ผลกระทบจากอากาศแปรปรวน ทำราคากะหล่ำปลีในญี่ปุ่นแพงขึ้น 3 เท่า แพงกว่าเนื้อสัตว์เสียอีก
ร้านอาหารหลายแห่งของญี่ปุ่นอาจจะต้องลดปริมาณของ กะหล่ำปลี ลง ซึ่งเป็นเครื่องเคียงใน ทงคัตสึ เมนูข้าวหมูทอดยอดนิยมของญี่ปุ่น เนื่องจากราคา กะหล่ำปลี ในท้องตลาดของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติถึง 3 เท่า ซึ่งเป็นราคาที่แพงกว่าราคาเนื้อหมูเสียอีก ส่งผลกระทบกับต้นทุนของผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยร้านอาหารอาจต้องปริมาณกะหล่ำปลีในจานลง จากผลสำรวจราคาผักในท้องตลาดของญี่ปุ่นพบว่า กะหล่ำปลีเป็น 1 ใน 8 ชนิดที่มีราคาแพงกว่าปกติ จากเดิมอาจเคยซื้อกะหล่ำปลีได้ในราคาหัวละ 100-200 เยน แต่ปัจจุบันกะหล่ำปลีราคาสูงถึงหัวละ 500 เยน หรืออาจแพงถึง 1,000 เยนในซูเปอร์มาเก็ตบางแห่ง วิกฤตราคากะหล่ำปลีในญี่ปุ่นเป็นผลพวงมาจากความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศ ในปี 2024 พื้นที่เพาะปลูกกะหล่ำปลีในจังหวัดไอจิและชิบะ เจอกับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งในฤดูร้อน และอากาศหนาวเย็นจัดเมื่อช่วงเดือนธันวาคม แม้ว่ากะหล่ำปลีจะเป็นพืชที่ชอบอากาศหนาวเย็น แต่คลื่นความหนาวรุนแรงในช่วงต้นปี 2025 ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตตของกะหล่ำปลีเพราะอากาศมันหนาวเย็นเกินไป และยังส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆเสียหายหนักไม่แพ้กัน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ในช่วงระยะกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นประสบกับปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มสูงขึ้นหลายอย่าง ทำให้ร้านอาหารต่างๆ มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดมาอย่างยาวนานต้องปิดตัวลง ดังที่เคยเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้