200ชีวิตหายสาบสูญ! โศกนาฏกรรมเครื่องบิน MH370 ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ..
วันที่ 8 มีนาคม 2014 เป็นวันที่โลกต้องเผชิญกับหนึ่งในความลึกลับที่สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน เครื่องบิน Malaysia Airlines เที่ยวบิน MH370 ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครเพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง แต่กลับไม่เคยถึงจุดหมายปลายทางและหายไปในอากาศอย่างไร้ร่องรอย เหตุการณ์นี้ไม่เพียงทำให้ครอบครัวของผู้โดยสารกว่า 230 คนต้องตกอยู่ในความทุกข์ระทม แต่ยังสร้างคำถามที่ไม่มีคำตอบให้กับโลกใบนี้ว่า “เกิดอะไรขึ้นจริงๆ กับเครื่องบินลำนี้?”
เครื่องบิน Boeing 777-200ER ลำนี้ทิ้งรอยมืดในประวัติศาสตร์การบิน หลังจากเครื่องบินบินไปได้เพียง 40 นาทีจากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ความเงียบก็เริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อเครื่องบินตัดการสื่อสารกับหอบังคับการบินและเริ่มออกนอกเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ เครื่องบินหายไปจากหน้าจอติดตามการบินของเรดาร์พลัน การสื่อสารจากหอบังคับการบินก็หยุดไปโดยไม่มีการแจ้งเหตุใดๆ ล่วงหน้า
ทุกอย่างเงียบสงบ… แต่สำหรับทุกคนบนเครื่องบินนั้น ไม่มีความสงบเลยแม้แต่น้อย
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการตั้งทีมค้นหาขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยเรือ, เรือดำน้ำ, เครื่องบินและอุปกรณ์ทันสมัยทั้งหมดที่สามารถนำมาใช้ในการค้นหา อย่างไรก็ตาม การค้นหาครั้งแรกที่ดำเนินไปทั่วทั้งมหาสมุทรอินเดีย กลับพบเพียงเศษซากชิ้นส่วนของเครื่องบินในบางจุด แต่ก็ไม่มีคำตอบชัดเจนว่าทำไมเครื่องบินถึงตกหรือหายไป
ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านไป เจ้าหน้าที่จากหลายประเทศต้องเผชิญกับความผิดหวัง เมื่อพวกเขาไม่สามารถหาตำแหน่งที่แน่นอนของเครื่องบินได้ บางส่วนเริ่มเชื่อว่าอาจจะเกิดการกระทำที่เจตนาหรือเหตุการณ์ไม่ปกติขึ้นในห้องนักบิน
ทฤษฎีต่างๆ
หลายทฤษฎีเริ่มเกิดขึ้นในระหว่างการค้นหาผลสืบสวนเรื่องราวนี้ บางคนเชื่อว่าเครื่องบินอาจถูกจี้โดยผู้ก่อการร้าย บางคนเชื่อว่าอาจจะเกิดปัญหาทางเทคนิคที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ทฤษฎีที่สะเทือนขวัญที่สุดคือลัทธิที่เชื่อว่าผู้ขับเครื่องบินอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการหายตัวไปของเครื่องบินโดยเจตนา
เครื่องบิน MH370 ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงทิศทางที่ผิดปกติเมื่อถูกควบคุมโดยบุคคลในห้องนักบิน หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่ามันอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุทางเทคนิคอย่างที่หลายฝ่ายคิด แต่เป็นการกระทำที่มีจุดประสงค์ที่น่ากลัวและมืดมนบางอย่างซ่อนอยู่
ในปี 2015 และ 2016 ได้มีการค้นพบเศษซากของเครื่องบินที่ถูกคลื่นพัดไปเกยชายฝั่งเกาะในมหาสมุทรอินเดีย ที่สำคัญคือส่วนของปีกเครื่องบินที่ถูกค้นพบในเกาะรีอูนียง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเครื่องบินได้ตกลงในมหาสมุทรจริงๆ แต่ไม่สามารถหาตำแหน่งที่แน่นอนของจุดที่เครื่องบินตกได้ ข้อมูลที่มีอยู่จึงยังคงเป็นเพียงเศษส่วนที่ไม่สามารถนำไปสู่คำตอบได้ทั้งหมด
รัฐบาลมาเลเซียและหน่วยงานต่างประเทศหลายแห่งร่วมมือกันในการสืบสวนเพื่อหาคำตอบสำหรับการหายตัวไปของ MH370 แต่ในที่สุด การค้นหาหยุดลงในปี 2018 หลังจากที่การค้นหาทางทะเลสิ้นสุดลงโดยไม่มีการพบหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินลำนี้ ความลึกลับและความไม่แน่ใจที่ยังคงทิ้งรอยคลุมเครือบนโลกใบนี้
แม้จะมีการสอบสวนและการค้นหามานานหลายปี แต่ความลึกลับของ เครื่องบิน MH370 ยังคงเป็นปริศนา ทุกคำอธิบายเกี่ยวกับการหายตัวไปของมันเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ไม่มีใครสามารถบอกได้ชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือใครเป็นผู้กระทำ
โศกนาฏกรรมของเครื่องบิน MH370 ได้เตือนให้โลกได้รับรู้ถึงความเปราะบางของการเดินทางในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่เรามองไม่เห็น ความลึกลับนี้ยังคงเป็นปริศนาที่หลอกหลอนโลกและเป็นบทเรียนในความไม่แน่นอนของชีวิตและการเดินทางที่เราไม่อาจคาดเดาได้
เรื่องราวของ MH370 ยังไม่จบลงและจะยังคงเป็นหนึ่งในคดีที่สะเทือนขวัญและสร้างความหลอนในหัวใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องไปอีกนาน.