ปิรามิดในเตโอติฮัวกัน ที่มีลักษณะเหมือนเนินดินขนาดใหญ่ ก่อนการขุดค้นทางโบราณคดี
เตโอติฮัวกัน ชื่อที่แปลว่า "สถานที่ที่เทพเจ้าเกิด" หรือ "สถานที่ที่มนุษย์กลายเป็นเทพเจ้า" เป็นชื่อที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเมืองโบราณแห่งนี้ เมืองที่เคยรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยความลึกลับ ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขาเม็กซิโกราวกับปรากฏขึ้นมาจากตำนาน
เมื่อก้าวเข้าสู่เตโอติฮัวกัน ราวกับได้ย้อนเวลาไปสู่ยุคอารยธรรมโบราณ สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ตระการตาตื่นตาตื่นใจ ปิรามิดแห่งพระอาทิตย์และพระจันทร์ ยืนสง่าเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความเชื่อมั่นในศาสนาของผู้คนในอดีต ถนนมรณะที่ทอดยาวเหยียดไปไกลสุดสายตา เชื่อมต่อระหว่างปิรามิดต่างๆ เหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเมือง
ปิรามิดแห่งพระอาทิตย์ และ ปิรามิดแห่งพระจันทร์ ไม่ใช่เพียงแค่กองหินกองดิน แต่เป็นเหมือนมหาวิหารที่ใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ เพื่อบูชาเทพเจ้าที่พวกเขานับถือ การได้ขึ้นไปยังยอดปิรามิด จะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและความสามารถของมนุษย์ในยุคโบราณที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ขึ้นมาได้
ถนนมรณะ นั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างชื่อเรียก แต่กลับเป็นถนนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาในอดีต ผู้คนเดินผ่านไปมา สินค้าต่างๆ ถูกขนส่งไปมาตามเส้นทางนี้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการค้าขายที่เฟื่องฟู
เตโอติฮัวกัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมือง แต่เป็นศูนย์กลางอารยธรรมที่สำคัญของอเมริกาก่อนยุคล่าอาณานิคม เทคโนโลยีการเกษตรที่ก้าวหน้า ศิลปะที่งดงาม และระบบการปกครองที่เป็นระเบียบ ทำให้เมืองนี้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
แม้ปัจจุบันเตโอติฮัวกันจะเป็นเพียงซากปรักหักพัง แต่ความยิ่งใหญ่และความลึกลับของเมืองแห่งนี้ยังคงเป็นปริศนาที่รอคอยการไขปริศนาจากนักโบราณคดีและนักวิชาการทั่วโลก
การมาเยือนเตโอติฮัวกัน คือการเดินทางข้ามกาลเวลาไปสัมผัสกับอารยธรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ เป็นการเรียนรู้เรื่องราวของผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และเป็นการตระหนักถึงความสามารถของมนุษย์ที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ได้