เจาะลึกครีมกันแดดทุกประเภท
เจาะลึกครีมกันแดดทุกประเภท
ในปัจจุบัน แสงแดดไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผิวมากมาย เช่น ริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ ผิวไหม้แดด และมะเร็งผิวหนัง ความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้ครีมกันแดดกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับทุกคน และเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดความงาม
การสร้างแบรนด์ครีมกันแดดให้โดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง จำเป็นต้องอาศัยการเข้าใจ ประเภทของครีมกันแดด รวมถึงข้อดี ข้อเสีย และสารสกัดที่นิยมใช้ในครีมกันแดดประเภทต่าง ๆ เพื่อพัฒนาสูตรที่มีเอกลักษณ์และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกข้อมูลเหล่านี้ เพื่อให้คุณสามารถสร้างแบรนด์ครีมกันแดดที่แตกต่างและโดดเด่นในตลาดได้
ประเภทของครีมกันแดด
ครีมกันแดดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ครีมกันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreen) , ครีมกันแดดแบบกายภาพ (Physical Sunscreen) และครีมกันแดดประเภทไฮบริด (Hybrid Sunscreen) แต่ละประเภทมีจุดเด่นและเหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
- ครีมกันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreen)
ครีมกันแดดที่ใช้ สารเคมี (Chemical Sunscreen) มีการทำงานที่แตกต่างจากครีมกันแดดประเภทฟิสิคอล โดยใช้สารเคมีเฉพาะที่สามารถดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นความร้อน ก่อนที่จะปล่อยออกจากผิวหนัง กระบวนการนี้ช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UV ทำลายผิวหนังในชั้นลึก จุดเด่นของครีมกันแดดประเภทนี้คือเนื้อสัมผัสที่บางเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการความสะดวกสบาย
ข้อดีครีมกันแดดประเภทเคมี (Chemical Sunscreen)
- เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว
- เหมาะสำหรับการใช้เป็นประจำทุกวัน
- สามารถใช้ร่วมกับเครื่องสำอางได้ดี
ข้อเสียครีมกันแดดประเภทเคมี (Chemical Sunscreen)
- อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะในผิวบอบบาง
- ต้องทาก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที
- บางสูตรอาจไม่คงทนต่อเหงื่อและน้ำ
ผู้บริโภคที่เหมาะกับครีมกันแดดประเภทเคมี (Chemical Sunscreen)
-
ผู้บริโภคที่ต้องการครีมกันแดดเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ครีมกันแดดแบบเคมีถูกออกแบบให้มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย และซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่ทิ้งความรู้สึกหนักผิว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเนื้อครีมที่เหนียวหรือทิ้งคราบบนผิว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความรู้สึกสบายผิวและใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน
-
ผู้บริโภคที่ต้องการครีมกันแดดที่สามารถใช้ร่วมกับการแต่งหน้าได้ดี ครีมกันแดดประเภทเคมีมักจะไม่มีปัญหาเรื่องการทิ้งคราบขาวหรือเนื้อครีมที่หนาเหมือนครีมกันแดดประเภทกายภาพ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ครีมกันแดดเป็นเบสเมคอัพก่อนแต่งหน้า เนื้อครีมที่ซึมซาบไวและไม่เป็นคราบช่วยให้เครื่องสำอางติดผิวได้ดีกว่าและมีความเรียบเนียน
-
ผู้บริโภคที่มีผิวธรรมดาหรือผิวผสม เนื่องจากครีมกันแดดแบบเคมีสามารถซึมลงสู่ผิวได้ดีโดยไม่อุดตันรูขุมขน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดาหรือผิวผสม ซึ่งต้องการการปกป้องจากแสงแดดในชีวิตประจำวันโดยไม่ทำให้รู้สึกหนักผิวหรือทำให้เกิดความมันส่วนเกิน
-
ผู้บริโภคที่ต้องการครีมกันแดดสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง ครีมกันแดดประเภทเคมีบางสูตรได้รับการออกแบบให้มีคุณสมบัติทนเหงื่อและน้ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ หรือการทำงานกลางแดด ตัวอย่างสารเคมีอย่าง Avobenzone และ Octinoxate ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ดีแม้ในสภาพที่มีเหงื่อหรือสัมผัสน้ำ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://pdl.co.th/types-of-sunscreen/
- ครีมกันแดดประเภทฟิสิคอล (Physical Sunscreen)
ครีมกันแดดประเภทที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุ เช่น Titanium Dioxide และ Zinc Oxide เป็นครีมกันแดดประเภท ฟิสิคอล (Physical Sunscreen) หรือเรียกอีกชื่อว่า Mineral Sunscreen ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนและกระจายรังสี UV ออกไปจากผิวหนังโดยไม่ให้รังสีซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิว
ข้อดีครีมกันแดดประเภทฟิสิคอล (Physical Sunscreen)
- อ่อนโยนต่อผิว เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
- ปกป้องได้ทันทีหลังทา
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB
ข้อเสียครีมกันแดดประเภทฟิสิคอล (Physical Sunscreen)
- เนื้อครีมค่อนข้างหนา อาจทิ้งคราบขาวบนผิว
