ทำไมวัยรุ่นถึงชอบซ่อนของขวัญ ให้คนแปลกหน้าที่เมืองต่างๆในจีน
คืนก่อนวันคริสต์มาส ซานตาคลอสลึกลับได้ซ่อนลูกโลกหิมะและตุ๊กตาต้นคริสต์มาส เอาไว้ในเขตมหาวิทยาลัยไห่เตี้ยนของปักกิ่ง ก่อนที่จะอัปโหลดเบาะแสเกี่ยวกับสถานที่ซ่อนทางออนไลน์ ภายในไม่กี่นาที วัยรุ่นจำนวนหนึ่งได้ไปยังสถานที่ ที่คนแปลกหน้าแชร์ไว้บนเน็ต ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นจัด ซึ่งพวกเขาก็พบของขวัญเหล่านั้น...
ในประเทศจีน การซ่อนของขวัญไว้ทั่วเมือง กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน โดยพวกเขาเรียกว่า "การล่าสมบัติของเมือง" ซึ่งกำลังได้รับความนิยมบนแอพ "อินสตาแกรม" และ แอพ "เสี่ยวหงจื่อ" โดยมีแฮชแท็กว่า #xunbao ซึ่งเป็นคำภาษาจีนที่แปลว่า "การล่าขุมทรัพย์" นั่นเอง...
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า "จากเสฉวนไปจนถึงซานตง กลุ่มคนหนุ่มสาวชาวจีนที่เพิ่มจำนวนขึ้น กำลังเปลี่ยนเมืองของตัวเองให้กลายเป็นสนามเด็กเล่น ด้วยการทิ้งของขวัญต่างๆ เช่น งานหัตถกรรม ซองชานม และ กล่องสุ่มไว้ทั่วเมือง..."
ชาวจีนรุ่นใหม่หลายคนกล่าวว่า "การล่าขุมทรัพย์เหล่านี้ช่วยสร้างความสุข ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในจีน ซึ่งการเติบโตยังคงซบเซา ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จะยกเลิกข้อจำกัดโควิด ในช่วงสิ้นปี 2023 แล้วก็ตาม..."
"เดซี่ กัว" ที่อาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า "การตามล่าหาสมบัติช่วยทำลายความจำเจของชีวิตในเมือง ที่ผู้คนต้องเดินทางไปมาระหว่างที่ทำงานและบ้าน ด้วยการมอบสิ่งที่น่าสนุกให้ผู้คนทำ..."
ชายวัย 34 ปี ใช้กิจกรรมดังกล่าว เป็นช่องทางในการแจกของที่ซื้อมาเกิน ให้กับคนที่สามารถนำของเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า...
"เดซี่ กัว" กล่าวอีกว่า "ครั้งหนึ่งมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเล่าว่า การได้รับของขวัญในวันนั้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่า" และ "ฉันได้ซ่อนของขวัญคริสต์มาส ที่มีเทียนรูปแอปเปิ้ลเอาไว้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การมอบแอปเปิ้ล เป็นของขวัญได้กลายเป็นประเพณีคริสต์มาสในจีน เนื่องจากคำว่าแอปเปิ้ลในภาษาจีน ฟังดูคล้ายกับวันคริสต์มาสอีฟ นั่นเอง"
"อูลา หว่อง" ชาวเมืองอู๋ซี วัย 20 ปี กล่าวว่า "ฉันหวังว่าการตามหาสมบัติ จะช่วยให้ผู้คนรอบตัวฉัน สัมผัสถึงความสุขเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันได้" และ "มันก็เหมือนกับตอนที่พนักงานเสิร์ฟบอกคุณว่า โต๊ะถัดไปได้จ่ายเงินค่าอาหารของคุณไปแล้ว นั่นเอง..."
"หวาง" ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพักการเรียน ได้ปรับแต่งของขวัญของเธอ ตามความต้องการของผู้คน ซึ่งพวกเขามักจะไปในพื้นที่ๆเธอซ่อนของขวัญเอาไว้ เช่น เธอวางซองกาแฟหรือชานม ไว้ใกล้บริเวณสำนักงาน หรือ วางร่มในวันที่ฝนตก... ซึ่งเธอกล่าวว่า "ฉันคิดว่าการล่าขุมทรัพย์ ได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกวันนี้ เพราะทุกคนต่างให้ความสำคัญ กับความสุขมากขึ้นนั่นเอง" และ "การค้นหาขุมทรัพย์ เป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำ ในการเติมเต็มความปรารถนาเหล่านั้น ได้หลายครั้ง..."
นักศึกษาปริญญาเอก "เฮ่อทัง หว่อง" อายุ 28 ปี มองว่ากิจกรรมดังกล่าว เป็นช่องทางหนึ่งในการส่งต่อผลงานหัตถกรรมของเธอ ให้กับผู้คนจำนวนมากขึ้น หลังจากตระหนักได้ว่างานศิลปะของเธอ สามารถช่วยให้คนอื่นๆรู้สึกดีและสดชื่นขึ้นได้...
"เจีย ตงอี้" อายุ 27 ปี ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า "เครื่องประดับเล็กๆน้อยๆที่ถูกซ่อนไว้ ปัจจุบันนั้นมีความหลากหลายมากกว่า เครื่องประดับที่เคยปรากฏในเว็บเมื่อปีก่อนๆ อีกทั้งยังมีเงินสดอีกด้วย..."
ผู้ใช้ชาวจีนที่ค้นพบสมบัติเหล่านี้ มักจะแบ่งปันความรู้สึกขอบคุณของพวก เขาสื่อบนโซเชียลมีเดีย พร้อมแท๊กชื่อจุดล่าสมบัติดังกล่าว















