อาการหวาดกลัวหวาดระแวง
1.การได้ยินเสียง
2.สถานะการณ์ที่ต้องพบเจอโดยไม่ได้อยากพบเจอ
เช่นบุคคลอันตราย
3. การพูดเกี่ยวกับสิ่งที่น่ากลัว
4. การสร้างความน่ากลัวเพื่อใช้เป็นกลอุบายให้ผู้กลัวรู้สึก
5. คำพูดแค่ธรรมดาที่คนในครอบครัวพูดกับ คนที่ไว้ใจไม่ได้ คนที่นกสองหัว
6. การอยู่ในที่มืด
7. การที่มีคนนอกเข้ามาในบ้าน
8. การรู้ว่ามีคนเข้ามาในบ้าน เข้ามาในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาติ
9. การอยู่แบบเหมือนเป็นอากาศในครอบครัว
10. จากการที่มีคนนอกเข้ามายุ่งวุ่นวายกับคนในครอบครัว และพฤติกรรมของคนในครอบครัวแปลกไป คำพูด วาจาที่ใช้ แปลกจากเดิม
11. มีการได้เงินจากคนในครอบครัวไปโดยสร้างเรื่องร้ายก่อนเสมอ
12. มีอาการเหมือนโดนยาหรือสารบางชนิด ให้มีอาการอารวาสโวยวาย
13. ขณะที่คนเขียนเศร้าหรือร้องไห้ มีความกังวล ทุกข์ใจ หรือมีความคิดฆ่าตายตายเกิดขึ้น จะมีคนรอบตัวบางคนมีเสียงหัวเราะเสมอ และในทุกๆครั้งที่เราอยู่คนเดียวจะมีเสียงประหลาดดังขึ้นมาให้น่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นเสียงปืนอัดลม เสียงเครื่องเสียง เสียงเครื่องยนต์ และเสียงรถบนถนนจะมีเสียงที่ดังกว่าปกติเสมอ เสียงเครื่องตัดไม้ เครื่องตัดหญ้าที่ดัดแปลงเสียง กลายเป็นเสียงที่น่ากลัวในทุกๆวันที่จะต้องเจอ อาการที่มือสั่น ใจสั่น รู้สึกมีอาการที่หนักขึ้นกว่าเดิม การปิดหูจะช่วยได้แค่ในบางครั้งเท่านั้น
14. รถที่วิ่งเข้ามาที่หน้าบ้าน เสียงแตรรถ เสียงคนเรียกกัน เป็นเสียงที่น่ากลัว เหมือนหัวใจจะหยุดเต้น เหมือนใจหาย
อาการต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการ ไว้ใจเชื่อใจ
การเลี้ยงดูแลใครบางคนเป็นอย่างดีและใครอีกหลายๆคนก็ดูแลเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน แต่กับถูกหักหลังและถูกเหยียดหยามมองข้ามความรู้สึก เนื่องจากไร้ซึ่งผลประโยชน์ที่เคยได้รับ จึงนำสิ่งร้ายๆ เรื่องร้าย ภัยร้าย และความเชื่อร้ายๆ การกระทำที่ส่งผลต่อจิตใจ การกระทำของพวกเขาที่ทำจะมีเราเป็นตัวร้ายในทุกๆเรื่อง
เช่น เขาเอาลูกมาฝากไว้ให้เลี้ยงก็ช่วยรับเลี้ยง แต่เหมือนกับได้ยินว่านิสัยเหมือนเราเลยอะไรแบบนี้
น่าจะเป็นนิสัยไม่ดีรึอะไร คือไม่ได้เคยเสี่ยมสอนหรือพฤติกรรมไม่ดีสอนเด็ก แต่คำพูดการกระทำบ้างอย่างที่ทำให้เด็กกร้าวร้าว ก็น่าจะเป็นผลมาจากพ่อแม่ ไม่ใช่ลูกนิสัยไม่ดีโทษคนอื่น เป็นพ่อแม่เคยคึกษาหรือหาวิธีเลี้ยงลูกหรือป่าวเพราะนี่ก็ไม่เคยมีนิสัยกร้าวร้าวพ่อแม่มาก่อนจนกระทั่งต้องมาอยู่ในสถานะการณ์ย่ำแย่ในหลายๆเรื่องที่ก่อกันขึ้น จนทำให้ลูกคนนี้ไม่ไว้ใจพ่อแม่ กร้าวร้าวพ่อแม่เพื่อไม่ให้ไปยุ่ง ไม่ให้ไปช่วยเหลือใดๆพวกคนเหล่านั้นอีก เพราะคนที่ต้องตกอยู่ในภาวะที่แย่ที่สุดคือตัวคนเขียน ที่รู้สึกเหมือนพ่อแม่รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง ความหวังความฝันที่ตั้งใจจะทำให้พ่อแม่พังหมดเลย ทุกอย่างพังหมดจริงๆนะ เราเสียทั้งเวลา ที่หมดไปกับอะไรไม่รู้ที่มาคิดได้ที่หลังว่า เหมือนเลี้ยงงูเห่า เหมือนที่คนๆหนึ่งเคยพูดกับเราไว้ซึ่งก็เป็นคนอื่น เราไม่เคยเข้าใจอะไรในต้องที่ยังดีๆกัน มีคนถามว่าเลี้ยงงูเห่าทำไม