พฤติกรรมที่คุณอาจไม่รู้ว่ากำลังทำร้ายดวงตาอยู่

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา การมองเห็นไม่เพียงช่วยให้เราสัมผัสกับความงดงามของโลก แต่ยังช่วยให้เราสื่อสารและทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม วิถีชีวิตสมัยใหม่และพฤติกรรมบางอย่างกลับเป็นภัยต่อสุขภาพตาโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว การดูแลดวงตาจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตให้ดีในระยะยาว การทำความเข้าใจกับพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสายตา รวมถึงสาเหตุและผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งวิธีป้องกันเพื่อรักษาดวงตาเพื่อให้อยู่กับเราได้ยาวนาน
1.การใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน โดยไม่มีการพักสายตา มักเกิดจากการทำงานที่ต้องใช้สมาธิต่อเนื่อง เช่น การพิมพ์งาน การประชุมออนไลน์ หรือการเล่นเกมที่ใช้เวลานาน เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง หรือปวดตา เพราะการจ้องหน้าจอทำให้อัตราการกระพริบตาลดลง ส่งผลให้ดวงตาขาดความชุ่มชื้น เสี่ยงต่อการเกิดโรค Computer Vision Syndrome (CVS) ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสื่อมของจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นลดลง
2.การอ่านหนังสือหรือทำงานในที่มีแสงน้อย
การใช้สายตาในสภาพแสงไม่เพียงพอ เช่น การอ่านหนังสือในที่มืด หรือทำงานในห้องที่แสงไฟไม่เหมาะสม แสงน้อยทำให้ดวงตาต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้เกิดความล้า ปวดตา และอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วยเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสายตาสั้นถาวร เนื่องจากดวงตาต้องปรับโฟกัสมากกว่าปกติ
3.การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานหรือดูแลไม่ถูกวิธี
การใส่คอนแทคเลนส์เกินเวลาที่กำหนด หรือการใช้เลนส์ที่หมดอายุ รวมถึงการไม่ทำความสะอาดเลนส์อย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคทำให้เกิดการระคายเคือง ตาแดง และอาจมีอาการแสบตาหากเกิดการติดเชื้อ อาจนำไปสู่การอักเสบของกระจกตา การเกิดแผล และความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็น
4.การไม่สวมแว่นกันแดดในที่กลางแจ้ง
ดวงตาได้รับรังสี UV โดยตรงจากแสงแดด โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสี UV มีความเข้มข้นสูง อาจเกิดอาการตาล้า ตาแดง หรือรู้สึกไม่สบายตาเมื่ออยู่กลางแดดนานๆการได้รับรังสี UV อย่างต่อเนื่อง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก การเสื่อมของจอประสาทตา และโรคต้อเนื้อ
การดูแลดวงตาไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ผลกระทบในระยะยาวอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและใส่ใจสุขภาพดวงตาตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้คุณมีสายตาที่คมชัดและแข็งแรงไปอีกนานป้องกันดวงตาของเราด้วยการใช้กฎ 20-20-20 คือพักสายตาทุก 20 นาที โดยมองไปที่วัตถุในระยะ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตาหรือปรับแสงให้พอดีสำหรับการทำงานหรืออ่านหนังสือ หลีกเลี่ยงการใช้แสงสว่างที่สว่างเกินไปหรือมืดเกินไป บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เช่น แครอทที่อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน ผักใบเขียวที่มีลูทีน ปลาแซลมอนที่มีโอเมก้า-3 และถั่วที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งช่วยป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา เพียงเท่านี้เป็นหนึ่งในการดูแลดวงตาให้อยู่กับเราได้นาน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน