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ร่วมกับเครื่องสำอาง
ผู้บริโภคที่เหมาะกับครีมกันแดดประเภทฟิสิคอล (Physical Sunscreen)
- เหมาะกับผู้บริโภคที่มีผิวแพ้ง่ายหรือบอบบาง
- เหมาะกับผู้บริโภคที่มีผิวบอบบางหรือผิวเด็ก
- เหมาะกับผู้บริโภคที่กังวลเรื่องการสะสมของสารเคมีในผิว
- เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการการปกป้องทันทีจากแสงแดด
- เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการปกป้องจากทั้ง UVA และ UVB
3.ครีมกันแดดประเภทไฮบริด (Hybrid Sunscreen)
ครีมกันแดดประเภทไฮบริด (Hybrid Sunscreen) เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยผสานคุณสมบัติเด่นของ ครีมกันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreen) และ ครีมกันแดดแบบกายภาพ (Physical Sunscreen) เข้าด้วยกัน ทำให้ได้ประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ดีเยี่ยม พร้อมเนื้อสัมผัสที่สบายผิวและเหมาะกับทุกสภาพผิว
ข้อดีครีมกันแดดประเภทไฮบริด (Hybrid Sunscreen)
- การปกป้องแบบครอบคลุม
ป้องกันทั้งรังสี UVA (ตัวการทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย) และ UVB (ตัวการทำให้ผิวไหม้แดด) อย่างมีประสิทธิภาพ - เนื้อสัมผัสที่ปรับปรุง
เนื้อครีมบางเบากว่าแบบกายภาพ และลดปัญหาคราบขาว - อ่อนโยนต่อผิว
ด้วยการใช้ส่วนผสมในปริมาณที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงการระคายเคืองที่อาจเกิดจากครีมกันแดดแบบเคมีล้วน - คงทนต่อเหงื่อและน้ำ
สูตรไฮบริดมักออกแบบให้มีความเสถียรและทนต่อเหงื่อและน้ำ
ข้อเสียครีมกันแดดประเภทไฮบริด (Hybrid Sunscreen)
- ต้นทุนการผลิตสูงกว่า
การผสานคุณสมบัติของสารกันแดดทั้งเคมีและกายภาพอาจทำให้ราคาสูงกว่าครีมกันแดดประเภทอื่น - ต้องเลือกสูตรที่เหมาะกับผิว
แม้ว่าจะอ่อนโยนกว่า แต่ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมาก ๆ อาจต้องเลือกสูตรเฉพาะที่ลดการใช้สารเคมี
ผู้บริโภคที่เหมาะกับครีมกันแดดประเภทไฮบริด (Hybrid Sunscreen)
- ผู้บริโภคที่ต้องการการปกป้องจากรังสี UVA และ UVB
- ผู้บริโภคที่มีผิวแพ้ง่ายหรือบอบบาง
- ผู้บริโภคที่ไม่ชอบคราบขาวจากครีมกันแดดฟิสิคอล
- ผู้บริโภคที่มีกิจกรรมกลางแจ้งหรืออยู่ในพื้นที่แสงแดดแรง
- ผู้บริโภคที่ต้องการเนื้อสัมผัสบางเบาและใช้ง่าย
ครีมกันแดดมีกี่รูปแบบ ? ต้องเลือกผลิตครีมกันแดด รูปแบบไหนดีที่สุด
ในปัจจุบัน ครีมกันแดด มีการผลิตออกมาหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยแต่ละรูปแบบมีลักษณะเฉพาะตัวทั้งในด้านเนื้อสัมผัส การใช้งาน และความเหมาะสมสำหรับกลุ่มเป้าหมาย การเลือกรูปแบบการผลิตครีมกันแดดที่เหมาะสมจึงไม่มีคำตอบที่ตายตัวสำหรับรูปแบบที่ดีที่สุด เนื่องจากความเหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น กลุ่มเป้าหมาย ตลาดที่ต้องการเจาะ และงบประมาณ อย่างไรก็ตาม การเลือกผลิตครีมกันแดดที่มีเอกลักษณ์และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณโดดเด่นและประสบความสำเร็จในตลาด
ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกรูปแบบการผลิตครีมกันแดด
1.อายุ ไลฟ์สไตล์ และสภาพผิวของกลุ่มเป้าหมาย
- กลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาว: ชอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ง่าย เช่น สเปรย์หรือเจล
- กลุ่มผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีผิวแห้ง: ครีมกันแดดแบบครีมให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะสม
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย: ครีมกันแดดแบบกายภาพที่อ่อนโยนและไม่มีสารระคายเคือง
2.ลักษณะการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย
- สำหรับการใช้งานประจำวัน: ครีมกันแดดแบบเจลหรือโลชั่นที่บางเบา
- สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งหรือกีฬาทางน้ำ: ครีมกันแดดแบบสเปรย์หรือแบบครีมที่ทนน้ำ
3.เนื้อสัมผัสและรูปแบบของผลิตภัณฑ์
- หากกลุ่มเป้าหมายต้องการความสะดวก: สเปรย์หรือแท่ง
- หากต้องการความชุ่มชื้นและการปกป้องที่ยาวนาน: แบบครีมหรือโลชั่น
4.ความเหมาะสมกับส่วนผสม
- ครีมกันแดดที่มีสารกันน้ำหรือสารให้ความชุ่มชื้น เช่น ไฮยาลูรอน มักเหมาะกับเนื้อครีมหรือโลชั่น
- สารกันแดดที่บางเบาและซึมซาบไว เช่น Tinosorb S มักเหมาะกับสูตรเจล
5.ข้อกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัย การผลิตครีมกันแดดต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น ค่า SPF/PA ที่ได้รับการทดสอบอย่างถูกต้อง และการจดทะเบียน อย.
6.ต้นทุนการผลิตที่ตั้งไว้
- รูปแบบครีมและโลชั่นมีต้นทุนที่ค่อนข้างคงที่
- สเปรย์หรือแท่งอาจมีต้นทุนการผลิตสูงกว่า เนื่องจากบรรจุภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน
7.การตลาดและความต้องการของผู้บริโภค การวิจัยตลาดช่วยให้ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายมีความนิยมในรูปแบบใด เช่น ปัจจุบันครีมกันแดดแบบสเปรย์กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่











