พู่ลูกเสือ เป็นขนๆสีเลือดหมู ผูกมัดติดกับถุงเท้านั้น มีไว้ทำไม และมีประโยชน์อย่างไร
เชื่อว่าหลายคนที่เคยเรียนลูกเสือ อาจจะเคยสงสัยว่า พู่ลูกเสือ เป็นขนๆ ผูกมัดติดกับถุงเท้านั้น มีไว้ทำไม และมีประโยชน์อย่างไร โดยมีจุดเริ่มต้นจาก พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ที่ 3 กษัตริย์แห่งราชวงศ์แพลนทาเจเน็ต ของราชอาณาจักรอังกฤษระหว่างปี ค.ศ. 1327 ถึงปี ค.ศ. 1377 ผู้สถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์ (Order of the Garter) ราวปี ค.ศ. 1348 ในปี ค.ศ. 1344 ทรงมีแผนที่จะรื้อฟื้น ระบบขุนนางโต๊ะกลม ของพระเจ้าอาเทอร์ แต่ก็มิได้เกิดขึ้น แต่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด ที่มีเพียง 24 สำรับ สำหรับพระราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น มีพื้นฐานมาจากตำนานโดยการใช้สัญลักษณ์วงกลมของการ์เตอร์ นักประวัติศาสตร์อังกฤษโพลิดอร์ เวอร์จิล (Polydore Vergil) กล่าวถึงที่มาว่า โจนแห่งเค้นท์ (Joan of Kent) เคานเทสแห่งซอลสบรี—พระสนมคนโปรดขณะนั้น—ทำสายรัดถุงเท้า (Garter) หลุดลงมาโดยอุบัติเหตุที่งานเลี้ยงที่คาเลส์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดจึงทรงช่วยแก้หน้าจากฝูงชนที่เยาะหยันโดยทรงผูกสายรัดรอบพระเพลาของพระองค์เอง ต่อมาได้ทรงสถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์ ขึ้นเป็นเครื่องราชอิสริยภรณ์ชั้นสูงสุดของอังกฤษ จึงให้มีรูปสายรัดถุงเท้าที่มีคำจารึกว่า honi soit qui mal y pense—ความละอายใจจงเป็นของผู้คิดมิดี การแต่งกายของผู้ชายที่เป็นขุนนางและอัศวิน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ ต้องใส่ถุงน่องยาวแบบผู้หญิงด้วย จึงต้องมีเชือกผูกกันถุงน่องรูด ผูกแล้วก็ทิ้งชายลงมาห้อยไว้เหมือนเป็นพู่ ที่จริงมันก็คือ ปลายเชือกไหม ที่เหลือแล้วมันแตกเกลียวมาเป็นพู่ๆ ผู้ให้กำเนิดลูกเสือโลกท่านเป็นขุนนางชั้นอัศวิน เครื่องแบบลูกเสือท่านจึงได้คิดให้ใช้ถุงเท้ายาว จึงต้องผูกเชือกกันถุงเท้ารูดลงมา ต่อมา เมื่อมีการผลิตถุงเท้าที่มีแถบยางยืดได้ Garter ก็กลายรูปไปด้วยวิธีผลิต ดังที่เห็นทุกวันนี้