สุด เขาก็สามารถกำจัดเงาเพชฌฆาตและปกป้องยุทธภพได้สำเร็จ
ปรมาจารย์เมฆาขาวเดินเข้ามาหาหลี่เฟยหลงด้วยสีหน้ายินดี
"เฟยหลง เจ้าทำได้ดีมาก" ปรมาจารย์เมฆาขาวกล่าว "เจ้าได้พิสูจน์แล้วว่าเจ้าคือจอมยุทธ์ที่แท้จริง"
หลี่เฟยหลงยิ้มรับคำชมของอาจารย์ เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เส้นทางแห่งจอมยุทธ์ของเขายังคงดำเนินต่อไป
**จบ**




