วัยทำงานความเครียดสูง ยิ่งเสี่ยงสโตรค หรือ โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง หรือ รู้จักกันในชื่อ Stroke เป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตรายถึงชีวิต สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย “ในปัจจุบันคนวัยทำงาน ต้องเผชิญกับความท้าทาย และ ปัญหาของชีวิตในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชีวิตส่วนตัว ปัญหาในที่ทำงาน ความรับผิดชอบทางการเงิน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเครียด ในบางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าปัญหาเหล่านี้จะสั่งสมจนก่อเกิดเป็นความเครียดสะสม ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดในสมองได้”
ความเครียดกับโรคหลอดเลือดสมองมีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน
ความเครียดกับโรคสโตรคมีความเกี่ยวข้องกัน เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด สมองและหัวใจจะถูกกระตุ้นให้ทำงานหนัก ฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) และ อะดรีนาลีน (Adrenaline) จะหลั่งออกมา ซึ่งเป็นการตอบสนองของร่างกายตามธรรมชาติ แต่หากมีความเครียดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ฮอร์โมนเหล่านี้อาจส่งผลให้ ความดันโลหิตสูง และ การเต้นของหัวใจผิดปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดหลอดเลือดตีบหรือแตกได้
ปัจจัยเสี่ยงที่มากับความเครียดในวัยทำงาน
- ความดันโลหิตสูง ความเครียดทำให้หลอดเลือดบีบตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคหลอดเลือดสมอง
- พฤติกรรมเสี่ยงจากการใช้ชีวิต คนที่มีความเครียดสูงมักหันไปพึ่งพา บุหรี่ แอลกอฮอล์ หรือ อาหารที่ไม่มีประโยชน์ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดอาจทำให้นอนไม่หลับหรือพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้า และขาดสมดุลในการทำงาน
- โรคอ้วนและไขมันในเลือดสูง ความเครียดอาจกระตุ้นให้กินอาหารมากขึ้น จนทำให้เกิดไขมันสะสมในหลอดเลือดและเพิ่มความเสี่ยงของหลอดเลือดอุดตัน
อาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมองที่ต้องระวัง
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะ อาจเป็นสัญญาณของโรคสโตรค ไม่จำเป็นต้องมีครบทั้งหมดทุกอาการ แค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็ถือว่าน่าสงสัย ควรรีบเข้าพบแพทย์ในทันที
- ปวดศีรษะรุนแรงฉับพลันแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- แขน ขา หรือ ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง อย่างเฉียบพลัน
- พูดไม่ชัด หรือ ไม่สามารถพูดได้ ฟังไม่เข้าใจ มีปัญหาด้านการสื่อสาร
- เวียนศีรษะร่วมกับสูญเสียการทรงตัว หรือ เดินเซ
- ตามัว มองเห็นภาพซ้อน
ความเครียดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง หากกำลังประสบกับความเครียด ควรจัดการกับความเครียด โดยการหากิจกรรมเพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้น เช่น การฝึกโยคะ การทำสมาธิ ออกกำลังกายเป็นประจำ การใช้เวลากับครอบครัว หาเวลาสำหรับงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบ และ ที่สำคัญควรหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของโรคหลอดเลือดสมองร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือ โรคหัวใจ การดูสุขภาพจิตและร่างกายจะช่วยให้ลดความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกในสมอง และ ปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่น ๆ ที่อาจตามมา













