โรงเรียนในเยอรมนี หันมาเก็บเงินค่าปรับเด็กที่มาสาย ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด
ในทุกวันนี้จะว่าเป็นเพราะพฤติกรรมเด็กนักเรียนเปลี่ยน และความเข้มงวดของผู้ปกครองลดลงก็เป็นได้ เพราะเริ่มมีนักเรียนในเยอรมนีที่มาสายแบบจริงจัง ชนิดเรียกไปคุยก็แล้ว เรียกผู้ปกครองมาพบก็แล้ว ก็ยังมาสาย กระทั่งเรียกว่าโรงเรียนเองก็จนปัญญา เพราะในทางเทคนิค การทำให้เรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นร้องเรียนไปยังหน่วยงานด้านการศึกษานั้นทำให้ยุ่งยากทุกฝ่าย เหตุนี้จึงทำให้โรงเรียนหนึ่งในเมืองนูเรมเบิร์กหัวใส ในปี 2024 จึงออกนโยบายสำหรับนักเรียนที่ยังดึงดันมาสายหลังจากโรงเรียนเรียกไปตักเตือน หรือถึงขั้นเรียกผู้ปกครองมาพบแล้ว แต่ยังมาโรงเรียนสายอีก จะโดนปรับ 5 ยูโร หรือประมาณ 175 บาท โดยมาตรการนี้เขาก็เน้นว่าจะใช้กับคนที่เกินเยียวยาจริงๆ เท่านั้น และจำกัดว่าจะใช้เฉพาะนักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น แน่นอน นี่อาจเป็นเพียงเรื่องตลกถ้ามันดันใช้ไม่ได้ผล แต่ผลลัพธ์จริงก็คือทางโรงเรียนมีรายงานว่า นโยบายปรับเงินกับนักเรียนที่มาสาย ได้ผลจริงๆ สุดท้ายนักเรียนมาตรงเวลา ถึงตรงนี้ถ้ายังรู้สึกว่าฮากันอยู่ เราก็อาจไม่ได้เห็น บทเรียน ของกรณีนี้ เพราะจริงๆ แล้วบทเรียนก็คือการลงโทษนักเรียนนั้น ไปๆ มาๆ ถ้าจะให้ได้ผล มันต้องลงโทษให้ถึงตัวผู้ปกครองที่ต้องคอยช่วยดูแลให้ลูกมีระเบียบวินัย โดยเคสที่เกิดขึ้นนี้ได้มีการเรียกนักเรียนมาตักเตือนแล้วแต่ก็ยังเฉยๆ เรียกผู้ปกครองมาคุยก็ยังมาสายเหมือนเดิม แต่พอปรับเงินปุ๊บ ได้เรื่องเลย เพราะถ้าผู้ปกครองไม่เคี่ยวเข็ญให้ลูกมาเรียนตรงเวลา ผลก็คือตัวเองก็ต้องเสียค่าปรับ ดังนั้นมันจึงสร้างแรงจูงใจยิ่งกว่า ความกลัว ในการโดนเรียกไปตักเตือนเรื่องพฤติกรรมมาสายของลูก ซึ่ง ความสำเร็จ’นี้ ไปๆ มาๆ อาจเป็นกุญแจที่จะช่วยให้ครูบาอาจารย์ยุคนี้สามารถจัดการกับพฤติกรรมของนักเรียนมากขึ้นก็ได้ เพราะปัญหาที่มีกันทั่วโลกคือ พ่อแม่เด็กรุ่นใหม่นั้น หัวหมอ และ เข้าข้างลูก มากขึ้นแบบคล้ายกันทั้งโลก ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีการโวยวายมากมายถึงความ เอาแต่ใจและไม่อดทน ของคนรุ่นใหม่ๆ กันขนาดนี้หรอก และบทเรียนจากเยอรมนีก็ทำให้เราพบว่า ถ้าการพูดคุยดีๆ ทำให้นักเรียนทำตามระเบียบโรงเรียนอันเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาไม่ได้ บางทีการ ปรับ นี่แหละที่ได้ผลชะงัด