อ่อคนๆนั้นคงต้องการสื่ออะไรบางอย่างให้รู้ แต่ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เราใช่คำว่าช่างแม่งบ่อยมากในช่วงนั้น แล้วสุดท้ายถ้าใช่มากเกินไปมันก็มีจุดที่ช่างก็อยู่แล้ว พอเราสติแตกตอนนั้นกลับมานึกเขียนถึงในตอนนี้เราก็ดูเหมือนคนบ้า เหมือนแบบคนคลั่งยาทำนองนั้นเลย คนที่ไม่เคยมีเรื่องใดๆกับใคร ไม่คิดร้ายต่อใครใดๆเลย ถ้าเคยรู้จักก่อนหน้านี้แทบจะไม่พูดคุยกับใครด้วย ไม่เคยสร้างปัญหา หรือนำปัญหาใดๆมาให้พ่อแม่หนักใจ มั่นใจในตัวเองที่หนึ่งเลยที่ไม่เคยทำสิ่งไม่ดีให้กับพ่อแม่ แต่กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้และเรื่องที่ไม่ได้เล่าอีกมากมายซึ่งเป็นปัญหาส่วนตัวแต่กับต้องเก็บไว้คนเดียว
จากอาการบ้าคลั่งโมโห ในตอนนั้น เหมือนถูกผีเข้า และถูกพาไปรักษาที่วัด และคลินิคจิตเวช
มันจึงเป็นเรื่องจำฝังใจ ถึงขนาดเข้ารับการรักษาอาการทางจิตเลยหรอ แค่เป็นคนพึ่งเคยโมโหหรือทนรับกับสถานการณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ไหว เนื่องจากรับรู้ถึงเรื่องราวในครอบครัวมาตั้งแต่แรกเริ่มการจัดการก็ไม่ใช้เรื่องยากสำหรับพวกเขา เนื่องจากไม่อยากเห็นเราเรียนจบ ซึ่งจะค่อยถามเดิมๆอยู่เสมอว่าเรียนจบยัง เรียนจบยัง เราก็พึ่งรู้ในวันนี้ว่าที่เขาถามนะเพราะจะได้เตรียมการจัดเรื่องให้เราได้เขาพบจิตเวชตามที่พวกเขาได้เคยขู่เคยพูดไว้เมื่อนานมาแล้ว ยังมีคำที่ยังติดอยู่อีกคืออย่าเรียนให้ได้เกรดที่สูงกว่าพวกเขาเพราะจะถูกอุ้มถูกลักพาตัว แล้วก็แนะนำที่เรียนให้ด้วยเข้าบอกว่าที่นี้คนโรคจิตเขาเรียนเยอะ แล้วเดี๋ยวพอโตไปก็ได้เรียน หลายคำพูดต่างๆ ก็ดูเหมือนว่าน่าจะคิดวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนแล้ว เรื่องเสื่อมเสียต่างๆที่ได้ยินในตอนเด็ก พอโตขึ้นคนจะพูดถึงเราแบบนั้น แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม เพราะมันเป็นเรื่องเล่าจากคนไม่ดีเล่าให้ฟัง สิ่งที่ได้ฟังก็เป็นเรื่องที่ไม่ดี ส่วนคนที่ดีเขาจะพูดถึงเราในทางที่ดีเรื่อง ที่ได้รับฟังก็จะเป็นเรื่องที่ดี
การที่เราทำตัวดีหรือทำตัวไม่ดีนั่นก็อยู่ที่ว่าคนคนนั้นคือใคร ต้องขออภัยในบางครั้งก็อยากที่จะไม่พูดคุยกับใครหรือให้ใครเข้ามาใกล้
เราก็กำลังปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นในแบบของเราอยู่นะ แต่ดูเหมือนว่าน่าจะปรับเปลี่ยนอยู่คนเดียว
คนเราสามารถเป็นคนผิดในความคิดคนอื่นได้นะ
แต่จำไว้ว่าทุกการกระทำ มีผลมาจากสิ่งๆหนึ่งเสมอ
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ........
สติ สติ สติ สติ สติ สติ
ขันติ ขันติ ขันติ ขันติ ขันติ
ไม่ว่าตอนจบจะเป็นยังไง แต่ตอนต่อไปขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ
จบการเขียนปุ๊ปประตูเปิดเองได้.....งงดีชีวิตอ่ะ ทั้งที่ก็กดล็อค
ใจสั่นต่ออีกรอบ...... ขนาดตั้งใจจดจอเขียนไปจนรู้สึกว่าสบายใจขึ้นมาบ้าง
( เหมือนมีคนอ่านในสิ่งที่เราพิมพ์อยู่เลย หน้าจอโทรศัพท์ก็ดูแปลกๆ แป้นพิมพ์เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำ และดูเหมือนว่าไอคอนใช้งานทั้งที่ยังไม่ได้ใช้)
(อย่าอ่านนะถ้ารู้สึกไม่ดี)
ขอโทษถ้าเป็นการเขียนที่ไม่ดี










