6 ปัญหาสุขภาพบ่งบอกว่าร่างกายกำลังขาดสารอาหาร และ วิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา
โรคขาดสารอาหาร เป็นภาวะที่ร่างกายขาดสารอาหารและอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา โดยอาจมีอาการ เช่น อ่อนเพลีย ผิวหนังมีลักษณะผิดปกติ กระดูกหยุดเจริญเติบโต หรือ มีภาวะสมองเสื่อม ซึ่งโรคขาดสารอาหารมักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอาหารหลักอย่าง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ หากร่างกายไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงที อาจมีอาการร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาเหตุของโรคขาดสารอาหาร
1.ปัญหาทางจิตใจ อาจส่งผลต่ออารมณ์และทำให้ความอยากอาหารลดลง อาการป่วยที่อาจทำให้ความอยากอาหารลดลง เช่น อาเจียน ท้องเสีย
2.โรคหรือภาวะที่ส่งผลต่อการดูดซึมและการย่อยอาหารของร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดธาตุบางชนิด เช่น โรคมะเร็งลำไส้ โรคเซลิแอค ภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล โรคโครห์น โรคลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดมีแผล
3.การใช้ยาบางชนิด ซึ่งอาจมีผลข้างเคียง เช่น ท้องเสีย อาเจียน เป็นต้น จึงทำให้ผู้ป่วยมีความอยากอาหารลดลง กินอาหารได้น้อยลง
6 อาการที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังขาดสารอาหาร
1.ผมร่วง ไม่เงางาม มักเกิดจากการขาดสารอาหารหลายชนิดเช่น โปรตีน (เนื้อสัตว์ นม ไข่) ธาตุเหล็ก (ผักใบเขียว ตับ) วิตามินบีต่างๆ (ธัญพืช ถั่ว จมูกข้าว ผักใบเขียว) สังกะสี (ผักโขม เมล็ดฟักทอง จมูกข้าว หอยนางรม) วิตามินเอ (แครอท ฟักทอง ฟักข้าว มะเขือเทศ บรอคโคลี่) วิตามินอี (ถั่วต่าง ๆ น้ำมันจากพืช อะโวคาโด) โอเมก้า3 จากน้ำมันปลา (อาหารเสริม)
2.อาการคันที่ผิวหนัง ผิวหนังแห้งลอก มักพบว่าสัมพันธ์กับผิวที่แห้งและไวต่อสิ่งเร้า
3.กระดูกพรุน กระดูกบาง มักพบในรายที่ขาดแคลเซี่ยมและวิตามินดี
4.หลงลืมง่าย อาการหลงลืมง่ายมักมีความสัมพันธ์กับระดับวิตามินบีรวมในร่างกาย บางครั้งอาจมีความสัมพันธ์กับระดับโฮโมซีสเทอีนที่มากเกินไป (กรดอะมิโนที่ร่างกายย่อยไม่ได้ มีพิษต่อระบบหลอดเลือดและสมอง)
5.เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย มักพบในรายที่ขาดวิตามินบีต่าง ๆ ธาตุเหล็ก แร่ธาตุโซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม
6.ท้องผูก มักพบความสัมพันธ์กับการกินเส้นใยจากพืชผักน้อยเกินไป และ มีความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร
การป้องกันโรคขาดสารอาหาร
1.ผมร่วง ไม่เงางาม กินไข่ อุดมไปด้วยโปรตีนสูงที่จะเป้นส่วนประกอบสำคัญของเคราติน ปลาแซลม่อน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จะพบในไขมันที่เคลือบบนหนังศรีษะ อีกทั้งยังมีวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก ผักโขมหรือผักคะน้า ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีผลดีต่อการบำรุงเลือด และ เนื้อเยื่อบริเวณรากผม
2.อาการคันที่ผิวหนัง เสริมด้วยวิตามินอี ถั่วต่าง ๆ น้ำมันจากพืช อะโวคาโด โอเมก้า3 จากน้ำมันปลา (อาหารเสริม) จะช่วยทำให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น
3.กระดูกพรุน กระดูกบาง เสริมด้วยการกินแคลเซี่ยมได้จาก งา ปลากรอบ ชีส นม เต้าหู้ บรอคโคลี่ ส่วนวิตามินดีสามารถเติมได้จากการรับแสงแดด (หลีกเลี่ยงแสงแดดเวลา 10.00-15.00) กินเห็ดหอม ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ไข่แดง และตับ
4.หลงลืมง่าย กินธัญพืช ถั่ว จมูกข้าว ผักใบเขียว โอเมก้า3 มี DHA บำรุงสมองซึ่งได้จากน้ำมันปลา หรือ การกินปลา เสริมวิตามินบี 6 กรดโฟลิค วิตามินบี 12
5.เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย สามารถเติมได้จากอาหารกลุ่มธัญพืช ผัก ผลไม้
6.ท้องผูก เติมจุลินทรีย์ชนิดที่ดี (Probiotics) ได้ จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นมเปรี้ยว โยเกิร์ต
โรคขาดสารอาหารสามารถช่วยป้องกันได้ด้วย การรับกินอาหารให้ได้สัดส่วน ครบถ้วนตามหลักโภชนาการให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงอย่างผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี กินอาหารจำพวกแป้งให้เพียงพอ เช่น ข้าว ขนมปัง มันฝรั่ง รวมถึงเนื้อสัตว์ เนื้อปลา ไข่ ถั่ว ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย หากิจกรรม งานอดิเรกทำเพื่อลดความเครียด จะช่วยให้มีสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรง






















